โดย วิทยากร บุญเรือง , กานต์ชนก เกตุมงคล

 

 

ผู้กอบกู้ที่ Birmingham

 

Aston Villa อดีตแชมป์ยุโรเปียนคัพ 1 สมัย กำลังเป็นที่ถูกจับตามองทั้งจากนักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์ธุรกิจเกมกีฬา และนักวิเคราะห์คอบอลพื้นบ้านทั่วไป ว่าอาจจะกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อมีความเคลื่อนไหวสำคัญปลายเดือนกรกฎาคม - สิงหาคมที่ผ่านมา

 

เจ้าของทีม Cleveland Browns ทีมอเมริกันฟุตบอลในประเทศสหรัฐอเมริกา "Randy Lerner" ข้ามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเข้ามาซื้อทีม Aston Villa เป็นจำนวนเงินถึง 62.6 ล้านปอนด์ (118.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

 

Lerner"s Reform Acquisitions Ltd. (RAL) สามารถถือหุ้นของ Villa ได้ถึง 57% จากการซื้อหุ้นจากประธานสโมสรคนเก่า Doug Ellis 36% และผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกหนึ่งคน คือ Jack Petchey อีก 21% (โดย Jack Petchey นำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนกับสโมสรน้องใหม่ของลีกอย่าง Watford แทน)

 

ที่ตลาดหุ้นลอนดอน หุ้นที่ Lerner"s Reform Acquisitions Ltd. กว้านซื้อจากทั้ง Ellis และ Petchey ในราคา 10.37 ดอลลาร์ต่อหุ้น .. หลังจากนั้นอีกหนึ่งวันราคาของมันพุ่งสูงขึ้นถึง 47%

 

Lerner ใช้เวลาเจารจาเพียง 2 วันในการเทคโอเวอร์สโมสร Villa ซึ่งการซื้อ-ขายครั้งล่าสุดของสโมสรใน Premiership นี้เป็นผลสำเร็จเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2006

 

สำหรับคนที่เขาเลือกมาเป็นมือขวาในการดูแล Board บริหารของ Villa ก็คือ นายพล Charles C. Krulak อดีตผู้บังคับการเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐ (US Marines) และอดีต chief executive ของ MBNA Europe, ซึ่ง MBNA นี้ก็เป็นธุรกิจของครอบครัว Lerner

 

"ผมมั่นใจว่า การเข้ามาของผมจะทำให้สโมสรแห่งนี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทั้งใน Premiership และในยุโรปได้อย่างแน่นอน" - Lerner กล่าวตบท้าย

 

0 0 0

 

 

Randy Lerner

 

 

Randy Lerner นักธุรกิจอเมริกันเชื้อสายยิว เกิดเมื่อปี ค.ศ.1962 สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Columbia ในสหรัฐอเมริกา ในปี 1984 ก่อนหน้านั้นเขาจบมาจาก Clare College เมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ

 

ขณะอยู่ในอังกฤษ เขาชอบที่จะติดตามเกมกีฬานี้ เช่นหนุ่มอังกฤษทั่วไป โดยทีมที่เขาให้ความสนใจ ก็มี Arsenal , Manchester United และก็ Aston Villa (ซึ่งในช่วงเวลานั้น Aston Villa เป็นทีมที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ สามารถคว้าแชมป์ยุโรเปียนคัพได้ในปี ค.ศ.1982)

 

Randy Lerner เป็นนักธุรกิจหนุ่มหัวก้าวหน้าเจ้าของและผู้จัดการกองทุนทางการเงินและบริษัทที่ปรึกษาทางการลงทุน ที่ชื่อว่า "Securities Advisor, Inc (SAI)" ตั้งแต่ปี 1991 - 2001

 

หลังจากการเสียชีวิตของ Al Lerner เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2002 Lerner ผู้ลูกก็จำเป็นต้องเข้ามาดูแลกิจการของครอบครัวอย่างเต็มตัว หนึ่งในนั้นก็คือทีมอเมริกันฟุตบอลใน NFL "Cleveland Browns"

 

และเขาก็ได้ปฎิรูปการทำธุรกิจนี้เสียใหม่ สร้าง "new Browns franchise" อันลือลั่น ทำให้เขากลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในธุรกิจเกมกีฬาในเวลานี้

 

0 0 0

 

 

NFL บุก Premiership

 

Randy Lerner เป็นเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลคนที่ 2 ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมสโมสรฟุตบอลใน Premiership

 

Deal ประวัติศาสตร์ก่อนหน้านั้นมีมูลค่ามหาศาลกว่าเงิน 62.2 ล้านปอนด์ของ Lerner และก็เกิดขึ้นกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งของโลก

 

790 ล้านปอนด์ กับทีม Manchester United ด้วยน้ำมือของ Malcolm Glazer เจ้าของทีม Tampa Bay Buccaneers !

