Skip to main content
sharethis


14 ก.ย. 2549 - นายสุไลมาน หมัดยูโส๊ะ กล่าวว่าการที่ทางกลุ่มคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ประกอบพิธีละหมาดฮายัดขึ้นในวันนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2549 ทางเครือข่ายคัดค้านฯ ได้ร่วมกันขึ้นป้ายคัดค้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่จะดึงน้ำในคลองบ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลาเข้าไปหล่อเย็นในโรงไฟฟ้าและปล่อยน้ำทิ้งลงสู่คลองนาทับ ซึ่งทางกลุ่มได้ติดตั้งป้ายดังกล่าวบริเวณริมตลิ่งคลองบ้านป่างาม เป็นจุดที่ทางการไฟฟ้าจะก่อสร้างอาคารตะแกรงดักขยะเพื่อดึงน้ำเข้าสู่โรงไฟฟ้า เพราะเป็นการทำลายไข่ของพันธุ์สัตว์น้ำ และแพลงตอนซึ่งเป็นอาหารของสัตว์น้ำ รวมถึงการหล่อเย็นที่ทำให้ปนเปื้อนสารพิษแล้วปล่อยลงในคลองเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและชาวบ้านในคลองนาทับ


 


การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักการศาสนาอิสลามที่พระเจ้าเป็นผู้สร้างและประทานแม่น้ำลำคลองให้มนุษย์และสัตว์ได้ใช้ร่วมกัน และให้ดูแลปกป้องรักษา แต่การกระทำของการไฟฟ้ากลับถืออภิสิทธิ์ครอบครองและคิดทำลายสิ่งที่พระเจ้าสร้าง พวกเราจึงยอมไม่ได้ วัตถุประสงค์ของการติดตั้งป้ายดังกล่าว เพียงเพื่อต้องการยืนยันเจตนารมณ์ให้ทางการไฟฟ้ารู้ว่าชาวบ้านไม่ต้องการให้การไฟฟ้าถืออภิสิทธิ์ดูดน้ำในคลองไปใช้และใช้คลองนาทับเป็นที่ระบายน้ำที่ผ่านการหล่อเย็นแล้วเท่านั้น


 


แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาปรากฏว่าป้ายดังกล่าวถูกพังทลายลงมาตั้งกองอยู่กับพื้น โดยฝีมือของคนงานโรงไฟฟ้าสงขลา เหตุการณ์การพังป้ายที่เกิดขึ้นทางกลุ่มคัดค้านฯถือว่าไม่ใช่การพังป้ายของกลุ่มคัดค้านฯเท่านั้น แต่เป็นการท้าทายชาวมุสลิม และทำลายหลักการศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง เพราะป้ายดังกล่าว ขึ้นต้นด้วยภาษาอาหรับที่กล่าวอ้างพระนามของอัลลอฮฺ "บิสมิลลาฮีรฺเราะหฺมา นิรฺเราะฮีม" หรือ "โรงไฟฟ้าอย่ามาบุกรุกทำลายคลองของอัลลอฮฺ พระเจ้าของเราสร้างมาให้ใช้ประโยชน์พวกเราจะปกป้องคัดค้าน" และลงท้ายด้วยภาษาอาหรับว่า "สลาม" การกล่าวอ้างพระนามของอัลลอฮฺก่อนที่จะกระทำการใดๆคนมุสลิมถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะถือเป็นการยึดมั่นต่อพระเจ้าและมีจิตใต้สำนึกต่อศาสนาอิสลาม


 


นายประกอบ หลำโส๊ะ ชาวบ้านบ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ กล่าวว่าทางกลุ่มคัดค้านฯเห็นว่าการที่ป้ายดังกล่าวถูกพังทลายลงมานั้นถือได้ว่าการไฟฟ้าได้ทำลายหลักการศาสนาอิสลาม และกระทำการย่ำยีเหยียดหยามความรู้ของชาวมุสลิมอย่างรุนแรง พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระทำของชัยฏอน หรือที่เรียกว่า "ซาตาน" ซึ่งเป็นมารร้ายที่คัมภีร์อัล-กุรฺอานกล่าวว่าเป็นผู้หลอกลวงและเป็นศัตรูของมนุษย์ เป็นผู้กำเริบเสิบสาน ผู้คิดร้าย คนชั่ว ไม่ต่างจากพฤติกรรมของการไฟฟ้าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่


 


1.)    การดำเนินโครงการโดยไม่โปร่งใสไม่ชอบด้วยกฎหมาย


2.)    ขาดการมีส่วนร่วมจากชุมชน


3.)    การใช้เงินเป็นใหญ่โปรยเงินให้กับผู้นำ ผู้นำศาสนา และชุมชนเพียงหวังจากการยอมรับ


