อิหม่ามเราะห์มัต พี. (โพยม) พยกุล เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นอิหม่ามประจำมัสยิด อัล - ฟาติฮา รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริการ่วม 40 ปีที่ได้กลับบ้านเกิดในฐานะแขกรับเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ภายใต้ภารกิจกลับมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับผู้นำศาสนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 19 - 21 กรกฎาคม 2549
ในการนี้ อิหม่ามเราะห์มัต ได้สะท้อนมุมมองของคนไทยในสหรัฐอเมริกาต่อสถานการณ์ทางการเมือง และสถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้
0 0 0
"คนไทยในสหรัฐอเมริกา มีความตื่นตัวเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากประเทศไทยมาก ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ได้รับความสนใจจากคนต่างชาติในสหรัฐมากเช่นกัน คนต่างชาติเหล่านี้ มักจะถามคนไทยเราว่า สถานการณ์ทางการเมือง พฤติกรรมของผู้บริหารประเทศที่ไม่เหมาะสมในบางเรื่อง รวมทั้งเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คนไทยได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
สถานการณ์ทางการเมืองของไทย ที่เกิดปัญหายุ่งเหยิงขึ้นมา ผมอยากให้มองในเชิงโครงสร้าง มองไปที่องค์กร นโยบาย อย่าไปมองที่ตัวบุคคล ที่สำคัญ ผมอยากให้ทุกคนได้รับข้อมูลข่าวสารเท่าเทียมกัน เพื่อให้แต่ละคนสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ไม่ควรแบ่งแยกเป็นกลุ่มเป็นพวก ในส่วนของตัวผมเอง บางครั้งก็มีคนสงสัยว่า อยู่ในกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือเปล่า บางครั้งก็ถามว่าเป็นคนของพรรคไทยรักไทยหรือเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์กันแน่
ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรก็ตามแต่ ผมคิดว่าอย่าโกรธกัน ขอให้เอาความจริงมาพูด ให้ดูที่ความจริงว่าเป็นอย่างไร แล้วให้แต่ละคนตัดสินใจเอง สิ่งที่ผมเห็นมาตลอดอย่างหนึ่ง คือเมื่อมีคนเรียกร้อง พ.ต.ท.
ปกติคนไทยในสหรัฐอเมริกาจะดูข่าวจากสถานีโทรทัศน์ไทยได้ทุกช่อง ต่างกับประเทศไทย ถ้าต้องการข้อมูลข่าวสารอะไร นอกจากที่รับรู้กันอยู่ในประเทศก็จะต้องขวนขวายหากันเอาเอง
ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดิมคนไทยในสหรัฐอเมริการู้ข้อมูลน้อยมาก แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คนไทยในสหรัฐอเมริกา มีโอกาสได้ชมสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ทำให้ได้ทราบข้อมูลอีกด้านหนึ่ง จึงพอจะเข้าใจปัญหาได้มากขึ้น
ผมเคยกลับมาประเทศไทย พยายามถามเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนเรื่องการหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม แต่ก็ไม่มีผู้ใดตอบ จนกระทั่งมาทราบข้อมูลอีกด้านหนึ่งจากการชมการถ่ายทอดการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แสดงว่าประเทศไทยยังมีการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองของกลุ่มอิทธิพลไปแล้ว มีการใช้อำนาจปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร
ในระยะ 3 - 4 ปีมานี้ ชาวต่างชาติมองประเทศไทยเป็นประเทศอิทธิพล เพราะพฤติกรรมการใช้อำนาจหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมทั้งพฤติกรรมของผู้นำประเทศด้วย
สำหรับปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผมคิดว่าน่าจะแก้ไขได้ เพราะคนไทยมีคนที่รักสุดหัวใจอยู่แล้ว นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมยอมรับว่าปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเนิ่นนาน ทุกรัฐบาลตั้งใจจะแก้ไขปัญหา ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐบาลว่า จะใช้วิธีการแบบไหน ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่คนเข้ามาแก้ปัญหา จะต้องมีความเข้าใจ ต้องรู้ขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตของชาวมุสลิมในพื้นที่ ไม่ทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือแบ่งแยกเป็นเขาเป็นเรา
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนมาถามว่าปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดจากขบวนการแบ่งแยกดินแดนหรือไม่ ผมตอบไปว่า สำหรับเมืองไทย ลืมไปได้เลยเรื่องแบ่งแยกดินแดน เพราะชาวบ้านภาคใต้ส่วนใหญ่ยังยากจน ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องแบ่งแยกดินแดน
ผมมีข้อเสนอในการแก้ปัญหา 3 ข้อ คือ ประการแรก โดยทั่วไปไม่มีใครอยากเป็นคนร้าย ยกเว้นมีความเป็นอยู่คับแค้นต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือในทางไม่ดี เพราะฉะนั้น จะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจในพื้นที่
ประการต่อมา ต้องพัฒนาด้านการศึกษาอย่างพอเพียง เพราะชาวมุสลิมจะให้ความสำคัญกับการศึกษามาก แต่ที่ผ่านมาการพัฒนาทางด้านการศึกษาของรัฐ ยังไม่มีความพอเพียงกับความต้องการของคนในพื้นที่ เพราะเหตุนี้จึงมีการเปิดปอเนาะขึ้นมา เพื่อสนองความต้องการที่ยังไม่เพียงพอ
ประการสุดท้าย คือ รัฐต้องไม่เลือกปฏิบัติในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลต้องเข้าใจและเคารพวิถีชีวิต ขนบประเพณีวัฒนธรรม และมีความจริงใจต่อชาวบ้าน เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับชาวบ้านดีขึ้น ก็ยากที่จะทำให้ผู้ก่อความไม่สงบ เข้ามาสร้างความแตกแยกได้
ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งจดหมายไปถึงนาย
เครดิตคนไทยตกต่ำมาก ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับผู้นำประเทศของเรา คนไทยพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ยิ่งชาวไทยมุสลิมมีปัญหาหนักขึ้นไปอีก เพราะนอกจากต้องคอยตอบคำถามเรื่องการเมืองไทยแล้ว ยังต้องคอยตอบคำถามปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือความขัดแย้งในโลกมุสลิมตลอดเวลา"
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)