Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis



เหล่า Staff ในตำนาน Boot Room อันลือลั่นของทีม Liverpool


 



 





วิทยากร บุญเรือง , กานต์ชนก เกตุมงคล


 


 


 


... เอาเข้าให้จริงๆ แล้ว คุณอาจจะไม่แปลกใจถ้าหาก Bill Shankly บรมครูทางด้านลูกหนังจากค่าย Andfield ฟื้นคืนชีพแล้วเดินเตร็ดเตร่แถวถนนข้าวสาร พร้อมกับถามวิธีซื้อตั๋วฟุตบอลผ่านบัตรเครดิตจากเด็กขายพวงมาลัยแถวนั้น


 


เพราะทุกวันนี้เกมลูกหนังเปลี่ยนแปลงไปจากยุคต้นทศวรรษที่ 1970"s - 1980's โดยสิ้นเชิง ทำให้คนหลงยุค/หลงสมัยอาจจะยังคาดไม่ถึงกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากที่เคยเป็นมาของมัน


 


บทความนี้เป็นการถอดความและเรียบเรียงจากงานเขียนชิ้นล่าสุดของนักเขียนฝ่ายซ้าย Phil Vasili คอลัมนิสต์จากค่าย Socialist Worker ประเทศอังกฤษ ที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับเกมกีฬานี้ ได้อย่างน่าดูน่าชม พร้อมกับเปิดประเด็นพื้นที่สำหรับการวิพากย์-วิจารณ์ อย่างเผ็ดร้อน ตามประสา 'ฝ่ายซ้าย'


 


ซึ่งนานๆ ที เราคนไทยจะได้รับรู้ข้อมูลการนำเสนอมุมมองที่แปลกออกไป ต่อกีฬานี้จากที่เคยถูกผูกขาดไว้โดยกลุ่มคนกีฬากลุ่มเดียว ที่มีความคิดไหลลื่นไหลตามกันไปจนหมดจนสิ้น ตามสไตล์ 'ผู้เชี่ยวชาญกีฬา แบบไทยๆ' ;-)


 


0 0 0


 


… ในหนังสือภาพขาวดำของ John Tennant  'Golden Age of Football : Extraordinary Image from 1900 - 1985' ที่เก็บรวบรวมเอาภาพเก่าๆ เกี่ยวกับเกมกีฬาฟุตบอลไว้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพตำนานความยิ่งใหญ่ของทีม  Liverpool ในยุคของ Boot Room [1] เมื่อปี 1980


 


ถ้อยคำอันลึกซึ้งกินใจเพียงคำสองคำ หรือ ยุทธวิธีร้อยแปดพันเก้า อาจจะเปลี่ยนผลการแข่งขันในช่วงครึ่งเวลาหลัง --- ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันออกมาจากปากของ Bob Paisley ขณะแก้เกมให้ลูกทีม Liverpool ในช่วงพักครึ่งเวลา --- เมื่อมองย้อนกลับไปอดีตเราอาจเห็น Bob Paisley กำลังยืนสั่งการลูกทีมหรือปรับแท็คติกการเล่น ล้อมรอบไปด้วยสต๊าฟประจำทีม บนพรมผืนเก่าๆ ในห้องแต่งตัว --- ส่วนข้างนอกนั่น! มีตู้โชว์และถ้วยรางวัลมากมาย


 


Liverpool เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ในยุค 1970"s - 1980"s [2] ถึงแม้ว่าผมจะไม่ใช่แฟนของทีมนี้ แต่ผมก็อดที่จะอิจฉากับความสำเร็จนี้ไม่ได้  พวกเขาได้ส่งผ่านวัฒนธรรมของเกมนี้ในแบบของ "การทำงานหนักของนักเตะในวันเสาร์ ก็เพื่อแฟนบอลที่เสียค่าบัตรเป็นค่าเหนื่อยให้พวกเขาแต่ละสัปดาห์  สู้บนผืนหญ้าเพื่อการไปเตะถ้วยยุโรป ชิงแชมป์บอลถ้วยช่วงท้ายฤดูกาล และก็ปิดฤดูกาลในผับแห่งใดแห่งหนึ่ง …"


 


แต่ปัจจุบัน Liverpool และ Premiership ได้ไปไกลกว่าสิ่งที่กล่าวมานั้น พวกเขาได้หนีออกจากสิ่งที่ Bob Paisley ได้ทำเอาไว้ พวกเขาได้หนีออกจากสิ่งที่ Bill Shankly ได้วางรากฐานเอาไว้ และมันจะถูกเปลี่ยนไปตลอดกาล


