โดย : วิทยากร บุญเรือง
1
Shane Comeback!
"
"พระเล็ก" โผล่สระบุรีให้ 960 เป็นเลขเด็ด "ผอ.กองสลาก" ขู่ฮึ่ม
. จากกรณีพระเล็กหรือพระตี๋ (พระโลงผี) อดีตพระลูกวัดลาดทิพยรส ต.ลาดทิพยรส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ที่เคยให้หวยแก่ญาติโยมถูกติดต่อกันหลายงวดจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ จนถูกคณะสงฆ์ จ.นครสวรรค์ สั่งห้ามให้หวยและให้ออกจากวัดลาดทิพยรส ซึ่งมีกระแสข่าวว่าพระเล็กได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี หลังจากที่พระเล็กได้เก็บตัวเงียบมาระยะหนึ่ง ในช่วงค่ำคืนที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีเสียงร่ำลือกันทั่วเมืองสระบุรี ว่าพระเล็กได้เปิดเผยตัว โดยทำพิธีตั้งศาลพระภูมิที่คฤหาสน์ของเสี่ยศักดิ์ (นามสมมติ) เจ้าของโรงโม่ในเขต ต.หน้าพระลาน และยังให้เลขเด็ดกับผู้มาร่วมพิธีอีกพันกว่าคน.. "
(หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 ก.ค. 2549)
และแล้ว Shane ก็กลับมา!
0 0 0
แวดวงผ้าเหลืองไทยในปัจจุบัน ร้อนระอุไปด้วยปัญหาการกระทำผิดหลักศีลธรรมของพระสงฆ์เองส่วนหนึ่ง และแน่นอนว่าข่าวคราว-ข่าวคาว เหล่านี้มันคือวัตถุดิบชั้นยอดของหนังสือพิมพ์หัวสีและรายการเล่าข่าวยามเช้าของทุกสถานี ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์กันด้วยทฤษฎีจิตวิเคราะห์แล้ว การนำเสนอข่าวอาชญากรรมของกลุ่มบุคคลที่ไม่น่าจะก่อและเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิด ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอย่างหนึ่ง
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ข่าวแบบนี้ได้รับการกล่าวขวัญอยู่เนืองๆ และจะไม่มีวันหมดไปบน "ธุรกิจสื่อสารมวลชนไทย"
การที่สถาบันสงฆ์ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดและเข้มข้นเฉกเช่นปัจจุบันนี้ ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการของสังคมที่มีเสรีภาพและมีปัญญาอีกขั้นหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทุกสถาบันหลักของสังคมไทยก็ควรต้องได้รับการตรวจสอบ-วิพากษ์วิจารณ์-กล่าวถึง อย่างถ้วนหน้ากัน เพื่อให้บ้านเราก้าวพ้นจากสังคมด้อยพัฒนาทางเสรีภาพและปัญญาเสียที
สำหรับสื่อกระแสหลักแล้ว การนำสถาบันสงฆ์มาตรวจสอบวิพากษ์-วิจารณ์บนหน้าจอทีวีหรือพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หัวสีเกือบทุกวี่ทุกวัน มองอีกมุมหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการ "เลือกปฏิบัติ" ต่อสถาบันใดสถาบันหนึ่ง เช่นเดียวกับการนำเสนอข่าวคราวการทำอาชญากรรมของชนชั้นล่างในสังคม ซึ่งถ้าลองมองดูลึกๆ มันเหมือนกับการท้าทายสถาบันที่แทบจะไม่มีพลังตอบโต้ใดๆได้เลยในสังคมนี้