4.)    การให้คนของโรงไฟฟ้าสงขลามาพังป้ายของกลุ่มคัดค้าน และยังให้คนของโรงไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจรจายอมชดใช้ค่าป้ายที่พังไป เพื่อให้เรื่องดังกล่าวยุติลง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่การไฟฟ้าถนัดคือการเอาเงินมาฟาดหัว ยิ่งตอกย้ำความชั่วร้ายของบริษัท เพราะเอาเรื่องของหลักการศาสนาอิสลามไปตีค่าเป็นตัวเงิน ซึ่งการยึดมั่นในหลักการศาสนาและความศรัทธาของชาวมุสลิมไม่อาจตีค่าเป็นตัวเงินได้เลย


 


การที่การไฟฟ้าเสนอเช่นนั้นถือเป็นการดูถูกศรัทธาของเราชาวมุสลิมที่มีต่ออัลลอฮฺ ซึ่งพฤติกรรมที่ผ่านมาของการไฟฟ้าไปทำโครงการที่ไหนก็สร้างความเดือนร้อนและหายนะให้กับชุมชนนั้นเช่นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นต้น การที่การไฟฟ้าเอาเงินมาหว่านซื้อคนในชุมชนเพียงเพื่อต้องการซื้อเสียง ซื้อสิทธิของคนในชุมชนไม่ให้ออกมาคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าเท่านั้น โดยคนที่รับเงินไปไม่รู้ว่านั่นคือตนเองได้ขายและทำลายหลักการศาสนาด้วย


 


ยิ่งเวลานี้ทางการไฟฟ้าได้โฆษณาชวนเชื่อและหลอกลวงคนทั้งประเทศว่าหากสามารถสร้างโรงไฟฟ้าสงขลาได้สำเร็จ คนทั้งประเทศจะได้ใช้ไฟฟ้าราคาถูก ค่าเอฟทีจะถูกลง ซึ่งเราไม่เชื่อ เพราะปตท.ก็เคยโฆษณาว่าหากมีโรงแยกก๊าซที่จะนะ  คนไทยจะได้ใช้ก๊าซที่ราคาถูกลง แต่วันนี้ราคาแก๊สจากถังละร้อยกว่าบาท ขึ้นราคาถึงสามร้อยกว่า และผลประโยชน์กำไรกลับได้นายทุนต่างชาติ


 


วันนี้ทางกลุ่มคัดค้านฯจึงจัดพิธีละหมาดฮายัดขึ้น เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้ผู้ที่ทำลายป้ายของทางกลุ่มคัดค้านฯกลับตัวกลับใจเสียใหม่ เป็นการให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิดไปแล้วได้หันกลับมายึดมั่นในแนวทางศาสนา อย่ามัวแต่มีพฤติกรรมรับใช้กฟผ.จนละเลย และยอมทำผิดหลักการศาสนาอิสลาม และขอให้โรงไฟฟ้าสงขลาที่ทำลายชุมชน ย่ำยีความรู้สึกของพี่น้องมุสลิม และทำลายหลักการศาสนาอิสลามออกไปจากชุมชนโดยเร็ว


 


ทางกลุ่มคัดค้านฯ ยืนยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อปกป้องหลักการศาสนาอิสลามที่ชัยฏอนที่มาในคราบของกฟผ.และโรงไฟฟ้าสงขลาจะเข้ามาย่ำยีและทำลาย สุดท้ายขอเรียกร้องให้ชาวมุสลิมทั้งหลายจงลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และต่อสู้กับชัยฏอนที่ต้องการเข้ามาทำลายหลักการศาสนาอิสลามและวิถีชีวิตของชาวมุสลิม


 


หลังจากที่ประกอบพิธีละหมาด ได้ร่วมกันอ่านกุนูต หรือ การวิงวอนขอพรต่ออัลลอฮฺให้มุสลิมอยู่กันอย่างสงบสุขและมีความสันติ จากนั้นทางกลุ่มคัดค้านฯได้ร่วมกันขึ้นแผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนข้อความ ด้วยภาษาอาหรับมีความหมายว่า "ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณีเสมอในโลกนี้และโลกหน้าสำหรับผู้ที่ศรัทธา" "โรงไฟฟ้า (กฟผ.) ทำลายหลักการศาสนาอิสลามและคลองสาธารณะของอัลลอฮฺ  มุสลิมวายิบปกป้อง" และลงท้ายในแผ่นป้ายว่า "สลาม"


 


ด้านนางสุไรด๊ะห์ โต๊ะหลี ชาวบ้านควนหัวช้าง หมู่ที่ 6 ต.คลองเปียะ อ.จะนะ จ.สงขลา ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ยอมให้หน่วยงานไหนมาทำลายหลักการศาสนาอิสลามและทำลายคลองของอัลลอฮฺ ทำลายสิ่งแวดล้อมจะพิทักษ์ปกป้องจนถึงที่สุด เวลาประมาณ 12.00 น.จึงแยกย้ายกันกลับ


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net