สำนักข่าว S.H.A.N. รายงานเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2549 ว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคมเป็นต้นมาชาวจังหวัดท่าขี้เหล็ก ฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ต้องประสบกับความเดือดร้อนอย่างหนัก เหตุจากถูกเจ้าหน้าที่พม่าตัดกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้ธุรกิจได้รับผลกระทบตามไปด้วย 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ได้ตัดกระแสไฟฟ้านั้นเนื่องจากไฟฟ้าที่ใช้ในค่ายทหารและศูนย์ราชการไม่เพียงพอ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสับเปลี่ยนสายไฟที่ใช้ในตัวเมืองไปใช้แทน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถใช้การได้ โดยทางบริษัทเจ้าของโรงไฟฟ้าได้บอกกับชาวบ้านว่า ขณะนี้กำลังติดต่อขอช่างผู้เชี่ยวชาญจากเมืองมัณฑะเลย์เข้ามาดูแลอยู่ ซึ่งคาดว่าจะใช้การได้ภายใน 4 -5 วันนี้

นักธุรกิจคนหนึ่งเปิดเผยว่า ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงได้ตัดกระแสไฟ ทั้งๆ ที่ได้มีการจ่ายค่าไฟให้อยู่ ซึ่งขณะนี้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าต่างได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก

ทั้งนี้ ก่อนหน้าปี 2545 ในจังหวัดท่าขี้เหล็กได้ใช้ไฟฟ้าที่นำเข้าจากประเทศไทยด้านอำเภอแม่สาย โดยทางการพม่าได้คิดอัตราหน่วยละ 3 บาท แต่ภายหลังจากที่ได้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างไทยกับพม่าอันเกี่ยวเนื่องกับปัญหาชายแดน พลตรีขิ่นส่อ ผู้ว่าจังหวัดท่าขี้เหล็กในขณะนั้นได้มีคำสั่งตัดขาดการนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศไทย พร้อมประกาศว่าประชาชนคนใดใช้ไฟฟ้าไทยเท่ากับเป็นผู้ไม่ภักดีต่อประเทศชาติ

ปัจจุบันจังหวัดท่าขี้เหล็กมีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผลิตจากเครื่องปั่นขนาดใหญ่จำนวน 4 เครื่อง เป็นของนายอูต้าเหว่ย นักธุรกิจชาวว้าผู้ใกล้ชิดนายเหว่ยเซียะกัง ซึ่งได้รับสัมปทานจากพลตรีขิ่นส่อ อดีตผู้ว่าจังหวัดท่าขี้เหล็ก ปัจจุบันเป็นแม่ทัพภาคกลาง โดยเริ่มแรกได้เก็บในอัตราหน่วยละ 8 บาท และเมื่อเร็วนี้ๆ ได้ปรับขึ้นเป็น 12 บาท ทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยไม่สามารถที่จะใช้ได้ เพราะนอกจากจะต้องเสียค่าไฟแพงแล้วยังต้องซื้อหม้อแปลงที่มีราคาสูงถึง 4 หมื่นบาทด้วยตนเอง

ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org