Skip to main content
sharethis


การชุมนุมของพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ


ที่สนามวอลเลย์บอลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา


 

 


ประชาไท -- 17 ก.ย. 2549 ตามที่ "ประชาไท" นำเสนอข่าวมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2549 ไม่อนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือใช้หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดเวทีปราศรัยใหญ่โดยอ้างเหตุผลว่าไม่สามารถรักษาความปลอดภัยได้ และตามมาด้วยการยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดี ของเครือข่ายพันธมิตรฯ ภาคเหนือ ลงวันที่ 14 กันยายน 2549 ให้ทบทวนมติห้ามใช้สถานที่จัดการชุมนุมของเครือข่ายฯ ดังกล่าว ทั้งยังเรียกร้องให้ผู้บริหาร มช. คำนึงถึงประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เป็นสถานที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด ทั้งยังแสดงความเคลือบแคลงต่อผู้บริหาร มช. ที่อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยจึงปฏิเสธการให้เช่าสถานที่ครั้งนี้ ว่าแท้จริงแล้วเป็นเพราะเกรงใจนักการเมืองหรือไม่นั้น


 


ในโอกาสนี้ "ประชาไท"  ขอนำเสนอหนังสือทั้งสองฉบับ ดังนี้


 


000


แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เรื่อง การจัดเวทีประชาธิปไตยเพื่อปราศรัยใหญ่


      


สืบเนื่องจากที่เครือข่ายปฏิรูปการเมืองภาคเหนือร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำหนังสือถึงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ลงวันที่ 11 กันยายน 2549 เพื่อขออนุญาตใช้หอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดเวทีประชาธิปไตยเพื่อปราศรัยใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น


 


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอแถลงว่า ตลอดระยะเวลาที่สังคมไทยเกิดวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองโดยยังไม่อาจหาข้อยุติอย่างสร้างสรรค์ได้นั้น มหาวิทยาลัยได้ส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาโดยตลอด เช่น อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการหาเสียงแก่พรรคการเมืองทุกพรรคและกลุ่ม การให้เสรีภาพในการจัดเวทีแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแก่นักศึกษา คณาจารย์ และประชาชนทั่วไป แต่ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย


 


การขออนุญาตใช้หอประชุมของเครือข่ายฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่สมควรได้รับการเคารพและสนับสนุน เพราะการจัดกิจกรรมปราศรัยของเครือข่ายฯ ที่ผ่านมา ได้ดำเนินโดยสงบและสันติ อันเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่ในระยะที่ผ่านมามหาวิทยาลัยพบว่า การจัดปราศรัยของเครือข่ายฯ ในหลายพื้นที่ มีเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรุนแรงเกิดขึ้น ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและคัดค้านหลายครั้ง และความรุนแรงในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เช่น กรณีการจับนักศึกษาเป็นตัวประกันและมีการทำร้ายถึงบาดเจ็บสาหัส และเมื่อคราวที่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยปราศรัย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2549 ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย


 


ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีความวิตกกังวล ต่อข้อจำกัดในการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินราชการและชีวิตของผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมการปราศรัย ที่อาจเกิดขึ้นจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยจะเปิดการกระทำอย่างเปิดเผยหรือไม่ก็ตาม อาจนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจเยียวยาได้ ดังนั้น ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวทำให้มหาวิทยาลัยไม่สามารถอนุญาตให้เครือข่ายฯ ใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยได้


 


อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักต่อบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบต่อสังคมและการเป็นสถาบันหลักด้านวิชาการที่มั่นคง แต่ด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการแบ่งข้างอย่างชัดเจนในเวลานี้ จำเป็นต้องมีการแสวงหาทางออกเยี่ยงวิญญูชน เพื่อพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในวิถีทางที่ถูกต้อง ชอบธรรม และยุติธรรม


 


