ประชาไท—2 ส.ค. 2549 นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขานุการศาลฎีกา เปิดเผยวานนี้ (1 ส.ค. )ว่า ในขณะนี้ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้ให้การรับรองและเสนอชื่อผู้สมัครเป็นกกต.แล้วทั้งสิ้นจำนวน 18 คน โดยแบ่งเป็นบุคคลนอกที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงตุลาการจำนวน 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทหาร และอดีผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะที่อีก 7 คน เป็นผู้พิพากษาประจำจำนวน 2 คน ผู้พิพากษาอาวุโส 4 คน และเคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษา 1 คน โดยในจำนวนนี้ มีนายวสันต์ สร้อยวิสุทธิ์ ประธานผู้พิพากษาแผนกคดีแรงงานในศาลฎีการ่วมอยู่ด้วย ทั้งนี้ คาดว่าหลังการปิดรับสมัครในวันพรุ่งนี้ จะมีผู้สมัครมากกว่า 30 คน ก่อนที่จะให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกให้เหลือ 10 คน ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้

ทั้งนี้ เว็บไซต์ของศาลฎีกาได้เปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. จำนวน 9 คนได้แก่(http://www.bizascorp.com/dika/index.php?master_id=1472&lang_id=1)

1. นายอมรศักดิ์ นพรัมภา อายุ 61 ปี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

2. นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อายุ 50 ปี สื่อมวลชนอิสระ เคยได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการ กสช.

3. นายสุขุม มีนพัฒนสันติ อายุ 56 ปี อัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือกฎหมายแก่ประชาชน เขต 6 จังหวัดพิษณุโลก

4. นายวรินทร์ เทียมจรัส อายุ 58 ปี เลขามูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย

5. นายพีรพล จันทร์สว่าง อายุ 61 ปี ผู้พิพากษาอาวุโสศาลแพ่ง

6. นายสุริย์ คูณผล อายุ 71 ปี ผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

7. พลเรือโทธีรพันธ์ ทิมประเสริฐ อายุ 63 ปี ข้าราชการบำนาญ

8. นายศักดา มหานันทโพธิ์ อายุ 59 ปี ทนายความ

9. นายวิชา มหาคุณ อายุ 60 ปี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาล

จากนี้ เมื่อศาลฎีกาคัดเลือกผู้สมัครเหลือ 10 คนแล้ววุฒิสภาจะทำการคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่ง กกต. จำนวน 5 คน

ด้านความเคลื่อนไหวของวุฒิสภา วันเดียวกัน ได้มีการหารือกันระหว่างคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของประธานวุฒิสภา และสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการสรรหากกต.ชุดใหม่ ให้เสร็จสิ้นก่อนที่พระราชกฤษฎีกาจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 24 สิงหาคม ทั้งนี้ นายสุนทร จินดาอินทร์ สมาชิกวุฒิสภา จ. กำแพงเพชร เปิดเผยว่า การประชุมของที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของประธานวุฒิสภาในวันนี้ เห็นตรงกันว่า ในการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้สมควรเป็น กกต. จะมีการพิจารณาลงมติเลือกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ในคราวเดียวกันด้วย