Skip to main content
sharethis


อิหม่ามราห์มัต พี. พยะกุล


 


ภาคใต้—22 ก.ค. 2549 อิหม่ามไทยในสหรัฐ แขกสถานทูตมะกันเผย ถูกต่างชาติถามสถานการณ์เมืองไทยตลอดเวลา โดยเฉพาะเหตุการณ์ชายแดนใต้ ย้ำแก้ปัญหามุสลิม ต้องใช้สันติวิธี "อภิสิทธิ์" นำทีมประชาธิปัตย์พบนักศึกษา มอ.ปัตตานี ยันรัฐบาลต้องเปลี่ยนนโยบายแก้ปัญหาไฟใต้ ตำรวจผนึกทหาร ส่งกำลัง 300 นาย ล่าคนร้ายถล่มป้อมตำรวจสายบุรี


 


อิหม่ามไทยในสหรัฐวอนใช้สันติวิธีดับไฟใต้


อิหม่ามราห์มัต พี. พยะกุล อิหม่ามประจำมัสยิด อัล - ฟาติฮา รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า คนไทยในสหรัฐอเมริกา ติดตามข้อมูลข่าวสารสถานการณ์การเมืองในไทยตลอด ปัญหาต่างๆ ที่เกิดในไทยได้รับความสนใจจากต่างชาติ คนไทยในสหรัฐอเมริกาจึงมักจะได้รับคำถามจากชาวต่างชาติว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คนไทยในสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่ ทั้งเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง พฤติกรรมของผู้บริหารประเทศที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


 


อิหม่ามราห์มัต กล่าวว่า วิกฤตปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดขึ้นทั้งที่ประเทศไทยไม่ได้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ปัญหาจึงน่าจะแก้ไขได้ แต่ต้องยอมรับว่าปัญหานี้สั่งสมมานาน รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ ไม่ใช่ไม่ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับแนวทางและวิธีการแก้ไขเป็นอย่างไรมากกว่า คนที่จะเข้ามาแก้ปัญหา ต้องรู้ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตของชาวมุสลิมในพื้นที่ ไม่สร้างความรู้สึกเอารัดเอาเปรียบและแบ่งแยกคนออกจากกัน


 


"ชาวมุสลิมรักสันติภาพ มีจุดยืนต่อต้านสงครามชัดเจน การแก้ไขปัญหาจึงต้องใช้สันติวิธี รัฐบาลต้องเข้าใจและเคารพวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม มีความจริงใจต่อชาวบ้าน ทำให้เกิดความเชื่อถือ ทั้งหมดนี้ จะทำให้ผู้ก่อความไม่สงบ ไม่สามารถเข้ามาสร้างความแตกแยกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้" อิหม่ามราห์มัต กล่าว


 


สำหรับอิหม่ามราห์มัต ได้รับเชิญจากสถานทูตสหรัฐอเมิรกาประจำประเทศไทย มาพบปะกับผู้นำศาสนาและชาวไทยมุสลิมจังหวัดไทยแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 19 - 21 กรกฎาคม 2549 เริ่มจากจังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดสงขลา ตามลำดับ


 


ทั้งนี้ อิหม่ามราห์มัต เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นอิหม่ามประจำมัสยิด อัล - ฟาติฮา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2541 เป็นมัสยิดของคนไทยเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศ


 


"อภิสิทธิ์"พบนักศึกษามอ.ปัตตานี


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2549 ที่ลานอิฐ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคใต้ประมาณ 30 คน ได้พบปะพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี


 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ห่วงใยประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากปล่อยให้สถานการณ์ความรุนแรงดำเนินต่อไป จะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใด ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดจากการกำหนดนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่ยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา


 


"ผมคิดว่ารัฐบาลจะต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัย อยู่ในชุมชนอย่างมีความสุข การหลอมรวมคนในประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว เคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของคน ควบคู่ไปกับคุณธรรมและจริยธรรม เป็นเรื่องที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชาติ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ น่าจะถูกยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งการลงมาในครั้งนี้ก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพรรค และอยากให้ประชาชนได้รับรู้ว่านักการเมืองยังมีความห่วงใยประชาชน และพร้อมที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น


 


"ปชป." เยี่ยมเหยื่อไฟใต้ยะลา


จากนั้น นายอภิสิทธิ์พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยนายอภิสิทธิ์ ได้เข้าพบนายแพทย์พินิจ กุลละวณิชย์ เลขาธิการแพทยสภา ที่กำลังประชุมกับคณะกรรมการพิจารณาติดตามปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เพื่อรับทราบข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาด้านการแพทย์ในพื้นที่


 


ต่อมา คณะของนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนางสาวจูหลิง ปงกันมูล ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา


 