สื่อเป็นผู้กระทำทั้งสถาบันสงฆ์และชาวบ้านเท่านั้น! จะให้พระสงฆ์รวมพลังกันสวดมนต์สาปแช่งสื่อ หรือให้ชาวบ้านปิดล้อมสำนักงานสื่อ มันก็แทบที่จะเทียบไม่ได้กับการที่ - ฝ่ายปกครองใช้ข้อกฎหมายเล่นงานสื่อ ,หรือองค์กรธุรกิจไม่ให้การสนับสนุนเม็ดเงินสื่อ ,หรือกำลังภายในของสถาบันที่สูงขึ้นไป, ฯลฯ --- เหล่านี้คืออีกหนึ่งเหตุผลที่สื่อในกระแสจ้องคอยแต่จะเล่นงาน "สถาบันที่ไม่มีทางสู้" อยู่ทุกวี่ทุกวัน
แน่ล่ะ!ว่าพวกเขาอาจจะมีถูกผิดบ้างปะปนกันไป แต่ทำไมไม่เฉลี่ยการ "ตรวจสอบ-เล่นงาน" นี้ให้ทั่วทุกสถาบัน ทุกภาคส่วนที่มีอิทธิพลต่อสังคม
และความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวงการสงฆ์ในช่วงระยะเวลานี้ คงไม่มีสงฆ์รูปใดร้อนแรงเท่ากับ "หลวงพี่เล็ก" ไปอีกแล้ว ด้วยการประพฤติตนเป็นขบถแหกคอก (Rebel) ให้เลขหวยกับชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นการผิดหลักคำสอนของศาสนาพุทธโดยตรง แต่ทว่า
ในสังคมที่หลากหลายความคิดเห็นเช่นนี้ หลวงพี่เล็กอาจจะเป็น "ซาตาน" สำหรับใครหลายคน และเช่นเดียวกันกับใครอีกหลายคน หลวงพี่เล็กอาจเปรียบเสมือน "ศาสดา" เลยทีเดียว
เฉกเช่นวลีทองของเจ้าพ่อสื่อสิ่งพิมพ์รุ่นใหม่คนดังคนหนึ่ง ได้เคยกล่าวไว้ว่า "เราต่างมีศาสดาคนละองค์กัน" .. หุ..หุ :-)
2
นักบุญยุค Post-Modern
หลวงพี่เล็ก อุปสมบทที่วัดป่าธรรมโสภณ อ.เมือง จ.สระบุรี จากนั้นก็ปวารณาตนเป็นพระธุดงค์ มีนิสัยส่วนตน ชอบเปลี่ยนที่แสวงบุญไปตามวัดต่าง ๆ ของประเทศ
หลวงพี่เล็ก ปฏิบัติตนแตกต่างจากสงฆ์รูปอื่น ๆ ตรงที่จะ ไม่จำวัดในกุฏิ แต่ชอบนอนในโลงศพ หรือ ตะแกรงในเมรุสำหรับรองเผาโลงศพ --- นี่คือองค์ประกอบหนึ่งทางเครื่องหมายการค้าของหลวงพี่เล็ก
แต่ Brand หลักสำคัญของหลวงพี่เล็กที่ทำให้เป็นที่กล่าวขวัญถึงทั่วประเทศนั่นก็คือ
ให้เลขหวยแม่น! จนเป็นกลายศาสดาของคอหวยคนยากในแถบละแวกที่หลวงพี่เล็กจาริกไปถึง
วัดไหนที่หลวงพี่เล็กไปพำนักปักกลด-นอนในเมรุ ก็มักจะร่ำรวยขึ้นภายในชั่วพริบตา ด้วยแรงศรัทธาของคอหวย ล่าสุดที่วัดลาดทิพรส เพียงไม่กี่เดือน สามารถทำรายได้เข้าวัดได้ ไม่ต่ำกว่า 14 ล้านบาท แล้วก็นำไปสร้างวัตถุตามค่านิยมวัดพุทธไทยในปัจจุบัน
หลวงพี่เล็กคงจะอยู่แบบโรบินฮู้ด (ปล้นกองสลากและเจ้ามือหวยเถื่อนมาช่วยคนจน) ให้เลขหวย ถูก-ผิด คละเคล้ากันต่อไปเรื่อยๆ ถ้าสื่อไม่นำมากระพือข่าว กอปรกับความ "กร่าง" หลวงพี่เล็กเอง ที่โทษว่ากองสลากล็อกเลขตอนที่ตนใบ้หวยพลาด จนกระทั่งวันนั้นมาถึง
"แม้ว" สั่งตรวจสอบปัญหาทางจิต "พระเล็ก"
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า ทางเถรสมาคม และผู้ปกครองสงฆ์ ได้เข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎระเบียบวินัย กรณีพระเล็กใบ้หวย ที่ จ.นครสวรรค์ แล้ว พร้อมเห็นว่าควรดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน อีกทั้งมีกฎระเบียบที่ควรนำมาใช้อย่างเคร่งครัด เพราะนอกจากจะกระทบกับเศรษฐกิจแล้ว ยังกระทบกับความรู้สึกของประชาชนเกี่ยวกับด้านศาสนาด้วย ส่วนที่พระเล็กไม่ยอมย้ายออกจากวัด และอาจมีประชาชนที่ได้ประโยชน์เป็นแนวร่วมนั้น คงไม่สามารถบังคับได้ แต่ขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือด้วยการไม่หลงเชื่อ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ยังเห็นว่า เรื่องการใบ้หวยไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่พระจะเข้าไปเกี่ยวข้อง และมั่นใจในกระบวนการของฝ่ายสงฆ์ที่จะดำเนินการ อีกทั้งยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ไปตรวจสอบปัญหาทางจิตของพระเล็กด้วย
(ผู้จัดการออนไลน์ 21 มิถุนายน 2549)
และแล้วหลวงพี่เล็กก็มิอาจสามารถทนแรงเสียดทานของสังคมไหว จากการกดดันของ เจ้าพ่อข่าวยามเช้า (ตัวแทนของสื่อนายทุน) , หน่วยงานเกี่ยวกับศีลธรรมศาสนา , และรัฐบาล หลวงพี่เล็กจึงได้หลบลี้หายหน้าไปพักหนึ่ง
ก่อนที่จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง! ดังที่กล่าวไปในขั้นต้น
0 0 0
ถ้าความหมายของสังคมยุคหลังสมัยใหม่คือ ความเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยดำเนินมาและจะดำเนินต่อไป เป็นเรื่องของ "วาทกรรม" ไม่ใช่ "สัจจะจริงแท้" ดังนั้นเราคงต้องพยายามเอาตัวรอดจากซากปรักหักพังของการหลอกลวงที่ผ่านๆ มานี้ โดยหันเข้าหาตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะเรา(ปัจเจกชน)คือตัวตน ที่สามารถ "สุข-เศร้า" ได้ ไม่ใช่อุดมการณ์-คำสอนอย่างใดอย่างหนึ่ง
เรากำลังแข่งกันเห็นแก่ตัวใช่หรือไม่? ในยุคหลังสมัยใหม่แบบนี้
ผลประโยชน์ที่หลวงพี่เล็กได้รับแน่ๆ จากการเป็น "ผู้มีอาคมทางการใบ้หวย" คือ ชื่อเสียง,ความเคารพจากฝูงชน (และความสุขเล็กๆน้อยๆทางกายภาพแบบอื่นๆ) .. แล้วเราจะบอกได้ไหมว่าการกระทำแบบนี้มันต่างกับเกจิย์ดังที่ปลุกเสกของขลัง หรือเที่ยวเอาไม้เคาะหัวคนนั้นทีคนนี้ทีหรือไม่?
แน่นอนล่ะว่าไม่เลย ดังนั้น ถ้าหลวงพี่เล็กจะผิดข้อหามอมเมาประชาชน ก็ต้องมีพระรูปอื่นๆผิดอีกเป็นกระบุง เพียงแต่เมื่อหลวงพี่เล็กโดนสื่อนายทุนกับฝ่ายปกครองเลือกให้เป็นเหยื่อแล้ว มันก็ยากที่จะรอดตัวไปอย่างมีเกียรติ (ตัวอย่างชั้นยอดที่นอนรออยู่ในคุก..ก็พี่เณรแอผู้นั้น!)