ดังนั้น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยความเห็นชอบที่ประชุมผู้บริหารระดับสูง ได้มอบหมายให้คณะวิชาที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวข้องกับเวทีประชาธิปไตยและการปกครองที่เหมาะสมในเวลาอันสมควรต่อไป เพื่อให้สังคมเกิดการเรียนรู้ในการยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างอย่างสันติและขันติธรรมตามครรลองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและเพื่อสนองต่อพระราชดำรัสที่พระราชทานให้ "คนไทยรู้รักสามัคคี" เป็นที่ตั้งต่อไป


 


000


จดหมายเปิดผนึกของพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ


ถึงอธิการบดี และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 


พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่


วันที่ 14 กันยายน 2549


 


เรื่อง เรียกหาจิตวิญญาณและความกล้าหาญทางจริยธรรมของ มช.กลับคืนมา


เรียน อธิการบดี และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


       


มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นความภาคภูมิใจของชาวล้านนา และชาวภาคเหนือทั้งมวลมายาวนาน ..ย้อนหลังกลับไป 40 ปี ประวัติศาสตร์ที่ลูกช้างแต่ละรุ่นพากเพียรจารึกไว้ ณ เชิงดอยสุเทพ ล้วนแต่เป็นบันทึกที่ยิ่งใหญ่เป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของขบวนการประชาธิปไตยไทย


       


จากยุคที่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ร่วมกันเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ช่วงก่อนปี พ.ศ.2516 ต่อเนื่องถึงปี พ.ศ.2523 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือแหล่งบ่มเพาะปัญญาชนและนักสู้เพื่อประชาธิปไตยรุ่นแล้วรุ่นเล่า หรือแม้กระทั่งในระหว่างเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 ประชาชนที่ปักหลักสู้กับเผด็จการทรราชที่ข่วงประตูท่าแพ รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย รั้วของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เปิดรับอย่างอบอุ่น กลายเป็นเกราะป้องกันภัยให้กับประชาชนเหล่านั้น สามารถจัดเวทีชุมนุมต่อเนื่องทั้งที่ศาลาอ่างแก้ว และที่สนามฟุตบอลด้านหน้ามหาวิทยาลัย


 



เหตุการณ์เหล่านี้เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ บ่งบอกถึงจิตวิญญาณและความกล้าหาญทางจริยธรรมของคณะผู้บริหารในแต่ละรุ่น ที่ยึดหลักว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสมบัติส่วนรวมของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ เจตจำนงของการเป็นอิสระทางวิชาการ เทิดทูนหลักปรัชญาของความถูกต้องดีงาม สั่งสมสืบเนื่องกันมา


 


จนเกิดเป็นความเชื่อมั่นว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้นกับระบอบประชาธิปไตยแล้วไซร้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็คือฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายในภาคเหนือ การที่พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือยื่นของใช้สถานที่ เช่าหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย เพื่อจัดเวทีปราศรัยของแกนนำพันธมิตรฯ ก็เพราะเล็งเห็นและเชื่อมั่นว่า จิตวิญญาณและความกล้าหาญทางจริยธรรมที่ลูกช้างแต่ละรุ่นได้สะสมสืบทอดมายังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม แต่ที่สุดก็ได้รับการปฏิเสธ


 


พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวดังนี้


 


1.จากการวิเคราะห์สถานการณ์แวดล้อมที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดแล้ว เห็นว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่มหาวิทยาลัยฯ ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง โดยเปรียบเทียบกับกรณีที่มีประชาชนไปไล่ทำร้าย คณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณหอศิลปะและวัฒนธรรมฯ เมื่อ 31 มีนาคม 2549 หรือเหตุการณ์คนวิกลจริตสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จับตัวนักศึกษาหญิงเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ไม่ได้เป็นเหตุผลที่แท้จริง แต่เป็นแค่การหาข้ออ้างที่ดูสมเหตุสมผลเพื่อที่จะปฏิเสธให้ใช้สถานที่เท่านั้น


 