 

 

Malcolm Glazer

 

สโมสร Manchester United กลายเป็นธุรกิจครอบครัว Glazer เมื่อ Glazer ผู้พ่อให้ลูกชายทั้งสาม คือ Joel , Avram และ Bryan เข้ามาดูแล Board บริหารของทีม โดยได้ปลดคนเก่าคนแก่ของสโมสรไปหลายคน

 

ทำให้แรงต้านของแฟนบอลซึ่งมีตั้งแต่รู้ข่าว Deal ประวัติศาสตร์นี้ ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก กลุ่มแฟนบอลที่รับไม่ได้กับการเข้ามาหาผลกำไรจากสโมสรอันเป็นที่รักของเขากลุ่มหนึ่ง ถึงกับตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมาใหม่ นั่นคือ "FC United of Manchester" ส่งลงแข่งขันในลีกท้องถิ่นของอังกฤษ และมีแฟนบอลผีแดงเก่าย้ายมาสนับสนุนผีแดงใหม่นี้ถึง 3,000 กว่าคน

แฟนบอลผีแดงต้อนรับ Glazer อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

 

 

เป้าหมายของ Glazer ก็คือการทำให้ Manchester United กลายเป็นสินค้าที่ขายได้ตั้งแต่ L.A. จนถึงจังหวัดเลย

 

รวมถึงผลประโยชน์ทางการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดต่างๆ ซึ่งว่ากันว่า 1 นัดที่ผีแดงลงเตะ จะมีแฟนฟุตบอลมากกว่า 1000 ล้านคนนั่งลุ้นอยู่หน้าจอโทรทัศน์

 

ซึ่งมันเป็นจำนวนผู้ชมในระดับเดียวกับ Super Bowl ! หนึ่งนัดเลยทีเดียว

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า หลายๆ สโมสรฟุตบอลในสหราชอาณาจักรกำลังเป็นที่หมายปองของเหล่านักธุรกิจอเมริกันอีกหลายคน

 

หลังจากการบุกระลอกแรกของเศรษฐีฝั่งยุโรปตะวันออก เช่น Abramovich ของ Chelsea , Gaydamak ของ Portsmouth, Romanove มหาเศรษฐีชาว Lithunia ของ Hearts (ทีมในลีกสก๊อตแลนด์)

 

ความแตกต่างระหว่างนักธุรกิจอเมริกันก็คือ นักธุรกิจชาวอเมริกันเหล่านี้มักคำนึงถึงเรื่องรายได้และผลกำไรเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนของเหล่ามหาเศรษฐีฝั่งยุโรป ที่มักลงทุนเพราะความชอบโดยส่วนตัว เหมือนการลงทุนเสริมบารมีให้แก่ตนเอง (เช่นเดียวกับ Berlucconi แห่ง A.C. Milan) ความสำคัญของเกมลูกหนังนี้ในยุโรป มิใช่เป็นเพียงเรื่องเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเกมกีฬาที่มีเรื่องของคะแนนนิยมทางการเมืองพ่วงมาด้วย

 

ซึ่งต่างจากเศรษฐีฝั่งอเมริกันที่เห็นเพียงผลประโยชน์ในการทำธุรกิจ

 

… ล่าสุดมีข่าวลือว่า Liverpool และ Newcastle อาจจะเป็นเป้าหมายต่อไปของการควบรวมธุรกิจ Football - Football นี้ เมื่อตระกูล Kraft ตระกูลอภิมหาเศรษฐีเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอล "New England Patriots" กำลังให้ความสนใจทั้งสองทีมอยู่ และอยากจะไล่ตามเพื่อนร่วมธุรกิจไปยังบริเตนดูใหญ่บ้าง

 

ไม่แน่ในอนาคตเราอาจเห็นการรวมลีก ระหว่าง Premiership กับ NFL ก็เป็นได้ … และนั่นจะเป็นการปฎิวัติครั้งใหญ่ของเกมกีฬาที่เรียกว่า "Football" เลยทีเดียว ;-)

 

 

…………………………………………………………..

ประกอบการเขียน - แหล่งข้อมูลแนะนำ

 

Jose Luis Arnaut . Independent European Sport Review 2006. Uk Presidency of The EU , 2006

http://discussions.bbcamerica.com/thread.jspa?messageID=855420

http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2006/08/14/AR2006081400485.html

http://en.wikipedia.org/wiki/Malcolm_Glazer_takeover_of_Manchester_United

http://www.footballeconomy.com