Skip to main content
sharethis

ประชาไท—2 ส.ค. 2549 ความคืบหน้าล่าสุดคดีแกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ซึ่งถูกแจ้งความข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของบริษัทเอเซียแปซิฟิกโปแตชคอร์เปอร์เรชั่น วันนี้ เวลาประมาณ 9.00 น. ตำรวจนัดส่งสำนวนคดีและจะนำตัวผู้ต้องหา จำนวน 5 คนซึ่งทั้งหมดเป็นแกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีเข้ามอบตัวกับอัยการ


 


ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฯ ทั้ง 5 คนถูกแจ้งความดำเนินคดีข้อหา "บุกรุกและทำลายทรัพย์สิน" จากความขัดแย้งเรื่องการรังวัดปักหมุดเขตเหมืองแร่และโรงแต่งแร่ของบริษัทเอเซียแปซิฟิกโปแตชคอร์เปอร์เรชั่น


 


ร.ต.อ.อดุลย์ ศรีทอง พนักงานสอบสวน สภอ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2549 ที่ผ่านมา นายภาณุสิทธิ์ บุญนาค ผจก.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.เอเชีย แปซิกฟิก โปแตส คอร์เปอร์เรชั่น จก. หรือเอพีพีซี. รับมอบอำนาจจาก บ.ลาซาน จก. และ บ.เอพีพีซี. แจ้งความดำเนินคดีกับคนทั้ง 5 ได้แก่นางละเอียด อ่อนสะอาด อายุ 39 ปี (แม่ลูกอ่อนแฝด 2) นายบัณฑิต อ่อนสะอาด อายุ 44 ปีสามี, น.ส.เนาวรัตน์ ดาวเรือน อายุ 27 ปี นายปัญญา คำลาภ อายุ 31 ปี และนายบุญเลิศ เหล็กเขียว อายุ 55 ปี ว่าบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ของ บ.ลาซาน จก. และทำลายหมุดแนวเขตที่ดินของ บ.เอพีพีซี.จก.เสียหาย และตำรวจก็รวบรวมหลักฐานจัดทำสำนวนคดี เป็นที่เรียบร้อยและจะส่งตัวผู้ต้องหาและสำนวนให้อัยการจังหวัดในวันนี้


 


ร.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่าตนไม่สามารถจะให้ความเห็นใด ๆ ได้ต่อเรื่องนี้หลังจากส่งสำนวนแล้วก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอัยการว่าจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่


 


ด้านนางมณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เปิดเผยว่า กลุ่มอนุรักษ์ฯ ก็ได้เตรียมตัวหาหลักทรัพย์และตำแหน่งของชาวบ้านหลายคนที่พร้อมจะช่วยกันหาหลักทรัพย์และตำแหน่งหน้าที่ของชาวบ้านด้วยกันเท่าที่หาได้สำหรับประกันตัวผู้ต้องหา และคาดว่าจะมีชาวบ้านเป็นจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจแกนนำของกลุ่มในวันพรุ่งนี้


 


นางมณีให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีคดีที่บริษัทฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนางละเอียด อ่อนสะอาด แกนนำชาวบ้านข้อหาบุกรุกเช่นกันต่อมาอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยนางมณีเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ทำคือการพิทักษ์สิทธิในทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนตามรัฐธรรมนูญกำหนดและทำสิ่งที่ถูกต้อง


 


นอกจากข้อกล่าวหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน แล้ว บริษัทฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนางมณีและนางสาวเนาวรัตน์ ดาวเรือง เพิ่มในข้อหาหมิ่นประมาณเพราะใช้คำพูดรุนแรงวิพากษ์วิจารณ์บริษัทด้วย


 


"บริษัทคงต้องการกลั่นแกล้งทำให้ชาวบ้านลำบากต้องเทียวขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ยิ่งมีการใช้ความรุนแรง ใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับชาวบ้านให้ยอมรับโครงการเหมืองแร่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำให้ชาวบ้านเรียนรู้และเข้มแข็งมากขึ้น รวมทั้งจะได้เห็นพลังในกลุ่มชาวบ้านที่พร้อมให้ความช่วยเหลือกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอพีพีซีหรือบริษัทใดก็ตาม สิ่งที่ชาวบ้านยืนยันมาตลอดคือไม่เห็นด้วยกับการจะเปลี่ยนพื้นที่ชุมชนที่สมบูรณ์ของเราให้เป็นเขตนิคมอุตสากรรมและทำเหมืองแร่ เราเป็นชาวนาและจะต่อสู้ทุกทางเพื่อรักษาวิถีชีวิตชาวนานี้ไว้" นางมณีกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net