Skip to main content
sharethis

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติเอกฉันท์ 15 ต่อ 0 ให้อิสราเอลและกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอนยุติการสู้รบ พร้อมขอให้อิสราเอลถอนทหารออกไปจากภาคใต้ของเลบานอน เพื่อให้กองกำลังรักษาสันติภาพจากนานานาชาติจำนวน 15,000 นายเข้าไปรักษาความสงบในเลบานอน เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจปะทุขึ้นอีก


 


นับเป็นความพยายามครั้งแรก ในการยุติการสู้รบที่คร่าชีวิตชาวเลบานอนไปแล้ว 1,000 ราย และอิสราเอลอีก 121 ราย  อย่างไรก็ตาม หลังมีมติครั้งนี้ นายโคฟี อันนัน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ยังได้กล่าวตำหนิคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ไม่ผ่านมติให้เร็วกว่านี้ ทำให้ความศรัทธาต่อยูเอ็นสั่นคลอนอย่างหนัก


 


ทั้งนี้ นายอัลวาโร เดอ โซโต ทูตพิเศษของสหประชาชาติ ประจำตะวันออกกลาง เปิดเผยที่กรุงเยรูซาเลม อิสราเอลว่า ยูเอ็นคาดว่าการสู้รบในเลบานอนจะเริ่มสงบลงภายในระยะ 2 - 3 วันนี้ และกองกำลังนานาชาติของยูเอ็นจะเข้าทำหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอนภายใน 7 - 10 วัน และการดำเนินงานของยูเอ็นในครั้งนี้ไม่ได้เริ่มต้นที่ศูนย์ แต่ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากนานาประเทศอีกด้วย นอกจากนี้ยังระบุว่าอิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองได้ต่อไป แต่ต้องกระทำด้วยความใส่ใจเพื่อให้เกิดการยุติการสู้รบ


 


ด้านนายซีม่อน เปเรส รองนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยว่า มติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ออกมาแสดงว่า สิ่งที่อิสราเอลเรียกร้องจากเลบานอนได้รับการตอบสนองเกือบทั้งหมด โดยอ้างด้วยว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมติยูเอ็นที่เห็นด้วยกับฝ่ายอิสราเอลมากขนาดนี้มาก่อน ขณะที่นายมาร์วาน ฮามาเดห์  รัฐมนตรีสื่อสารเลบานอนบอกว่า เลบานอนจะรับมติดังกล่าวเช่นกัน เพราะเลบานอนพอใจในมติที่ให้อิสราเอลถอนทหาร โดยให้กองกำลังนานาชาติ 15,000 นายเข้ามาช่วยทหารเลบานอนหลายหมื่นนายดูแลพรมแดนส่วนที่ติดกับอิสราเอล


 


อย่างไรก็ตาม หลังคณะมนตรีฯ ยูเอ็นมีมติ เครื่องบินรบอิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดโจมตีทั่วเลบานอนต่อไป โดยพุ่งเป้าการโจมตีไปที่ถนนในเมืองไตรโปลี ทางตอนเหนือที่มุ่งสู่ซีเรีย และเมืองไซดอน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของเลบานอน ตำรวจระบุว่า มีประชาชนเลบานอนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวานนี้รวม 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นพลเรือนถึง 11 รายที่เสียชีวิตระหว่างที่เครื่องบินรบอิสราเอลทิ้งขีปนาวุธถล่มสะพานแห่งหนึ่งในที่ราบอัคคาร์ ใกล้กับชายแดนซีเรียและได้กลับมาโจมตีระลอกที่ 2 ทำให้ชาวบ้านที่กำลังมุงดูซากสะพานดังกล่าวเพื่อตรวจดูความเสียหายเสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บ 15 ราย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net