Skip to main content
sharethis


 


 


รายงานโดย ศูนย์ข่าวประชาสังคม อุบลฯ


 


 


ปิดแล้วจุดผ่อนผันการขายสินค้า 4 ใน 8 แห่งของเทศบาลนครอุบลฯ รจนาเผยตลาดกกยางไม่ถูกหลักสุขาภิบาล ด้านกลุ่มคัดค้านโต้เทศบาลไม่เคยถามชาวบ้าน ยันไม่ย้ายไปไหน เตรียมร้องผู้ว่าเจรจาสมานฉันท์วันนี้ (24 ก.ค.49)


 


ความคืบหน้าของกรณีการคัดค้านโครงการทุบฟุธปาธและตัดต้นไม้ของเทศบาลนครอุบลราชธานีนั้น เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 49 กลุ่มชาวแม่ค้าตลาดกกยางได้เดินขบวนคัดค้าน หลังจากที่ได้รับประกาศการปิดจุดผ่อนผันการค้า (ตลาดกกยาง) และเปิดตลาด 5 บ้านดู่ ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 49 ซึ่งกลุ่มผู้คัดค้านได้เริ่มต้นตั้งขบวนที่ตลาดกกยางเมื่อเวลา 09.30 น.โดยใช้เครื่องขยายเสียง ประกาศไปตามเส้นทาง ผ่านหน้าโรงเรียนฮั้วเฉียวกงฮัก 1,ตลาดใหญ่,หน้าศาลากลางจังหวัด.ตลาดเทศบาล 2 จวนผู้ว่าฯ ซึ่งตลอดเส้นทางได้ชี้แจงให้กับประชาชนได้ทราบว่า การค้าขายที่ตลาดกกยางนั้นยังคงดำเนินการอยู่ต่อไป


 


นายสมัคร นักธรรม แกนนำคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ตามที่ทางเทศบาลนครอุบลราชธานีออกไปปลิวประกาศดังกล่าวนั้น ชาวตลาดกกยางขอชี้แจงว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ซึ่งชาวตลาดกกยางไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย เทศบาลนครอุบลฯ ไม่เคยเข้ามาปรึกษากับชาวตลาดเลย การใช้อำนาจปิดตลาดดังกล่าว เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้า แม่ค้า ซึ่งมีมากกว่า 300 ครัวเรือน และสร้างความสับสนให้กับประชาชนที่เคยมาซื้อสินค้าด้วย


 


ในโอกาสที่เปิดตลาดสดเทศบาล 5 บ้านดู่ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.49 นางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ตลาดกกยางเป็นตลาดที่ไม่ถูกตามหลักสุขาภิบาล ประกอบกับมีการขายสินค้าบนผิวจราจร ทำให้การจราจรติดขัด เทศบาลจึงดำเนินการปรับปรุงตลาดห้า เพื่อย้ายตลาดกกยาง ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีพื้นที่ค้าขายได้ตลอดทั้งวัน


 


"ในวันนี้ตลาดต้นยางในเทศบัญญัติไม่ถือว่าเป็นตลาดเป็นเพียงจุดผ่อนผันหนึ่งในแปดจุด ได้ออกประกาศจากมติคณะกรรมการจัดสรรจุดผ่อนผันซึ่งเห็นชอบที่จะปิดจุดผ่อนผัน 4 จุด คือ ตลาดกกยาง, บริเวณป่าช้าแขก, ข้างวัดทองนพคุณ, ข้างวัดป่าน้อย ทั้งนี้พี่น้องจากตลาดต้นยางมากกว่าครึ่งหนึ่งได้เข้ามาขอประกอบการที่ตลาดสดเทศบาลห้า ในขณะนี้ได้จัดสถานที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ขายมาสองสามวันแล้วทั้งนี้ทางเทศบาลนครอุบลราชธานีได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเช่าแผงกับผู้ประกอบการ"


 


ด้านความเคลื่อนไหวอื่นๆ นั้น ชาวตลาดกกยางได้มีการตั้งเวทีปราศรัยที่ตลาดทุกวันในเวลา 16.00 น.เพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชน นอกจากนี้กลุ่มแกนนำผู้คัดค้านได้มีการประชุมกันในวันที่ 23 ก.ค.49 ที่ผ่านมาโดยที่ประชุมได้สรุปสถานการณ์จุดที่เกิดปัญหาในแต่ละจุด ซึ่งแหล่งข่าวที่เป็นแม่ค้าคนหนึ่งเปิดเผยว่าหลังจากย้ายไปตลาดห้าแล้วทำให้ขายสินค้าได้ลดลง โดยลงทุน 1,000 บาท แต่ขายสินค้าได้เพียง 25 บาท เท่านั้น โอกาสดังกล่าวได้มีสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มคัดค้านเพิ่มขึ้น คือกลุ่มผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากถนนเขื่อนธานี หน้าโรงเรียนฮั้วเฉียวกงฮัก พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีมติที่จะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดในวันนี้(24 ก.ค.49)เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาแบบสมานฉันท์ และไม่ให้เทศบาลนครฯ มีการเลือกปฏิบัติและต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งนี้ต้องกลุ่มผู้คัดค้านต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาลปกครองจากที่ได้ฟ้องร้องไปด้วย โดยคาดว่าจะทราบผลดังกล่าวในสัปดาห์นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net