คนจะศรัทธาพระที่ให้หวยแม่น กับคนจะศรัทธาพระที่ให้พร "กูให้มึงรวย" --- มันแตกต่างกันมากน้อยอย่างไร ทั้งๆที่เป้าหมายของพระแต่ละรูปคือ "การให้ความหวังแก่คนจนเพื่อหนทางสู่ความสุขสบายในชีวิตบนโลกทุนนิยม" เหมือนๆกัน
ถ้ากิจของสงฆ์คือสร้างให้คนมีสิ่งยึดเหนี่ยวบนโลกทุนนิยม หลวงพี่เล็กก็มีวิถีการสร้างสิ่งนั้นตามแบบฉบับของเขาเอง
แต่ถ้ามันไม่ใช่กิจของสงฆ์ พระรูปอื่นๆก็ต้องถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับหลวงพี่เล็ก(และเณรแอ)
ถูก-ผิด อย่างไรก็ว่ากันไป แต่มาตรฐานการมองว่าสิ่งใดถูก-ผิด มันก็ต้องใช้ให้เหมือนๆกัน(เมื่อนำมาวิเคราะห์แล้วว่ามันเป็น Case เดียวกัน) เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราก็จะเลือกปฏิบัติแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าสะสมไว้นานๆไป เกรงว่าเราจะให้ความหมายของคำว่า "ยุติธรรม" ได้ผิดเพี้ยนจากการที่มันควรจะเป็นจริงๆ
หรือว่าตอนนี้ความหมายของมันก็ผิดเพี้ยนอยู่แล้ว? เพราะคำว่า "ยุติธรรม" ก็ดูเหมือนจะเป็น "วาทกรรม" แบบหนึ่งที่ถูกสร้างมา มิใช่สัจจะจริงแท้ ใช่หรือไม่?
3
จริยธรรมของ "ฝ่ายปกครอง - นายทุน - ชนชั้นกลาง - สื่อกระแสหลัก"
การกระเสือกกระสนนำพาชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นของชนชั้นล่าง อาจจะเป็นเรื่องที่ดูขำๆ ,งมงาย, ไร้ศีลธรรม (ขายของแปลกๆ , ขูดเลขหวยจากต้นไม้ , ขายบริการทางเพศ , ฉกชิงวิ่งราว , ขโมยของเล็กๆน้อยๆ ฯลฯ ) สำหรับการมองจากกลุ่มชนชั้นที่เหนือกว่า
ล่าสุดข่าวคราวการโจรกรรมแผงส้มตำ(ที่ได้อุปกรณ์ส้มตำไปครบชุด)ของอาชญากรชนชั้นล่างกลุ่มหนึ่ง ถูกนำไปเสียดสีกระทบกระทั่งเยาะเย้ยจากรายการเล่าข่าวสองคู่หูยอดฮิต ว่ามันเป็น "การโจรกรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค"
ใช่ มันเป็นเรื่องตลก
ตลกร้ายเสียด้วยสำหรับเราคนยากจนด้วยกันที่ได้ดูได้ชมข่าวเหล่านี้ จะยิ้มก็ยิ้มแห้งๆขื่นๆขันๆ พวกเราคนจนชอบทำอะไรๆให้ตลกๆเสมอในสายตาคนที่สบายกว่าเรา
ถ้าเราสามารถเลือกได้ เราคนจนก็คงไม่อยากจะจน
เราไม่อยากจะไปปล้นใคร(โดยเฉพาะแผงส้มตำ)
แต่ทำยังไงได้ เพราะเราเพียงแค่ "เลือกไม่ได้" เท่านั้น!
0 0 0
ถ้าคุณมีระดับเงินเดือนเหลือเก็บจากค่าใช้จ่ายอื่นๆเกินหนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป หรือคุณอยู่ในฐานะของผู้มีอันจะกิน หรือถ้าคุณเป็นพิธีกรเล่าข่าวยอดนิยมที่มีรายได้เจ็ดหลักต่อเดือน คุณคงไม่เห็นความสำคัญของ "หวย" สักเท่าไร? ว่ามันคือสิ่งยึดเหนี่ยวคนจนอย่างเราๆมากน้อยแค่ไหน?
กับข่าวคราวเกี่ยวกับการใบ้หวย ขอหวย ตีเลขหวยจากเหตุการณ์ต่างๆ พวกคุณคงเห็นมันเป็นเรื่องงมงายของคนที่มีฐานะ ระดับมันสมองและระดับศีลธรรม "ต่ำ" กว่าพวกคุณ
การจะประสบความสำเร็จในชีวิตวันต่อวัน สำหรับพวกคุณ คือความสามารถของสองมือบวกมันสมองและความขยันหมั่นเพียรเท่านั้นที่จะนำพาตนขึ้นไปสู่ระดับชีวิตที่ดีกว่า --- เพราะนี่มันคือวิถีที่พวกคุณปฏิบัติมา จนพวกคุณประสบความสำเร็จในชีวิต และนี่คือชุดจริยธรรมของพวกคุณ
พวกคุณลองย้อนกลับไปในอดีต พวกคุณเติบโตในครอบครัวชนบทไม่มีทรัพย์สัมบัติมากมายหรือไม่? พวกคุณเกิดในครอบครัวยากจนในสลัมหรือไม่? พวกคุณได้เรียนโรงเรียนวัดหรือไม่? พวกคุณจบแค่ ป4. , ม.3 , ม.6 หรือไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆหรือไม่? เอาล่ะ!ถ้าทุกอย่างนี้คุณเคยประสบมา แล้วคนในสังคมที่ประสบความสำเร็จอยู่ในระดับเดียวกับคุณนี้มีสักกี่คน (ประเภทสู้แล้วรวย)
ลองนับนิ้วดู
ความยากจน ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเรา (คนจน) จะขยันมาก-น้อย,มีระดับมันสมองมาก-น้อยเพียงใด(ทำตามหลักจริยธรรมแบบฉบับนายทุนและชนชั้นกลางมากน้อยเพียงใด)
แต่ประเด็นมันอยู่ที่พวกเราขาดโอกาสที่เท่าเทียมต่างหาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขาดมาตั้งแต่ยังไม่ได้เกิดซะด้วยซ้ำ (จนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่) เราถูกโครงสร้างทางสังคมแบบทุนนิยมบีบให้ยากจนต่างหาก
สำหรับการเสี่ยงโชคก็คือโอกาสหนึ่งเดียวของพวกเราที่จะได้พลิกชีวิตบนโลกทุนนิยมนี้ (ลืมนิยายเรื่องขายจิ้งหรีดทอดแล้วจะรวยเป็นเศรษฐีพันล้านไปได้เลยในช่วงปัจจุบันและต่อๆจากนี้ไป)
การแทงหวยของชนชั้นล่าง อาจจะดูเป็นสิ่งที่เข้าไม่ค่อยได้กับจริยธรรมตามแบบฉบับนายทุนและชนชั้นกลาง ที่เน้นเรื่อง "ความสามารถ-ความหมั่นเพียร" และต้องปฎิบัติแบบนั้นโดยไม่แหกคอกออกไป แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านี้ (นายทุน-ชนชั้นกลาง) อาจได้รับความฟู่ฟ่าเพิ่มเติมจากผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องของระบบหวยรัฐบาลก็เป็นได้
ทำไมสื่อกระแสหลัก (โดยเฉพาะรายการทีวี-หนังสือพิมพ์) ต้องคอยมาบ่นให้ปากเปียกปากแฉะสอนพวกเราชาวบ้านให้มีระดับศีลธรรมในระดับเดียวกับพวกเขา โดยมองข้ามเรื่องการให้โอกาสและความเท่าเทียมในการพัฒนาตนอย่างเสมอภาคกัน หรือชนชั้นกลางและนายทุนไม่อยากต้อนรับเศรษฐีใหม่ทุกๆวันที่ 1 กับ 16 ของเดือนที่จะเพิ่มขึ้นมา? หรือเพราะพวกเขาไม่กล้าจะแตะกับโครงสร้างใหญ่ของสังคมอย่างจริงจัง?
