18 ก.ค. 2549 กระทรวงพลังงานเปิดเผยปริมาณการใช้น้ำมันช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ลดลงต่อเนื่องทั้งในส่วนน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยเฉพาะในเดือนมิ.ย.ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลลดลงต่ำสุดรอบ 6 เดือนเป็นผลจากการประหยัดพลังงานและราคาน้ำมันสูง ขณะที่ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้การนำเข้าน้ำมันดิบลดลงร้อยละ 1.7โดยสาเหตุของการใช้ดีเซลลดลง ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพของภาครัฐ และสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังการลอยตัวน้ำมันดีเซลตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 48

โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) ปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่เฉลี่ย 52 ล้าน 6 แสนลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 9.3 จากงวดปีก่อนที่มีการใช้ 58 ล้านลิตร/วัน นับเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ตั้งแต่ก.ค.48 นอกจากนี้ในเดือนมิ.ย.เป็นเดือนที่มีการใช้น้ำมันดีเซลต่ำสุดในรอบ 6 เดือนมาอยู่ที่ระดับ 48 ล้าน 9 แสนลิตร/วัน

ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่เฉลี่ย 19.7ล้านลิตร/วัน ลดลง 3% จากงวดปีก่อนที่มีการใช้ 20.4 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น และกลุ่มผู้ขับรถยนต์บางส่วนเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) และแก๊สโซฮอล์มากขึ้น ส่งผลให้การใช้แก๊สโซฮอล์เติบโตอย่างรวดเร็วโดยมีการใช้เฉลี่ย 3 ล้าน 5 แสนลิตร/วัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.6 ของการใช้เบนซินทั้งหมด โดยปริมาณการใช้น้ำมันที่ลดลงส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันดิบช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ลดลงร้อยละ 1.7 มาที่เฉลี่ย 8 แสน 3 หมื่น 3 พันบาร์เรล/วัน จากงวดปีก่อนที่นำเข้าเฉลี่ย 8 แสน 4 หมื่น 8 พันบาร์เรล/วัน แต่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.7 มาที่ 3 แสน 7 หมื่น 6 พันล้านบาท หลังราคาเฉลี่ยในช่วง 6 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5

อย่างไรก็ตามในส่วนของปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปช่วง6 เดือนแรกของปีนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศคิดเป็นมูลค่ารวม 8 แสน 3 หมื่น 8 พันล้านบาท โดยเป็นส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 มูลค่า 2 หมื่น 7 พัน 6 ร้อยล้านบาท และส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.9 มูลค่า 5 หมื่น 6 พัน 2 ร้อยล้านบาท

ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก