เหล่า Staff ในตำนาน Boot Room อันลือลั่นของทีม
วิทยากร บุญเรือง , กานต์ชนก เกตุมงคล |
... เอาเข้าให้จริงๆ แล้ว คุณอาจจะไม่แปลกใจถ้าหาก Bill Shankly บรมครูทางด้านลูกหนังจากค่าย Andfield ฟื้นคืนชีพแล้วเดินเตร็ดเตร่แถวถนนข้าวสาร พร้อมกับถามวิธีซื้อตั๋วฟุตบอลผ่านบัตรเครดิตจากเด็กขายพวงมาลัยแถวนั้น
เพราะทุกวันนี้เกมลูกหนังเปลี่ยนแปลงไปจากยุคต้นทศวรรษที่ 1970"s - 1980's โดยสิ้นเชิง ทำให้คนหลงยุค/หลงสมัยอาจจะยังคาดไม่ถึงกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากที่เคยเป็นมาของมัน
บทความนี้เป็นการถอดความและเรียบเรียงจากงานเขียนชิ้นล่าสุดของนักเขียนฝ่ายซ้าย Phil Vasili คอลัมนิสต์จากค่าย Socialist Worker ประเทศอังกฤษ ที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับเกมกีฬานี้ ได้อย่างน่าดูน่าชม พร้อมกับเปิดประเด็นพื้นที่สำหรับการวิพากย์-วิจารณ์ อย่างเผ็ดร้อน ตามประสา 'ฝ่ายซ้าย'
ซึ่งนานๆ ที เราคนไทยจะได้รับรู้ข้อมูลการนำเสนอมุมมองที่แปลกออกไป ต่อกีฬานี้จากที่เคยถูกผูกขาดไว้โดยกลุ่มคนกีฬากลุ่มเดียว ที่มีความคิดไหลลื่นไหลตามกันไปจนหมดจนสิ้น ตามสไตล์ 'ผู้เชี่ยวชาญกีฬา แบบไทยๆ' ;-)
0 0 0
ในหนังสือภาพขาวดำของ John Tennant 'Golden Age of Football : Extraordinary Image from 1900 - 1985' ที่เก็บรวบรวมเอาภาพเก่าๆ เกี่ยวกับเกมกีฬาฟุตบอลไว้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพตำนานความยิ่งใหญ่ของทีม
ถ้อยคำอันลึกซึ้งกินใจเพียงคำสองคำ หรือ ยุทธวิธีร้อยแปดพันเก้า อาจจะเปลี่ยนผลการแข่งขันในช่วงครึ่งเวลาหลัง --- ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันออกมาจากปากของ Bob Paisley ขณะแก้เกมให้ลูกทีม
แต่ปัจจุบัน
0 0 0
Market
คล้ายกับพรรค Labour ภายใต้การนำของ Tony Blair ที่ทีมชั้นนำใน League สูงสุดของอังกฤษ กระตือรืนล้นที่จะสร้างคุณค่าเกมกีฬานี้ในด้านการตลาด และแฟนบอลก็พร้อมที่จะถูกสูบเงินทั้งในและนอกสนามฟุตบอล
Bob Paisley , Joe Fogan และคนอื่นๆ จะทำอย่างไรกับเกมฟุตบอลปัจจุบัน ในเมื่อจุดมุ่งหมายของอุตสาหกรรมนี้เกินเลยไปกว่าที่มันเคยเป็น มันได้ทิ้งขว้างจิตวิญญาณของเกมนี้ไปแล้วหรือ?
แค่ซื้อคุณค่าของเกมนี้ผ่านเครดิตคาร์ดเท่านั้นหรือ? บัดซบ! แล้วเท่าไร่ล่ะ!?