 


 


0 0 0


 


Market


 


คล้ายกับพรรค Labour ภายใต้การนำของ Tony Blair ที่ทีมชั้นนำใน League สูงสุดของอังกฤษ กระตือรืนล้นที่จะสร้างคุณค่าเกมกีฬานี้ในด้านการตลาด และแฟนบอลก็พร้อมที่จะถูกสูบเงินทั้งในและนอกสนามฟุตบอล


 


Bob Paisley , Joe Fogan และคนอื่นๆ จะทำอย่างไรกับเกมฟุตบอลปัจจุบัน ในเมื่อจุดมุ่งหมายของอุตสาหกรรมนี้เกินเลยไปกว่าที่มันเคยเป็น  มันได้ทิ้งขว้างจิตวิญญาณของเกมนี้ไปแล้วหรือ? … แค่ซื้อคุณค่าของเกมนี้ผ่านเครดิตคาร์ดเท่านั้นหรือ? บัดซบ! แล้วเท่าไร่ล่ะ!?


 


ผมกำลังโหยหาบรรยากาศเก่าๆ มากไปหรือเปล่า ในขณะที่หยิบหนังสือภาพที่ไม่มีชีวิตของ John Tennant ขึ้นมาดู? มันคงยังจะเป็นเกมของลูกผู้ชายใช่หรือไม่?, แต่มันจะไม่มีการร่วมมือกัน เพื่อเข้ามาหาผลประโยชน์จากเกมนี้เลยหรือ? ทั้งๆ ที่ Coca Cola และ McDonald ต่างก็พยายามจะยัดสินค้าและการโฆษณาแฝงเข้าไปในทุกส่วนของเกมนี้ ตั้งแต่การเป็นสปอนเซอร์การอบรมโค้ชจนถึงโลโก้ติดหน้าอกเด็กเก็บบอลข้างสนาม


 


ปัจจุบันนักฟุตบอลอาชีพในระดับ Premiership สามารถมีส่วนแบ่งส่วนรายได้มหาศาลจากสิ่งที่พวกเขาทำ นอกจากการเตะลูกฟุตบอลในสนามแล้ว  การไปเป็นนายแบบให้สินค้าดังๆ หรือมีภาพและชื่อปรากฎในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป  ธุรกิจนี้ได้แตกหน่อสาขาออกไปทั่วสหราชอาณาจักร สโมสรฟุตบอลต่างๆ ต่างไปซุ่มดูฟอร์มนักเตะรุ่นจิ๋วฝีเท้าแจ๋วเด่นๆ ซักคนสองคนจากโรงเรียนประถม เพื่อนำมาตีตราเป็นสินค้าของตน


 


กรณีเหล่านี้คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึง "การฝึกฝนและเพิ่มทักษะให้แรงงานจำนวนมาก เพื่อเป็นพลังสำคัญในการผลิต สร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจ แบบที่ประเทศด้อยพัฒนาที่พยายามจะก้าวเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ทำกัน" เป็นเรื่องที่ตกยุค ตกสมัยไปแล้วในตลาดแรงงานของอังกฤษปัจจุบัน แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง สำหรับ "กองทัพอังกฤษ" เพราะถ้าคุณยังหนุ่มแน่น เป็นชนชั้นกรรมชีพ และอยากที่จะออกไปท่องโลกภายนอก พวกเขาก็พร้อมที่จะฝึกฝนพวกคุณให้เหมือนๆ กัน โดยให้คุณได้แต่ "รับคำสั่งฆ่าๆๆๆ" แล้วก็ขายพวกคุณให้กับ "จักรวรรดิบรรษัทนิยม"


 


ใช่แล้ว! ตอนนี้เกมฟุตบอลมันยึดถือเรื่องเงินเป็นสรณะ  อาจจะเป็นตั้งแต่รายการโทรทัศน์ของ Ropert Murdoch เริ่มเข้ามายุ่มย่าม ทำสัญญาการถ่ายทอดสดเกมนี้ แล้วภาพโฆษณาต่างๆ ถูกใส่ลงไปในจอทีวี,ตัวอักษรวิ่งแสดงความรู้สึกของแฟนบอลผ่าน SMS ข้างล่างจอ, สิ่งต่างๆ มากมายถูกยัดลงไปในจอภาพขณะถ่ายทอดสดกีฬาประเภทนี้ … จึงดูว่าเป็นการกระทำอันชาญฉลาดอย่างมาก ที่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ส่วนมากจะใช้ทีวีจอยักษ์ในการรับชมเกม ;-)


 


0 0 0


 


Columbia


 


อีกไม่นานนักเราอาจจะรับรู้ถึงความรู้สึกเป็นมิตรอย่างสุดซึ้งที่ "บรรษัทที่หากินกับฟุตบอล" พยายามทำให้เหมือนกับที่ FIFA และ FA กระทำต่อเกมกีฬานี้ (และอย่างที่รู้ๆ กันว่าเป็นแค่การ "สร้างภาพ" เพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น) แต่การกระทำของบริษัทโลกบาลเหล่านั้นมันกลับช่าง "เลวร้ายเหลือเกิน"


 


สหภาพนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัย Sussex มีมติพร้อมใจกันแบนผลิตภัณฑ์ของ Coca Cola ทุกชนิดที่วางขายในมหาลัย เนื่องจากการที่บริษัท Coca Cola ในประเทศ Columbia ปราบปราม,ทำอาชญากรรม และต่อต้านการตั้งสหภาพแรงงานของคนงานผลิตขวด Coke อย่างรุนแรง [3]


 


อีกกรณีที่เหมือนกับการ "ยิงฝ่ายซ้าย" อย่างจงใจ  ในแมตซ์การแข่งขันฟุตบอลระดับชาติระหว่างทีมชาติ Italy และทีมชาติ Croatia ในเมือง Livorno แฟนบอลฟาสซิสต์ของทีมเยือนจงใจทำท่า "Nazi salutes" ในสนาม … ถ้าไปทำที่ Milan หรือ Rome ก็อาจจะดูไม่แปลก แต่ที่เมือง Livorno [4] เราก็ทราบกันดีว่าเป็นฐานสำคัญของฝ่ายซ้ายในอิตาลีแห่งหนึ่ง ซึ่งสโมสรใน League อิตาลีหลายแห่งมีฐานแฟนบอลฝ่ายซ้ายที่เข้มแข็งมาก ต่างจากเยอรมัน โปแลนด์ หรือประเทศฝั่งยุโรปตะวันออกบางแห่งที่ยังมีแนวคิด "ชาตินิยมสูง"


 


ภาพจากทางรายการโทรทัศน์ที่ฉายให้เห็นถึงการกระทำรุนแรงของกองเชียร์ทีมชาติอังกฤษบางคน ในประเทศเยอรมันเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความคับแคบไม่เปิดใจ จากถ้อยคำที่เหยียดผิวของผู้ปราบปรามรวมถึงกองเชียร์เหล่านั้น ทั้งๆ ที่ในสนามกำลังพยายามที่จะปัดปัดเรื่องนี้ออกจากเกมไป …


 


เอาล่ะ! กลับจากอดีต แล้วมามองดูปัจจุบันกันดีกว่า สำหรับฤดูกาลใหม่ของ Premiership … ฝูงชนมากมายคงยังจะจดจ่อกับ Premiership , สโมสรต่างๆ อาจมีอุบายทางการตลาดแบบใหม่ๆ เช่น การลดราคาตั๋วลง , Chelsea อาจจะไม่ได้ถ้วย Champion League และ Jose Mourinho อาจจะถูกไล่ออกไป


 


แต่ผู้จัดการบางคนอาจจะไม่ถูกไล่ออก ใครคนนั้นอาจจะเป็น Martin O"Niel ที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งที่ Villa --- หลังจากที่เขาพา Celtics ทีมเก่าคว้ามาทุกถ้วยที่มีการแข่งขันในสก๊อตแลนด์ และก็พา Celtics เข้าถึงรอบชิง UEFA Cup --- และอีกไม่นานนักที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวให้แฟน Villa ได้เห็น


 


แล้วผมจะคอยดูผลงานของคุณ ในอีกทีมถัดไปอีกนะ! Martins ;-)  


 


 


 


............................................................................