ประเด็นหลังน่าที่จะมีน้ำหนักมากกว่า ถ้าอยากเห็นคนในสังคมมีระดับจริยธรรมที่เท่ากัน ใช้จริยธรรมชุดเดียวกัน หนึ่งล่ะต้องเปิดโอกาสให้คนในสังคมเข้าถึงทรัพยากรที่จะพัฒนาระดับชีวิตให้ได้เสมอภาคกัน ให้การศึกษาในระดับสูงสุดฟรี,การรักษาพยาบาลฟรี, การประกันการตกงาน อย่างน้อยก็ต้องช่วยกันพูดถึงเรื่องรัฐสวัสดิการ --- แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ไหม? ชนชั้นกลางและนายทุนจะยอมลดอภิสิทธิ์ของตนเองลงมาไหม?
แต่ปัจจุบันเราได้คำตอบแล้วว่า พวกเขาไม่เอาแน่ล่ะ! ดังนั้นอย่าไปยุ่งกลับโครงสร้างสังคมมันเลย! จงจำไว้ว่าการเล่นการพนันมันเป็นเรื่องของปัจเจกชน บางจำพวกที่มีความโลภ เกียจคร้าน งมงาย และไม่มีความพอเพียง ต่างหาก J
เพราะฉะนั้นแล้วควรมีการรณรงค์ให้คนรู้ถึงพิษภัยของการพนันดีกว่า ว่าเป็นตัวฉุดให้พวกคนจนลงเหวลึกดำดิ่งไปอีก โดยการเอาคนจนมาฆ่าบนหน้าจอทีวี - พาดหัวหนังสือพิมพ์ ขณะที่พวกเรากำลังกราบไหว้ ขอหวยจากสิ่งแปลกๆ หรือขณะที่มีนักบวชนอกรีดตั้งตนเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในการพยากรณ์ตัวเลข เป็นสิ่งที่ฝ่ายปกครอง-ชนชั้นกลาง-นายทุน-สื่อกระแสหลัก จะต้องร่วมมือกันทำ ตามหลักจริยธรรม (ของพวกเขาเอง)
"คนผิด-คนงี่เง่า-คนน่าสงสาร-ตัวตลก" เราคนจนไม่ได้เลือกที่จะเป็น แต่ระบบทุนนิยมปัจจุบัน "ยัดเหยียด" ให้เราเป็นต่างหาก
ทั้งนี้ชนชั้นที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า พิพากษาให้เราเป็น "คนผิด-คนงี่เง่า-คนน่าสงสาร-ตัวตลก" ด้วยชุดจริยธรรมที่พวกเขามีในมืออันทรงอำนาจและใสสะอาดผุดผ่อง
แต่ในช่วงบริบทสังคมไทยปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวของคนในประเทศส่วนใหญ่ (ซึ่งแน่นอนว่ามันมีพลังได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะ ฝ่ายปกครอง-นายทุน-ชนชั้นกลาง-สื่อกระแสหลัก เป็นตัวหนุน) มีเหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนถึงความงมงายใน "สิ่งเหนือธรรมชาติ" เราจะเรียกว่าเป็นความงมงายได้ไหม? หรือเป็นความงมงายที่มีระดับ? และมีพลังมากพอในการทำลายเหตุผลต่างๆ โดยเฉพาะการเชื่อมั่นในพลังของมนุษย์ธรรมดา