ผมกำลังโหยหาบรรยากาศเก่าๆ มากไปหรือเปล่า ในขณะที่หยิบหนังสือภาพที่ไม่มีชีวิตของ John Tennant ขึ้นมาดู? มันคงยังจะเป็นเกมของลูกผู้ชายใช่หรือไม่?, แต่มันจะไม่มีการร่วมมือกัน เพื่อเข้ามาหาผลประโยชน์จากเกมนี้เลยหรือ? ทั้งๆ ที่ Coca Cola และ McDonald ต่างก็พยายามจะยัดสินค้าและการโฆษณาแฝงเข้าไปในทุกส่วนของเกมนี้ ตั้งแต่การเป็นสปอนเซอร์การอบรมโค้ชจนถึงโลโก้ติดหน้าอกเด็กเก็บบอลข้างสนาม
ปัจจุบันนักฟุตบอลอาชีพในระดับ Premiership สามารถมีส่วนแบ่งส่วนรายได้มหาศาลจากสิ่งที่พวกเขาทำ นอกจากการเตะลูกฟุตบอลในสนามแล้ว การไปเป็นนายแบบให้สินค้าดังๆ หรือมีภาพและชื่อปรากฎในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ธุรกิจนี้ได้แตกหน่อสาขาออกไปทั่วสหราชอาณาจักร สโมสรฟุตบอลต่างๆ ต่างไปซุ่มดูฟอร์มนักเตะรุ่นจิ๋วฝีเท้าแจ๋วเด่นๆ ซักคนสองคนจากโรงเรียนประถม เพื่อนำมาตีตราเป็นสินค้าของตน
กรณีเหล่านี้คือสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึง "การฝึกฝนและเพิ่มทักษะให้แรงงานจำนวนมาก เพื่อเป็นพลังสำคัญในการผลิต สร้างสรรค์ระบบเศรษฐกิจ แบบที่ประเทศด้อยพัฒนาที่พยายามจะก้าวเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ทำกัน" เป็นเรื่องที่ตกยุค ตกสมัยไปแล้วในตลาดแรงงานของอังกฤษปัจจุบัน แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง สำหรับ "กองทัพอังกฤษ" เพราะถ้าคุณยังหนุ่มแน่น เป็นชนชั้นกรรมชีพ และอยากที่จะออกไปท่องโลกภายนอก พวกเขาก็พร้อมที่จะฝึกฝนพวกคุณให้เหมือนๆ กัน โดยให้คุณได้แต่ "รับคำสั่งฆ่าๆๆๆ" แล้วก็ขายพวกคุณให้กับ "จักรวรรดิบรรษัทนิยม"
ใช่แล้ว! ตอนนี้เกมฟุตบอลมันยึดถือเรื่องเงินเป็นสรณะ อาจจะเป็นตั้งแต่รายการโทรทัศน์ของ Ropert Murdoch เริ่มเข้ามายุ่มย่าม ทำสัญญาการถ่ายทอดสดเกมนี้ แล้วภาพโฆษณาต่างๆ ถูกใส่ลงไปในจอทีวี,ตัวอักษรวิ่งแสดงความรู้สึกของแฟนบอลผ่าน SMS ข้างล่างจอ, สิ่งต่างๆ มากมายถูกยัดลงไปในจอภาพขณะถ่ายทอดสดกีฬาประเภทนี้
จึงดูว่าเป็นการกระทำอันชาญฉลาดอย่างมาก ที่ฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ส่วนมากจะใช้ทีวีจอยักษ์ในการรับชมเกม ;-)
0 0 0
อีกไม่นานนักเราอาจจะรับรู้ถึงความรู้สึกเป็นมิตรอย่างสุดซึ้งที่ "บรรษัทที่หากินกับฟุตบอล" พยายามทำให้เหมือนกับที่ FIFA และ FA กระทำต่อเกมกีฬานี้ (และอย่างที่รู้ๆ กันว่าเป็นแค่การ "สร้างภาพ" เพื่อหาผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น) แต่การกระทำของบริษัทโลกบาลเหล่านั้นมันกลับช่าง "เลวร้ายเหลือเกิน"
สหภาพนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัย
อีกกรณีที่เหมือนกับการ "ยิงฝ่ายซ้าย" อย่างจงใจ ในแมตซ์การแข่งขันฟุตบอลระดับชาติระหว่างทีมชาติ Italy และทีมชาติ Croatia ในเมือง Livorno แฟนบอลฟาสซิสต์ของทีมเยือนจงใจทำท่า "Nazi salutes" ในสนาม
ถ้าไปทำที่ Milan หรือ Rome ก็อาจจะดูไม่แปลก แต่ที่เมือง Livorno [4] เราก็ทราบกันดีว่าเป็นฐานสำคัญของฝ่ายซ้ายในอิตาลีแห่งหนึ่ง ซึ่งสโมสรใน League อิตาลีหลายแห่งมีฐานแฟนบอลฝ่ายซ้ายที่เข้มแข็งมาก ต่างจากเยอรมัน โปแลนด์ หรือประเทศฝั่งยุโรปตะวันออกบางแห่งที่ยังมีแนวคิด "ชาตินิยมสูง"
ภาพจากทางรายการโทรทัศน์ที่ฉายให้เห็นถึงการกระทำรุนแรงของกองเชียร์ทีมชาติอังกฤษบางคน ในประเทศเยอรมันเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความคับแคบไม่เปิดใจ จากถ้อยคำที่เหยียดผิวของผู้ปราบปรามรวมถึงกองเชียร์เหล่านั้น ทั้งๆ ที่ในสนามกำลังพยายามที่จะปัดปัดเรื่องนี้ออกจากเกมไป
เอาล่ะ! กลับจากอดีต แล้วมามองดูปัจจุบันกันดีกว่า สำหรับฤดูกาลใหม่ของ Premiership
ฝูงชนมากมายคงยังจะจดจ่อกับ Premiership , สโมสรต่างๆ อาจมีอุบายทางการตลาดแบบใหม่ๆ เช่น การลดราคาตั๋วลง ,
แต่ผู้จัดการบางคนอาจจะไม่ถูกไล่ออก ใครคนนั้นอาจจะเป็น Martin O"Niel ที่พึ่งเข้ามารับตำแหน่งที่ Villa --- หลังจากที่เขาพา Celtics ทีมเก่าคว้ามาทุกถ้วยที่มีการแข่งขันในสก๊อตแลนด์ และก็พา Celtics เข้าถึงรอบชิง UEFA Cup --- และอีกไม่นานนักที่เขาจะได้พิสูจน์ตัวให้แฟน Villa ได้เห็น
แล้วผมจะคอยดูผลงานของคุณ ในอีกทีมถัดไปอีกนะ! Martins ;-)
............................................................................