 


[1]  ตำนาน Boot Room ของทีม Liverpool คือ การสืบทอดตำแหน่งของสต๊าฟโค้ชประจำทีมโดยอาจจะเริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ดูแลสนาม พนักงานชั่วคราวทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ   โค้ชทีมสำรอง  จนสามารถไต่เต้าไปสู่การเป็นผู้จัดการทีม  ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในยุคของปรมาจารย์  Bill Shankly ผู้จัดการทีมที่วางรากฐานให้ Liverpool เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกทีมหนึ่ง  และโด่งดังที่สุดในยุคของ Bob Paisley ส่วนคำว่า Boot Room นั้นหมายถึงห้องเก็บอุปกรณ์และแต่งตัวของผู้เล่นของทีม  โดยการใช้ตะปูตอกไปบนฝาห้องเพื่อแขวนของเท้าสตั๊ดของผู้เล่นซึ่งสมัยก่อนรองเท้าสตั๊ดมีรูปทรงคล้ายกับรองเท้า Boot ในปัจจุบัน โดย Boot Room ในยุคแรกๆ ประกอบด้วย Bill Shankly , Bob Pasley , Joe Fagan , Ronnie Moran , Rueben Bennett


 


[2] ในช่วงทศวรรษที่ 1970"s - 1980"s Liverpool เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเกาะอังกฤษ โดยสามารถค้าแชมป์ League สูงสุดได้ในฤดูกาล 1972-73,1975-76,1976-77,1978-79,1979-80 ,1981-82 ,1982-83 ,1983-84 ,1985-86,1987-88,1989-90  แชมป์ FA Cup ในฤดูกาล 1974 ,1986 , 1989 แชมป์ League Cup ในฤดูกาล 1981 , 1982 ,1983 , 1984 แชมป์ UEFA Cup ในฤดูกาล 1972-1973,1975-1976 แชมป์ European Super Cup ในฤดูกาล 1977 และ แชมป์ European Cup ในฤดูกาล 1976-77,1977-78 ,1980-81,1983-84


[3] ตั้งแต่ปี ค.. 1989 เป็นต้นมา มีสหภาพแรงงานใน Columbia ถึง 7 แห่ง ที่สมาชิกเป็นแรงงานในบริษัททำขวด Coke และผู้นำของสหภาพหลายคนต้องถูกลักพาตัว,ฆาตกรรม ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากการพยายามทำให้สหภาพแรงงานเหล่านี้อ่อนแอ ไม่มีพลังในการต่อรอง จนถึงล่มสลายไปในที่สุด --- และบริษัท Coca Cola เองก็ถูกมองว่า "มือเปื้อนเลือด" อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น


 


[4] ทีม A.S. Livorno ผูกพันแนบแน่นกับลัทธิคอมมิวนิสต์มายาวนาน เรามักเห็นป้ายผ้าและธงรูปเช เกวาราโบกอยู่บนอัฒจันทร์เมื่อทีมนี้เล่นในบ้านตัวเอง การปะทะกระทบกระทั่งระหว่างแฟนบอลของทีมลิวอร์โนกับแฟนบอลขวาจัดของทีมอื่นยังมีให้เห็นเนือง ๆ


 


............................................................................


ประกอบการเขียน - ข้อมูลแนะนำ


 


ภัควดี วีระภาสพงษ์ "เกร็ดเกี่ยวกับฟุตบอลที่คุณอาจไม่รู้ และอะไรจะดีไปกว่าฟัง "โรนัลดินโญ" พูด " ใน Prachatai วันที่ 27 มิถุนายน 2549


 


วิทยากร บุญเรือง "เรื่องราวที่มิอาจมองข้าม การเหยียด "สีผิว-ชาติพันธุ์" (racism) ในเกมฟุตบอล" ใน Prachatai วันที่ 7 กรกฎาคม 2549


 


http://education.independent.co.uk/news/article1220259.ece


http://www.killercoke.org/restciuf.htm


http://www.lfcbootroom.net/history.htm


 


………………………………………..


วิทยากร บุญเรือง และ กานต์ชนก เกตุมงคล


ถอดความและเรียบเรียงจาก


'Was the beautiful game ever really that pretty' โดย : Phil Vasili ใน Socialist Worker ฉบับที่ 2016 วันที่ 2 กันยายน ค..2006


 


Phil Vasili นักเขียนฝ่ายซ้าย คอลัมนิสต์ของ Socialist worker นอกจากนี้เขายังมีงานเขียนเกี่ยวกับ ชีวประวัติ-การต่อสู้ของนักฟุตบอลผิวสี ในสหราชอาณาจักร ติดตามผลงานของเขาได้ที่ www.vasili.co.uk

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net