หรืออาจจะเป็นเพราะว่า สำหรับความโง่งมงายแล้ว ในการชี้วัดเจาะจงให้เห็น มันไม่ได้เป็นเรื่องของเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ที่สามารถเอามาถกเถียงหักล้างหาข้อเท็จจริงได้ หากแต่การที่ใครมีอำนาจทางเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง และครอบงำความคิดทางประวัติศาสตร์ ต่างหากที่จะชี้ว่าอะไรคือ "ความงี่เง่างมงาย" และอะไรคือ "ความศรัทธาที่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม"
แต่ที่พล่ามมานี้ใช่ว่า สื่อกระแสหลัก ชนชั้นกลาง นายทุน และฝ่ายปกครอง จะเป็นตัวการ-เป็นตัวสร้างระบบจริยธรรมแบบนี้ขึ้นมา
ปัญหาที่แท้จริงมันคือระบบโครงสร้างสังคมทุนนิยมต่างหาก ที่บังคับให้ต้องมีการสร้างระดับชนชั้น บังคับให้มีการแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง บังคับให้มีการขูดรีดกำไรสะสมทรัพยากรไว้เฉพาะกลุ่มอย่างเกินควร บังคับให้มีการสร้างโครงสร้างอำนาจครอบงำ(และบังคับให้ต้องมีการ "ป้องกัน" อำนาจนั้นไว้จากคนหมู่มาก) ลองเปลี่ยนมุมมองว่า "ความดีเกิดจากการบ่มเพาะภายในของคนคนหนึ่ง" มาเป็น "สร้างระบบสังคมใหม่ที่เอื้อทำให้เกิดคนดีๆขึ้นมามากๆ" แบบนี้จะดีไหม?
4
ความหวังหนึ่งเดียว
"
วันที่ 16 ก.ค. 2549 นี้ถือว่าครับรอบ 3 ปีที่กองสลากนำนโยบายหวยบนดินมาใช้เป็นรูปธรรม ยอดขายหวยบนดิน 2 ตัวและ 3 ตัวตั้งแต่มีการจำหน่ายหวยบนดินนี้จนถึงงวดวันที่ 1 ก.ค. 2549 มีถึง 1.1 แสนล้านบาท และกำไรรวมที่หักค่าใช้จ่ายแล้วของกองสลากมีถึง 27591 ล้านบาท
"
(หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 ก.ค. 2549)
ข้อมูลนี้คือหลักฐานชิ้นเยี่ยม ไว้อ้างอิงคำว่า "หวยคือความหวังหนึ่งเดียวของคนจน"
วลีเท่ๆของชนชั้นที่ "สบายกว่า" ในสังคมไทยปัจจุบันหยิบยืมมาจากยุค Enlightenment ทางศีลธรรม เพื่อกล่อมเกลา-กดหัว ให้ชนชั้นล่างเป็นผู้ว่านอนสอนง่ายและรับสภาพในสิ่งที่เราเป็นอยู่ ไม่ให้ลุกขึ้นสู้ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบาปบุญคุณโทษ , ทำมาค้าขายอย่างสุจริต , ขยันหมั่นเพียร , อย่าโง่งมงาย ฯลฯ มันกลับหักล้างความศักดิ์สิทธิ์ Dialectic กันเสียสิ้น เพราะเราอธิบายได้ไหมว่าคำสอนเหล่านั้น มันโง่งมงายกว่าเรื่อง "ไสยศาสตร์" มากน้อยเพียงใด? แค่ไหน? หรือพอๆ กัน ?
