โดย อับดุชชะกูร์ บินชาฟิอีย์ ดินอะ (อับดุลสุโก ดินอะ)

 

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิพระองค์ผู้ทรงอภิบางแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสดามูฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่านสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกคน

 

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2549 ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าเยี่ยม "อาจารย์ฟัครุดดีน บอตอ" รักษาการส.ว.นราธิวาส ที่ถูกประกบยิงบาดเจ็บสาหัสต่อหน้าชาวบ้านนับร้อย ณ ห้องไอ ซี ยู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ซึ่งห้องดังกล่าวมีครูจูหลิง ร่วมอยู่ด้วย)

 

การเยี่ยมเยียนดังกล่าวผู้เขียนต้องเข้าคิวเยี่ยมทีละ 3 คน (และเยี่ยมได้คนละไม่เกิน 3 นาที) เพราะผู้ไปเยี่ยมมีจำนวนมากจากทุกภาคส่วน

 

อาจเป็นเพราะท่านคือ ส.ว.นราธิวาส ในขณะเดียวกันท่านเป็นลูกโต๊ะครู (บาบอเปาะสู) ผู้เป็นปราชญ์ด้านอิสลามศึกษา ในวงการศึกษาท่านเป็นผู้จัดการโรงเรียนดารุสลาม ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามขนาดใหญ่ และมีนักเรียนมากที่สุดของ จ.นราธิวาสประมาณ 5 พันคน

 

ในปีหนึ่งๆโรงเรียนของท่านจะผลิตศิษย์ที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 กว่า 100 คน เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอนแก่น จุฬาลงกรณ์ ธรรมศาสตร์ ทักษิณ และมหาวิยาลัยสงขลานครินทร์ สายศิลป์และสายวิทย์ ศาสนาและสามัญ

 

ในส่วนต่างประเทศมีทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน อียิปต์ จอห์แดน ซาอุดิอารเบียหรือแม้กระทั่งอเมริกาหรือออสเตรเลีย

 

โรงเรียนของท่านเป็นสถาบันปอเนาะที่มีการบูรณาการระหว่างการเรียนด้านศาสนา และสามัญที่มีการสอนพร้อมทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโลยีจะเรียกว่าเป็นปอเนาะสมัยใหม่ก็ว่าได้ ท่านเป็นเจ้าของสโลแกนที่ว่า เรียนทางโลกปราศจากทางธรรมโลกจะสงบสุขได้อย่างไร

 

ในวงการศึกษาท่านเป็นผู้หนึ่งที่บุกเบิกการส่งครูผึกสอนในศูนย์อบรมคุณธรรมประจำมัสยิดทั่วจังหวัดนราธิวาสเป็นการแบ่งเบาภาระรัฐและชุมชนในระดับหนื่ง

 

ท่านจัดตั้งกองทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือการศึกษาสำหรับเด็กอนาถาและยากจน

นับพันชีวิต

 

ที่โรงเรียนของท่านยังเปิดศูนย์เรียนรู้คุณธรรม จริยธรรมและอิสลามศึกษาแก่ชาวบ้าน คนเฒ่า คนแก่หรือแม้แต่ข้าราชการและนักธุรกิจในวันหยุดและกลางคืน

 

ด้วยผลงานการบริหารศึกษามากมายนับสิบปีทำให้ท่านได้รับรางวัลผู้บริหารโรงเรียนรางวัลพระราชทานไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง

 

ไม่เพียงแต่เป็นนักจัดการศึกษาที่มีความสามารถสูงเท่านั้นท่านยังเป็นนักการเมืองที่คุณภาพและยึดมั่นในหลักการศาสนาสูง (ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่หายากในหมู่นักการเมืองไทยหรือในหมู่นักการเมืองมุสลิมด้วยกัน ท่านปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดทุกวัน แม้กระทั่งเวลาดึกๆ ประมาณ ตี3 ของทุกวันท่านจะตื่นนอนเพื่อละหมาดตะฮัจยุด หรือจะเรียกง่ายๆในภาษาไทยคือการทำสมาธิ ขอพรพระเจ้าและสำนึกบาป) และไม่ชอบการทำผิดศีล ผิดธรรม โดยเฉพาะการต่อต้านยาเสพติดอย่างรุนแรง

 

ท่านเคยเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นราธิวาส เขต อ.ระแงะ หลายสมัย ก่อนจะลงสมัครเป็น ส.ว.ในครั้งที่ผ่านมาและได้เป็นส.ว.ในที่สุด ท่านได้รับความไว้วาวางใจให้อยู่ในกรรมาธิการต่างประเทศร่วมกับคุณไกรศักดิ์ ชุณหวรรณ(อาจจะเป็นเพราะท่านมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ อาหรับและมลายู)

