ศ.ดร.
"จำเป็นที่เราจะต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบในเรื่องนี้ เพราะต้องยอมรับว่าบุคคลที่เข้ามาเป็นข้าราชการนั้นส่วนหนึ่งมาจากการที่ได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลที่ดี แม้จะได้เงินเดือนน้อยกว่าการทำงานกับภาคเอกชน ดังนั้นจึงต้องขยายสิทธิประโยชน์ของข้าราชการออกไป เพื่อไม่ให้ข้าราชการเสียประโยชน์ส่วนนี้"ศ.ดร.ภักดีกล่าวและว่า สิทธิประโยชน์ที่จะให้เพิ่มอาจจะเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง และต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนการคัดค้านของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) นั้น ศ.ดร.ภักดี กล่าวว่า เท่าที่ได้หารือกันเห็นว่าเป็นเพียงความเข้าใจผิด ที่ สปส.เข้าใจไปเองว่าเป็นเทคนิคในการยุบรวมกองทุนรักษาพยาบาลของ สปส.เข้ากับกองทุน 30 บาท ช่วยคนไทยห่างไกลโรค ซึ่งได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าไม่ใช่การยุบรวมกองทุน อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วการใช้บัญชียาหลักแห่งชาติเพียงบัญชีเดียวทุกหน่วยงาน จะต้องผ่านมติของครม.ก่อน แต่ที่ผ่านมามตินี้ยังเป็นเพียงมติของกระทรวงสาธารณสุขที่เห็นว่าหากใช้บัญชียาเดียวกันจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพการใช้ยาและประหยัดงบประมาณของรัฐเท่านั้น ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำ พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณารับในหลักการรอบที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้ได้พิจารณาและส่งให้คณะกรมการกฤษฎีกาพิจารณาไปแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะเปิดสภาได้เมื่อใด ดังนั้นจึงต้องรอจนกว่าจะเปิดสภาได้
.............................................................................
ที่มา: http://www.dailynews.co.th