ส่ง300ล่าคนร้ายดวลปืนตำรวจ


วันเดียวกัน พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงษ์วรชาติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้สนธิกำลังร่วมกับพ.ท.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผบ.ฉก.22 พ.ท.ปกรณ์ จันทโชติ รอง ผบ.กรมทหารพราน นายวินัย ครุวรรณพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กว่า 300 นาย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 11 จุด ในอำเภอสายบุรี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ที่คาดว่าคนร้าย ที่เข้าโจมตีป้อมตำรวจเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2549 ถูกยิงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ใช้เป็นเส้นทางหลบหนีและซุกซ่อนอาวุธปืน


 


ในการตรวจค้นคลองลูโบ๊ะปุลง หมู่ 10 ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี โดยชุดประดาน้ำตำรวจและหน่วยนาวิกโยธิน 20 นาย พบอาวุธปืน 2 กระบอก ซองกระสุน 2 ซอง รองเท้าผ้าใบ และหมวกตำรวจ อาวุธทั้งหมดถูกนำไปตรวจสอบที่ ฉก.22 รวมอาวุธที่ตรวจยึดได้ 9 กระบอก แยกเป็น เป็นปืน M - 16 จำนวน 4 กระบอก อาก้า 1 กระบอก เอช เค 4 กระบอก


 


สำหรับคนร้ายที่เสียชีวิต 2 คน คือ นายฮาซัน วาแม เป็นหัวหน้าทีม อยู่ที่ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ นายมะกูบี บากา อายุ 32 ปี อยู่ที่ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุม 3 คน คือ นายอับดุลรอนิง สะแลแม อยู่ที่หมู่ 10 ตำบลป่าบอน อำเภอสายบุรี นายมะรอฟี สะมะแอ อยู่ที่หมู่ 10 ตำบลป่าบอน อีก 1 คน ไม่ทราบชื่อ ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวน


 


ขณะเดียวกัน กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์ว่า กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีดำ ทะเบียน 160 นราธิวาส เป็นพาหนะ แต่งกายชุดพรางคล้ายทหาร คนร้าย 2 คนสวมหมวกแก๊ปสีดำของตำรวจ สวมเสื้อเกราะกันกระสุน มีอักษร "police" เพื่ออำพรางให้เจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่กันเอง และป้ายความผิดให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อหวังผลประโยชน์ในการใช้งบประมาณ


 


จากการยิงตอบโต้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จนทำให้คนร้ายต้องทิ้งหลักฐาน คือ รถยนต์ พร้อมคนร้ายที่บาดเจ็บสาหัสสวมชุดลายพรางแบบทหาร หมวกตำรวจสีดำ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เป็นการกระทำอำพรางของคนร้าย ที่ต้องการใส่ร้ายให้ประชาชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่ และไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ


 


สำหรับคนร้ายเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บเจ้าหน้าที่จับได้ 1 คน และจับผู้ต้องสงสัยได้อีก 3 คน จากสภาพรอยกระสุนที่รถยนต์และรอยเลือดที่บริเวณคนร้ายทิ้งรถยนต์แล้วหนี เชื่อว่า ยังมีคนร้ายบาดเจ็บอีกหลายราย ขอให้ญาติพี่น้องของคนร้ายที่บาดเจ็บ นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ทางราชการพร้อมให้การรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนความผิดของผู้ก่อเหตุ จะดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


 


เวลา 08.00 น.วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี บรรดาญาติๆ ได้มารับศพนายมะยูดิง บากา อายุ 30 ปี ชาวตำบลตะบิ้ง ซึ่งเสียชีวิตระหว่างรักษาอาการบาดเจ็บจากบาดแผลที่ยิงปะทะกับตำรวจ ที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยเจ้าหน้าที่ได้บันทึกประวัติของผู้ตายเก็บไว้เป็นหลักฐาน


 


ปล้นปืนผู้ใหญ่บ้านปัตตานี


เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายปูอับ แวยามา อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลสาคอบน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ออกไปละหมาดที่มัสยิด ปล่อยให้นางรอเฮ แวยามา อายุ 40 ปี ภรรยา อยู่บ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำตามลำพัง มีคนร้าย 6 คน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ 2 คัน แต่งชุดเสื้อสีขาวยาวตามแบบมุสลิม 4 ใน 6 คน ได้ลงมาจากรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนที่แอบไว้ในเสื้อจี้ศีรษะนางรอเฮ บังคับให้ส่งมอบอาวุธปืนให้ แต่นางรอเฮปฏิเสธแสดงอาการขัดขืน จนคนร้ายต้องหลบหนีไปตามถนนสายมายอ - ราตาปันยัง โดยโปรยตะปูเรือใบตลอดเส้นทางหลบหนี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net