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าท่านเป็นเป็นนักการเมืองที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะเหตุความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

ท่าน เคยเปิดเผยในที่ประชุมวุฒิสภาว่ามีทหารชั้นผู้น้อยที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสัมพันธ์ชู้สาวกับเด็กสาวไทยมุสลิม และกว่า 100 รายกำลังตั้งครรภ์

 

ท่านเห็นด้วยกับแนวคิดสันติวิธีที่เชิญ ส.ว.และ ส.ส.ร่วมหารือ แต่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีไม่ใช้

 

ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของท่าน ที่เคยอภิปรายปัญหา "ไฟใต้" ที่รัฐสภา

 

0 0 0

 

ขอความสันติสุขแด่ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ท่านประธานรัฐสภาที่ผมเคารพ กระผมนายฟัครุดดีน บอตอ สมาชิกวุฒิสภาจากนราธิวาส..... ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมจะเน้นนะครับ ไม่ใช่เพิ่งเกิดมา เกิดมานานหลายรัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาลท่านนายกฯ ชวน ท่านนายกฯ ชวลิต และมาท่านนายกฯ ทักษิณ แต่ที่ผมอยากจะให้ข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ที่มันรุนแรง เหตุการณ์ที่มันแย่มากๆ เบื่อมากๆ ก็คือหลัง 4 มกราฯ หลังจากมีการปล้นปืนที่เจาะไอร้อง

 

เพราะอะไร เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการจับแพะปล้นปืน นี่คือปัญหา ชาวมุสลิมเป็นคำสั่งสอนในศาสนาอิสลามเลยว่า เขาเกลียดความอยุติธรรมอย่างมากๆ เป็นคำสั่งสอนเลยนะครับ ที่ใดมีความอยุติธรรม ที่นั่นมีการต่อสู้ มีการจับบุคคลหลายฝ่าย มี ส.จ. มีผู้ช่วยผู้ปฏิบัติงานผมคนหนึ่ง เป็นอดีตข้าราชการครู ครูบำนาญ ผมเคยนำท่านรอฮีม มาเจอท่านในฐานะที่เป็น มท.1 ที่ปัตตานี ในช่วงวันที่ 4 นั้น เขาอยู่กรุงเทพฯ ลูกเขาผ่าตัดอยู่ พอกลับบ้านมีหนังสือพิมพ์ออกมาว่า เป็นหัวหน้าโจรปล้นปืนที่เจาะไอร้อง มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด มีโต๊ะครูหลายๆ คน ที่เป็นปัญหาก็คือ ร้อยทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ชาวมุสลิมใน 3 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนราธิวาส

 

ผม ได้ร้องเรียนไปถึงทุกฝ่ายว่า จับแพะแล้วจะมีปัญหาแน่นอนนะครับ ก็มีปัญหาจริงๆ นะครับ หลังจากนั้นไปอยู่ในคุกเกือบ 1 ปี 84 วัน อัยการสูงสุดสั่งปล่อย ผมถามว่า ที่บุคคลที่ได้รับความเคารพนับถือใน จ.นราธิวาส ไปอยู่ในคุก 3 - 4 เดือน ใครรับผิดชอบ ไม่ใช่ปล่อยเฉยๆ นะครับ รัฐบาลจะต้องตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไปจับแพะ ที่ทำให้เกิดปัญหาถึงวันนี้

 

ในช่วงนั้นเหมือนกัน เวลามีการจับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่มีการจับ ทำผิดกฎหมายเรื่องป่าไม้ก็โยนเรื่องปืน จับคดีชกต่อย ที่การพนันก็ปล้นปืน และที่เป็นปัญหาสำคัญก็คือ รัฐบาลได้มีการจัดตั้ง สภ.ต.ตันหยง นี่คือที่มาของปัญหาเลย หัวใจของปัญหาต่างๆ ทั้งหมดคือหัวใจที่ สภ.ต.ตันหยง อยู่หน้าพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ซึ่งเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ตรงนั้น ตรงนั้นเป็นสถานที่สอบสวน ฉก.มาจากกรุงเทพฯ เป็นชุดดำ ฉก.ดำ จับใครที่ไหน มาสอบตรงนั้น มีการทรมานนะครับ มีการจับขึง 3 วัน 3 คืน

 