[1] ตำนาน Boot Room ของทีม Liverpool คือ การสืบทอดตำแหน่งของสต๊าฟโค้ชประจำทีมโดยอาจจะเริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ดูแลสนาม พนักงานชั่วคราวทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ โค้ชทีมสำรอง จนสามารถไต่เต้าไปสู่การเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในยุคของปรมาจารย์ Bill Shankly ผู้จัดการทีมที่วางรากฐานให้ Liverpool เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกทีมหนึ่ง และโด่งดังที่สุดในยุคของ Bob Paisley ส่วนคำว่า Boot Room นั้นหมายถึงห้องเก็บอุปกรณ์และแต่งตัวของผู้เล่นของทีม โดยการใช้ตะปูตอกไปบนฝาห้องเพื่อแขวนของเท้าสตั๊ดของผู้เล่นซึ่งสมัยก่อนรองเท้าสตั๊ดมีรูปทรงคล้ายกับรองเท้า Boot ในปัจจุบัน โดย Boot Room ในยุคแรกๆ ประกอบด้วย Bill Shankly , Bob Pasley , Joe Fagan , Ronnie Moran , Rueben Bennett
[2] ในช่วงทศวรรษที่ 1970"s - 1980"s Liverpool เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเกาะอังกฤษ โดยสามารถค้าแชมป์ League สูงสุดได้ในฤดูกาล 1972-73,1975-76,1976-77,1978-79,1979-80 ,1981-82 ,1982-83 ,1983-84 ,1985-86,1987-88,1989-90 แชมป์ FA Cup ในฤดูกาล 1974 ,1986 , 1989 แชมป์ League Cup ในฤดูกาล 1981 , 1982 ,1983 , 1984 แชมป์ UEFA Cup ในฤดูกาล 1972-1973,1975-1976 แชมป์ European Super Cup ในฤดูกาล 1977 และ แชมป์ European Cup ในฤดูกาล 1976-77,1977-78 ,1980-81,1983-84
[3] ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 เป็นต้นมา มีสหภาพแรงงานใน
[4] ทีม A.S. Livorno ผูกพันแนบแน่นกับลัทธิคอมมิวนิสต์มายาวนาน เรามักเห็นป้ายผ้าและธงรูปเช เกวาราโบกอยู่บนอัฒจันทร์เมื่อทีมนี้เล่นในบ้านตัวเอง การปะทะกระทบกระทั่งระหว่างแฟนบอลของทีมลิวอร์โนกับแฟนบอลขวาจัดของทีมอื่นยังมีให้เห็นเนือง ๆ
............................................................................
ประกอบการเขียน - ข้อมูลแนะนำ
ภัควดี วีระภาสพงษ์ "เกร็ดเกี่ยวกับฟุตบอลที่คุณอาจไม่รู้ และอะไรจะดีไปกว่าฟัง "โรนัลดินโญ" พูด " ใน Prachatai วันที่ 27 มิถุนายน 2549
วิทยากร บุญเรือง "เรื่องราวที่มิอาจมองข้าม การเหยียด "สีผิว-ชาติพันธุ์" (racism) ในเกมฟุตบอล" ใน Prachatai วันที่ 7 กรกฎาคม 2549
http://education.independent.co.uk/news/article1220259.ece
http://www.killercoke.org/restciuf.htm
http://www.lfcbootroom.net/history.htm
..
วิทยากร บุญเรือง และ กานต์ชนก เกตุมงคล
ถอดความและเรียบเรียงจาก
'Was the beautiful game ever really that pretty' โดย : Phil Vasili ใน Socialist Worker ฉบับที่ 2016 วันที่ 2 กันยายน ค.ศ.2006
Phil Vasili นักเขียนฝ่ายซ้าย คอลัมนิสต์ของ Socialist worker นอกจากนี้เขายังมีงานเขียนเกี่ยวกับ ชีวประวัติ-การต่อสู้ของนักฟุตบอลผิวสี ในสหราชอาณาจักร ติดตามผลงานของเขาได้ที่ www.vasili.co.uk
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)