ดังนั้นการมองเพียงมิติทางจริยธรรม(ของบางชนชั้น) อย่างเดียวใช่ว่าจะนำมาเป็นเข็มทิศในการแก้ไขปัญหาทุกอย่างในสังคม มิติอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ , การเมือง ก็จะต้องถูกนำมาเชื่อมร้อยต่อเข้าหากันเป็นประเด็นเดียวกัน เพื่อให้เห็นรากเหง้าของปัญหาว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร และวิธีการขจัดปัญหานั้น กรณีหวยนั้น คนจนเล่นอย่างบ้าคลั่งก็เพราะว่าคนมีปัจจัยไม่เพียงพอที่จะพอเพียงในการดำรงชีวิต ด้วยการนำมาตรฐานชีวิตของชนชั้นอื่นมาเทียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือการใช้สิ่งฟุ่มเฟือย .. การจะบังคับให้พวกเขาปลูกดินกินหญ้าในที่แปลงเล็กๆหลังบ้านแล้วบังคับให้เขาพอเพียง ทั้งๆที่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งในสังคมยังสนุกกับเกมส์กอล์ฟในพื้นที่ร้อยไร่พันไร่ มันออกจะดูแปลกๆไปไหน (โดยเฉพาะถ้ากลุ่มคนในสนามกอล์ฟนั้นมีผลประโยชน์กับ Campaign พอเพียงนี้ J
ตราบใดที่ชนชั้นล่างไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนเองได้ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ-สังคม-เสรีภาพ คนอย่างหลวงพี่เล็กก็คงจะเป็นความหวังที่พวกเราจับต้องได้ อย่างน้อยการมีลมหายใจของหลวงพี่เล็กก็เป็นการรับประกันว่าพวกเรายังมีเพื่อนที่คอยให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจุดประสงค์ที่พวกเราชนชั้นล่างและหลวงพี่เล็กทำร่วมกันนั้นมันจะ "ถูก-ผิด-ดี-เลว" เพียงไร เพราะอย่างไรก็แล้วแต่หลวงพี่เล็กยืนอยู่ข้างเรา
. ไม่ใช่กลุ่มบุคคลที่พ่นลมปากหวานหูดูดีมีศีลธรรม ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นที่มีผลประโยชน์จากระบบสังคมในปัจจุบันมากกว่าพวกเรา ระบบที่ชนชั้นล่างเป็นได้เพียง คนผิด-คนงี่เง่า-คนน่าสงสาร-ตัวตลก" ของสังคมเท่านั้น
และถ้าแกนหลักของปัญหาในเรื่องนี้ คือ "การผิดศีลธรรม" และความผิดอยู่ที่ตรงการเล่นการพนัน พวกเราชาวบ้านกับหลวงพี่เล็กก็น่าจะเป็นผู้ถูกกระทำโดยสังคมอันเส็งเคร็งนี้เสียมากกว่า
เป็นตัวประกอบในหนังฟิล์มนัวร์ แบบที่ว่าโผล่มาให้โดนลูกกระสุนปืนจากการดวลกันระหว่างผู้ร้ายกับผู้ร้าย (ในหนังฟิล์มนัวร์ส่วนมากจะไม่มีพระเอก)
คำถามสุดท้ายที่จะตามมาก็คือ "เรามีกองสลากไว้ทำอะไรครับ?"
หลวงพี่เล็กให้เลขเด็ดไว้ดังนี้ 690 , 903 , 60 , 96 , 30 , 39
ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2549
รางวัลที่ 1 - 512434
เลขท้ายสองตัว - 48
เลขท้ายสามตัว - 989 , 098 , 518 , 432
..
ประกอบการเขียน - แหล่งข้อมูลแนะนำ
หนังสือ-หนังสือพิมพ์
ใจ อึ้งภากรณ์ และคณะ. 2545. อะไรนะ ลัทธิมาร์คซ์ เล่ม 2.กรุงเทพฯ: ชมรมหนังสือประชาธิปไตยแรง
งาน
ยศ สันตสมบัติ.2538. ฟรอยด์และพัฒนาการของจิตวิเคราะห์ : จากความฝันสู่ทฤษฎีสังคม .
กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Anarchist Federation. 2000. ANARCHISM - AS WE SEE IT .
Publications.
_________________. 2002. Basic Bakunin .
Mikhail Bakunin .God and the State : anarchist.net.
George Thompson.1954. ความเรียงว่าด้วยศาสนา .(จิตร ภูมิศักดิ์ - แปล) สำนักพิมพ์นกฮูก
Karl Marx .1991.Marx & Engels Writing.
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์รายวัน ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม 2549
ข้อมูลออน์ไลน์
http://www.ch7.com/news7ch_news_temp_news1.php?NewsID=74228
http://www.komchadluek.net/2006/06/28/j001_22794.php?news_id=22794
http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=12743
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)