ที่มาจากกรุงเทพฯ เป็นชุดดำ ฉก.ดำ จับใครที่ไหน มาสอบตรงนั้น มีการทรมานนะครับ มีการจับขึง 3 วัน 3 คืน มีการจี้ไฟฟ้า มีการทำทุกอย่างนะครับ เพื่อจะได้ให้รับว่าปล้นปืน

 

สุดท้ายนะครับ เป็นที่มาของทนายสมชาย (นีละไพจิตร) หาย เพราะทนายสมชายเป็นที่เคารพนับถือของชาวมุสลิมภาคใต้ เมื่อมีปัญหาไปหาสมชาย สมชายก็ว่าคดีให้ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา หาจนถึงวันนี้ และอีกหลายคน

 

มีนักศึกษารามฯ คู่หนึ่ง ขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ตลาดเทศบาลตันหยงมัส ท่านการุณ ใสงาม ลงไปสอบสวน อุ้มกลางวันนะครับ 3 โมงเย็น หายจนถึงวันนี้ ภรรยาของคนๆ นี้ไปหานายกรัฐมนตรีที่ตันหยงมัส ไม่ได้อะไรเลย จนกระทั่งต้องไปหาพระองค์ท่านราชินี จึงได้มาแสนกว่าบาท และที่ ต.เกาะเปาะ กลางคืนไปอุ้มครูศาสนา ภรรยาของเขาไปตาม เจ้าหน้าที่ชุดดำเอาปืนจี้ที่หัว บอกว่า "จะพามึงไปกรุงเทพฯ" นี่คือปัญหา ที่มาของความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในภาคใต้

 

ความไม่พอใจของประชาชน ผู้นำศาสนา กรรมการจังหวัด มีทุกหนทุกแห่ง เพราะทุกฝ่ายถูกจับเป็นแพะ ปืนถูกปล้นทั้งหมด กำนันอนุพงศ์ได้แถลงต่อศาลว่า ที่เขาซัดทอดเพราะเขาถูกบังคับ เขาถูกทรมาน เขาถูกเอาถุงดำมาใส่หัวและพาขึ้นเครื่องบิน และจะเตะลงเครื่องบินนะครับ เขาจำเป็นจะต้องซัดทอด ภรรยาของกำนันอนุพงศ์ไปพบผมที่โรงแรมนิวเวิลด์ ที่บางลำพู ไปร้องไห้บอกว่า สามีของเขาถูกบังคับ ลูกชายถูกตำรวจคนหนึ่งไปเก็บไว้ และให้บอก ให้ซัดทอด ส.ส. 2 - 3 คน นี่คือที่มาของความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัด

 

หลังจากนั้นก็เกิดคดีหมอแว หมอแว มะหะดี เป็นหมอชาวบ้าน จบจาก มอ. ไม่ได้จบปอเนาะนะครับ เขาทำงานเพื่อประชาชน เขาทำงานกับนายแพทย์ประเวศ วะสี รัฐบุรุษนะครับ สุดท้ายมีคดีเรื่องเจไอเข้ามา เจไอในอินโดนีเซียเข้ามาในประเทศไทย เพราะอะไรครับ เพราะไปกล่าวร้ายว่านายแว มะหะดี จะมาระเบิดสถานทูตต่างๆ ในกรุงเทพฯ สุดท้ายเป็นอย่างไรครับ 2 ปีแล้ว หมอแว มะหะดี ไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งๆ ที่คดีหมอแว มะหะดี เป็นคดีที่ไม่ได้มีอะไรเป็นหลักฐานเลย ผมถามว่าคดีอื่นๆ ในประเทศไทยที่เป็นญาติของนักการเมือง ญาติของรัฐมนตรีหลายๆ คน ที่ศาลลงแล้วว่าติดคุก ยังสามารถประกันตัวได้ ผมถามว่าทำไมประเทศนี้ความเป็นธรรมในคดีความ ความเป็นธรรมในศาล มันไม่เท่ากัน นี่คือความน้อยอกน้อยใจของประชาชนชาวไทยมุสลิม

 

ต่อมาก็เกิดคดีกรือเซะ ผมยังไม่พูดถึงคดีกรือเซะ ผมจะพูดถึงคดีที่สะบ้าย้อย ที่นักเรียน 19 คน ขี่จักรยานมา มีมีด 3 - 4 เล่ม ก็ถูกยิงเผาขน บางคน กรรมาธิการต่างประเทศ โดยอาจารย์ไกรศักดิ์ ชณหะวัณ ท่านการุณ ใสงาม ไปสอบสวน เด็กไหว้ขอชีวิต เด็กหนีเข้าห้องน้ำ เข้าในร้าน เข้าห้องนอน ถูกลากมายิงเผาขน บางคนหนีไปอยู่ในห้องพักครูก็โดนลากออกมาเผาขน แต่ไม่มีองค์กรอิสระไหนๆ มาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าใครกระทำ ทั้งๆ ที่คดีนี้ไม่ใช่คดียาก สามารถมาถามอาจารย์การุณ อาจารย์ไกรศักดิ์ได้ นี่คือคดีง่ายๆ ที่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนได้

