Skip to main content
sharethis


ประชาไท—19 ก.ค. 2549 เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2549 ศาลจังหวัดปัตตานี มีการนัดไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีหมายเลขดำที่ ช.4/2547 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ผู้ร้อง กับนายสะการียา ยูโซ๊ะ ผู้ตายในเหตุการณ์ยิงถล่มมัสยิดกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 กับพวกรวม 32 คน

 


พนักงานอัยการแถลงว่า วันนี้มีพยาน 3 ปากที่จะมาเบิกความ ได้แก่ ส.ต.อ.อิบรอฮีม การีนา ส.ต.อ.สุทัศน์ ตันติสุนทรวัฒน์ และส.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภูมิระเบียบ ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดตรวจกรือเซะ ตำบลตันหยงลูโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานีในวันเกิดเหตุ


 


ศาลได้พิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน ที่พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีนำมาไต่สวน ทั้งก่อนเกิดเหตุจนกระทั่งเกิดเหตุบริเวณจุดตรวจกรือเซะเพียงพอแล้ว ยังคงเหลือข้อเท็จจริงขณะปิดล้อมมัสยิดกรือเซะ ศาลจึงให้พนักงานอัยการนำพยานที่เกี่ยวข้องกับการปิดล้อมมัสยิดดังกล่าวมาไต่สวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว สำหรับข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้ ศาลรับฟังเพียงพอแล้ว จึงมีคำสั่งให้งดไต่สวนพยานที่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงก่อนหน้าการปิดล้อมมัสยิดทั้งหมด


 


ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ได้นำตัว ส.ต.อ.สุรเชษฐ์มาเบิกความเพียงปากเดียว โดยส.ต.อ.สุรเชษฐ์ เบิกความสรุปว่า เช้ามืดวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนยืนอยู่หน้าจุดตรวจกรือเซะ มีทหารคนหนึ่งวิ่งมาบอกว่าเห็นชายฉกรรจ์ประมาณ 40 คน วิ่งตรงมาที่จุดตรวจ แต่ไม่ทันได้พูดจบชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวก็จู่โจมเข้ามาในจุดตรวจ จากนั้นตนได้ยินเสียงร้องโอ้ย คาดว่าเป็นเสียงของตำรวจที่ถูกทำร้าย ตนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงวิ่งเข้าไปหลบในสวนมะพร้าวด้านทิศเหนือของมัสยิดกรือเซะ จากนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์อีกเลย แต่ได้ยินเสียงปืน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของฝ่ายใด จากนั้นประมาณ 30 นาที เหตุการณ์ที่จุดตรวจสงบ ตนจึงออกไปนำเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จึงไม่เห็นเหตุการณ์อีกเลย


 


สำหรับคดีนี้ได้มีการไต่สวนพยานไปแล้ว 7 ปาก ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ทั้งหมดเบิกความตรงกันว่า กลุ่มคนร้ายได้เข้าไปยึดมัสยิดกรือเซะ และมีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่นำกำลังไปล้อมมัสยิดจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สำหรับพล.อ.พัลลภ ได้เบิกความว่า หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว หากปล่อยไว้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้นอีก อีกประการหนึ่งเห็นว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทำลายจุดตรวจแล้วเข้ายึดมัสยิด ใช้เป็นกองบัญชาการก่อการจลาจล ตนจึงสั่งการให้ดำเนินการทางยุทธวิธีทหาร เพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบให้หมด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net