5 ก.ย. 2549 - พอล ฮันเตอร์ ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยอีสต์ออฟแองเกลีย แห่งประเทศอังกฤษ เปิดเผยผลงานวิจัยในประชุมด้านสุขภาพเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2549 โดยระบุว่าโรคระบาดที่แพร่กระจายได้ไกลขึ้นในปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากภาวะโลกร้อน
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิตามแหล่งน้ำต่างๆ สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร เป็นเหตุให้สิ่งมีชีวิตหลายชนิดเจริญเติบโตได้ดีขึ้น และบางชนิดก็อพยพย้ายถิ่นที่อยู่
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ อัตราการแพร่ระบาดของโรคมาเลเรียในทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นส่งผลต่อพฤติกรรมการวางไข่ที่เปลี่ยนแปลงไปของยุงในพื้นที่ดังกล่าว และความร้อนชื้นที่เกิดขึ้นยิ่งเป็นปัจจัยที่เอื้ออำนวยให้ยุงเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้การระบาดของโรคมาเลเรียสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีกรณ๊ที่จุลินทรีย์และแบคทีเรียหลายชนิดเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วในน้ำที่อุ่นขึ้น สังเกตได้จากการที่ชาวยุโรปเป็นโรคระบาดซึ่งแต่เดิมเป็นโรคเขตร้อนกันมากขึ้น โดยแบคทีเรียที่พบในแหล่งน้ำแถบยุโรปขณะนี้ได้แก่ วิบริโอ วัลนิฟิคัส (Vibrio vulnificus) ทำให้เกิดอาการมือเท้าบวมเพราะติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้
ตามปกติแล้ววิบริโอ วัลนิฟิคัสจะเจริญเติบโตได้ดีและพบมากในบริเวณอ่าวเม็กซิโก แต่ขณะนี้สามารถพบได้ที่ทะเลบอลติกในยุโรป ล่าสุดมีชาวสวีเดน 1 ราย เสียชีวิตจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้
จากสถิติที่สำรวจเพิ่มเติมพบว่าชาวอิตาลีราว 100 คน มีอาการป่วยเนื่องจากท้องร่วง เพราะแบคทีเรียชื่อว่า ออสเตรออพซิส โอวาตา (Ostreopsis Ovata) และมีการตรวจพบผู้ป่วยชาวยุโรปมีเลือดออกตามจมูก ปาก และผิวหนัง เนื่องจากติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งซึ่งพบในเขตร้อนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ฮันเตอร์ระบุว่าการเฝ้าระวังและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ไม่เอื้อต่อการควบคุมความเปลี่ยนแปลงและแพร่ระบาดของสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดโรคได้เลย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางป้องกันมิให้ปัญหานี้เกิดขึ้นเรื้อรัง จนนำไปสู่ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของคนจำนวนมาก
.
ที่มา - เวบไซต์สำนักข่าวบีบีซี