นี่คือปัญหาความไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นสรุปแล้วปัญหาภาคใต้ก็คือเกิดจากคดีปล้นปืนเป็นหลัก จนถึงวันนี้ปืนอยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ แต่จับไปหลายคนแล้ว จนถึงวันนี้ผมไม่ทราบว่าคดีการเมืองที่อยู่ในคุก ไม่รู้เท่าไร และไม่ได้รับการประกันตัว นี่ที่ผมสงสัยว่าทำไม

 

ประเด็นที่สองที่ผมอยากจะพูดในวันนี้ก็คือ ที่ประชาชนน้อยอกน้อยใจก็คือ กระบวนการคัดเลือกข้าราชการเข้าทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้.......ข้าราชการที่ทำงาน ที่เป็นมุสลิมจริงๆ ที่ทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ พ่อแม่พี่น้องไปที่อำเภอ เจอ 2 - 3 คน ยิ่งไปโรงพักได้เจอมุสลิมคนเดียว ผมถามว่า มุสลิมในประเทศไทยมีแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มุสลิม 78.3 เปอร์เซ็นต์ พุทธ 21.6 เปอร์เซ็นต์ อื่นๆ 0.1 เปอร์เซ็นต์ แต่ที่เป็นข้าราชการทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

 

ผมไม่อยากให้เป็นวาระแห่งชาติของนายกฯ ทักษิณ 4 ปี กำหนดเป็นนโยบายเลยว่า 1 ปี 10 เปอร์เซ็นต์ 4 ปี 40 เปอร์เซ็นต์ ให้ประชาชนได้เย็นใจว่า เวลาไปอำเภอ ได้ไปเจอลูกของเขาเป็นนายอำเภอ เจอลูกของเขาเป็นตำรวจ เจอลูกของเขาเป็นแพทย์ เป็นหมอ

 

ผมจำได้ สมัยรัฐมนตรีมนตรี พงษ์พานิช เคยมีทุนแพทย์ ทุนหมอ ทุนพยาบาล ทุนเภสัช ทุนอะไรต่างๆ ให้กระจายไปตามอำเภอต่างๆ จนถึงวันนี้เป็นสิ่งที่ท่านได้กระทำไว้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 30 ปีที่แล้ว มีทุนมหาดไทย ผมจำได้ว่าปลัดจังหวัดหลายคนที่อยู่ในภาคใต้ เป็นสิ่งที่ได้มาจากเหตุการณ์ภาคใต้สมัยปอเย๊ะ สมัยก่อน จนวันนี้ได้เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด วันนี้ได้เป็นปลัดจังหวัด ผมอยากให้นายกฯ ทักษิณของผม ช่วยกรุณากำหนดเป็นวาระแห่งชาติว่า ทำอย่างไรจะให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีตำแหน่งหน้าที่ของเขาบ้าง อย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่

 

ผมคิดว่าการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหานั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งศาสนาอิสลามเขากำหนดไว้ว่า อัลลอฮฺจะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของสูเจ้า จนกว่าสูเจ้าจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเจ้า นี่คือบทบัญญัติที่สอนนายกรัฐมนตรีว่า การให้โอกาสแก่คนในพื้นที่แก้ปัญหานั้น เป็นทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา เป็นแนวทางสันติวิธี โดยไมได้ใช้อคติ โดยไม่ได้ใช้ความโหดร้าย ไม่ได้ใช้ไฟฟ้าช็อต ไม่ได้ใช้การอุ้ม โดยใช้สันติวิธี ใช้ศาสนาเป็นหลักในการแก้ปัญหา

 

ผมเชื่อว่าเมื่อเรามีคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) แล้ว เมื่อคณะกรรมการ 48 ท่าน ได้เสนอถึงนายกฯ แล้ว ขอให้นายกฯ เชื่อเถอะว่า นี่คือความคิดความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมเคารพท่านจาตุรนต์ ฉายแสง เคารพจริงๆ เพราะท่านมีแนวความคิดที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ท่านเชิญ ส.ส. ส.ว. เชิญกรรมการจังหวัด และเสนอท่านนายกฯ สุดท้ายท่านไม่ได้ใช้

