Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


 


ตติกานต์ อุดกันทา


 


จนถึงวันนี้ บทสรุปคดี "คาร์บอมบ์" หรือ "คาร์บ๊อง" ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอัน


 


หากจะมองกันอย่างพินิจพิจารณา ตัวละครสำคัญๆ ในเหตุการณ์ (หวิด) ระเบิดแต่ละฉาก ดูแล้วไม่ค่อยจะคงเส้นคงวาเท่าไหร่ แถมยังขาดความรัดกุมในการปฏิบัติการจนถึงขั้นไม่น่าให้อภัย เพราะไม่ว่าจะคำนวณหรือกะเกณฑ์อะไรก็ผิดพลาดไปเสียหมด แต่ก็ดูเหมือนว่าทั้ง "สื่อ" และ "มวลชน" จะใจตรงกันทั้งคู่ เพราะฝ่ายที่นำเสนอข้อมูลก็โหมประโคมเรื่องราวต่างๆ ให้แก่มวลชนอย่างไม่มียั้ง ในขณะที่มวลชนก็พร้อมจะรับฟังข้อมูลเหล่านี้ด้วยความกระตือรือร้น


 


จริงอยู่ว่าการเลือกเสนอข่าว หรือการเลือกที่จะรับฟังเพียงบางข่าว เป็นสิ่งที่เราทุกคนทำได้โดยเท่าเทียมกัน แต่การเฉลี่ยน้ำหนักและความสำคัญของแต่ละข่าวก็คือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เช่นเดียวกัน


 


ข่าวคราวของหญิงหม้ายที่สูญเสียสามีในเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และเด็กกำพร้าที่สูญเสียผู้ปกครองไปในเหตุการณ์เดียวกันพุ่งพรวดพราด เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เพราะผลกระทบที่ตามมาจากปัญหาเหล่านี้จะกินลึกไปถึงระดับรากฐานของสังคม


 


เช่นเดียวกับข่าวเล็กๆ เมื่อสัปดาห์ก่อนที่รายงานผลวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษที่ระบุว่า ภาวะโลกร้อนทำให้กระแสน้ำในแต่ละแห่งอุ่นขึ้น จนเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เชื้อโรคและจุลินทรีย์ต่างๆ ซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำย้ายที่อยู่ และนั่นคือสาเหตุของการแพร่กระจายของโรคเขตร้อนที่ข้ามไปถึงฝั่งยุโรปได้อย่างง่ายดาย ก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวพันโยงใยถึงระดับโลก


 


อีกข่าวคราวหนึ่งที่ธนาคารโลกจัดอันดับให้ประเทศไทยยุคทักษิณ ติดอันดับ "ประเทศที่น่าลงทุน" สำหรับต่างชาติในตำแหน่งที่ 18 ของโลก ก็น่าจะเป็นอีกข่าวหนึ่งที่คนไทยทุกคนน่าจะกันจับตามองให้ดีๆ


 


เพราะบางที...การที่ประเทศไทยติดอันดับน่าลงทุน อาจมีสาเหตุมาจากความง่ายดายในการขอใบอนุญาตลงทุนก็เท่านั้น หาได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันกับศักยภาพในการจัดการธุรกิจของเราไม่


 


และเมื่อการอนุมัติทำกันได้ง่ายๆ ก็อาจทำให้กระบวนการตรวจสอบเรื่องกฎระเบียบในการลงทุน ขั้นตอนการค้า การจัดเก็บภาษี และการจัดการด้านแรงงาน ดำเนินไปอย่างรวบรัดตัดตอน จนอาจกลายเป็นปัญหาตามมาภายหลัง...


 


แม้ข่าวคราวหลายต่อหลายอย่างที่พูดมาจะไม่มีสีสันและขาดความดึงดูดใจ แต่แน่นอนว่าน้ำหนักของข่าวเหล่านี้มีมากพอจนไม่ควรมองข้าม


 


ยิ่งเมื่อได้ฟังบางประโยคของ รศ.สุริชัย หวันแก้ว อดีตเลขานุการคณะกรรมการอิสระ เพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) เปรียบเปรยไว้ในบทสัมภาษณ์จากศูนย์ข่าวอิศรา เมื่อ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ถ้อยคำเหล่านั้นน่าจะทำให้ใครหลายคนได้ฉุกคิดอะไรขึ้นมาบ้าง...ไม่มากก็น้อย


 


โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า "จอรับภาพของสังคมไทยกำลังมีปัญหา" จึงมองไม่เห็นว่ายังมีวิกฤตต่างๆ นานาที่รอการแก้ไข


 


แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องสีสันที่น่าสนใจเท่ากับเหตุการณ์ร้อนๆ ทางการเมือง แต่คำเตือนนิ่มๆ ประโยคนี้น่าจะช่วยให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาปรับสายตา จูนคลื่นความคิด และหันมามองแง่มุมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมกันบ้าง ก่อนที่เราจะมองทุกอย่างด้วยความชา "ชิน" ไปเสียหมด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net