 

ผมคิดว่าถ้าท่านนายกฯ ทักษิณ ใช้นโยบายของท่านจาตุรนต์ วันนี้ไม่มีการยิง การตายในวันนี้เลย เพราะทุกอย่างจบแล้ว เพราะทุกอย่างคือการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี โดยใช้ประสบการณ์ที่ท่านเคยถูกกดขี่ ท่านเคยหนีเข้าป่า และท่านมาอยู่เป็นรัฐมนตรี เป็นรองนายกฯ ในวันนี้ ผมคิดว่าวันนี้ท่านอย่าผลักดันเสือเข้าป่า วันนี้นโยบายของรัฐกำลังผลักดันโต๊ะครูเข้าป่าหมด นักเรียน มอ.วันนี้ถูกค้นทุกวัน นักศึกษาที่อยู่ตามหอพักต่างๆ ถูกค้นทุกวัน และถูกถามว่ามึงมาเรียนทำไม จะไปแยกดินแดนหรือ นี่คือปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐของเรา มีความอคติ มีความไม่เป็นธรรมในหัวใจในการแก้ปัญหา

 

ถ้านายกฯ คนเดียวสั่งการเลยว่า ภาคใต้ห้ามใช้อุ้ม ห้ามใช้ฆ่า ห้ามใช้ทรมาน ห้ามใช้ระบบนาซีแก้ปัญหา ผมคิดว่าภาคใต้จะสงบ และจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ขอบคุณมากครับ (โปรดดูhttp://thaiislamiccenter.com/thaitic/index.php?option=com_content&task=view&id=86&Itemid=0)

0 0 0

 

การที่ นายฟัครุดดีน บอตอ รักษาการ ส.ว.นราธิวาส ถูกมือปืน ใช้รถจักรยานยนต์ประกบยิงกลางตลาดตันหยงมัส ได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้จะ เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ความเลวร้าย และรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มดีกรีแห่งความร้อนแรงขึ้นมาทันทีทันควัน

 

มันจะเป็นเหมือนกับ "ลมพายุ" หอบใหญ่ ที่พัดใส่กองไฟที่ลุกโชนอยู่แล้วให้ลุกแรงยิ่งขึ้น เนื่องจาก "ผู้ก่อการ" อาจจะฉวยโอกาส ที่นายฟัครุดดีนถูกยิง ไปปลุกระดมว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้คนมุสลิมเกิดความโกรธแค้น และเป็นปรปักษ์กับเจ้าหน้าที่ ถึงแม้ นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส ได้ออกมาปฏิเสธอย่างทันควันว่า "การกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบครั้งนี้ มีความพยายามที่จะโยนความผิดให้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง และขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน"

 

อย่างไรก็ตาม เหตุร้ายหลายเรื่องที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการ "ฆ่ากันตาย" ส่วนหนึ่งไม่ใช่มาจากผู้ก่อการหรือขบวนการ แต่เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว และ "การฉวยโอกาส" ของอีกฝ่ายหนึ่ง ที่ลงมือต่อคู่แค้น เพื่อโยนความผิดให้กับขบวนการ

 

ดังนั้นประเด็นสำคัญของเจ้าหน้าที่รัฐในวันนี้ นอกจากจะต้องชี้แจงทำความเข้าใจในเรื่องที่เกิดขึ้นต่อชนชาวมุสลิมว่า ไม่ใช่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสั่งคนไปยิงนายฟัครุดดีน บอตอ แล้ว ยังจะต้องเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ยิงนายฟัครุดดีน และหาสาเหตุที่แท้จริงของการกระทำครั้งนี้ รวมทั้งลากตัวผู้ "บงการ" มาเปิดเผยกับสาธารณชนโดยเร็ว

 

หากปล่อยให้การคลี่คลายคดีเป็นไปอย่างเชื่องช้า ย่อมส่งผลกระทบให้ "ไฟใต้" โชนแสงเจิดจ้า และยากแก่การดับยิ่งขึ้น.

 

ด้วยเหตุผลที่นายฟัครุดดีนเป็นนักการศาสนาในพื้นที่ภาคใต้ และนักการเมืองระดับชาติ รวมทั้งเป็นผู้ที่ชาวมุสลิมให้ความเคารพและเชื่อถือ

 

สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอกล่าวคำว่า ชะฟากัลลอฮฺ ขอพระเจ้าจงคุ้มครองคุณฟัครุดดีน บอตอ และที่ลืมไม่ได้คือครูจูหลิงที่นอนพักรักษาตัวใกล้ท่าน