2.กรณีการไล่ทำร้ายพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเหตุที่ฝ่ายป้องกัน คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับสัญญาณเตือนล่วงหน้า ขาดการตระหนักในภัยร้ายแรงที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้เตรียมการรองรับ ขณะที่เหตุการณ์จับนักศึกษาหญิงเป็นเหตุสุดวิสัยยากป้องกัน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกรณีการขอใช้สถานที่ของพันธมิตรฯ เพราะได้มีป้ายข่มขู่ที่ไม่แสดงที่มาล่วงหน้า และ การแถลงข่าวข่มขู่ของนักการเมืองที่เสียประโยชน์จากการเดินทางมาเปิดเวทีของพันธมิตรฯ เท่านั้น ดังนั้น จึงอยู่ในวิสัยของหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ตำรวจซึ่งมีหน้าที่โดยตรงจะสามารถป้องกันเหตุไว้ได้


 


3.หอประชุมใหญ่ มช. เคยเป็นสถานที่จัดประชุม เอดีบี. เมื่อปี 2547 ในครั้งนั้น มีกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนเดินขบวนจากแยกรินคำเพื่อมาประท้วงด้านหน้า แต่เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมการไว้ดีพอ จึงไม่มีเหตุร้ายใดๆ มีแต่ภาพของการประท้วงและปราศรัยโจมตีด้านหน้ารั้วเท่านั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นที่มิดชิด มีรั้วรอบขอบชิด สามารถป้องกันรักษาความปลอดภัยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวและเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า


 


4.จากเหตุผลข้อ 3. ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำหน้าที่ดูแลความสงบได้อย่างดีเยี่ยมในครั้งนั้น จึงขัดแย้งกับข้ออ้างที่ว่า มช. มีข้อจำกัดในการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินทางราชการและชีวิตของผู้ที่จะเข้าร่วมปราศรัย เพราะถึงแม้ มช. จะมีเจ้าหน้าที่จำกัด แต่ก็ไม่มีหน้าที่ปกป้อง ดูแลความสงบโดยรวมโดยตรง หน้าที่ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองส่วนอื่นรับผิดชอบอยู่แล้ว และยิ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ขนาดที่สื่อมวลชนทุกแขนงรายงานต่อเนื่อง รายการเล่าข่าวทุกช่องนำเสนอโดยละเอียด โดยสามัญสำนึกแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง และหน่วยงานเกี่ยวข้องยิ่งต้องให้ความใส่ใจป้องกันเหตุเป็นพิเศษ


 


5.หาก มช. มีความกังวลในเรื่องปลอดภัยของทรัพย์สินราชการจริง ขอถามว่า ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มคนและนักการเมืองบางเหล่าที่ร่วมกันทำร้ายแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นไปทุบทำลายเก้าอี้และทรัพย์สินของ มช. ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 แล้วหรือไม่ ? เหตุใดจึงไม่ดำเนินการทั้งๆ ที่มีทรัพย์สินของ มช.เสียหาย และมีหลักฐานเป็นเทปบันทึกภาพจากสื่อหลายแขนง หากไม่แจ้งความ เป็นเพราะ มช. เกรงใจต่อ นักการเมืองบางกลุ่ม หรือ พรรคการเมืองบางพรรคเป็นพิเศษหรือไม่ ? และความเกรงใจดังกล่าวจึงมีผลต่อการตัดสินใจของ มช. ที่ปฏิเสธการให้เช่าสถานที่โดยใช้เหตุผลหวั่นเกรงอันตรายหรือไม่ ?


 


พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ รู้สึกผิดหวัง และไม่สบายใจกับเหตุผลของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในเรื่องนี้ และหวังว่า คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะทบทวนมติ และคำนึงถึงจิตวิญญาณเสรี รักความถูกต้องเป็นธรรมเป็นหลัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในโอกาสอันใกล้ พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ จะได้ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่างใกล้ชิดสืบไป


       


ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ที่ยืนบนหลักเสรีภาพของประชาชน


พันธมิตรประชาชนเพื่อปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ


 


000


 


พันธมิตรฯ เหนือ ย้ำผิดหวังมหาวิทยาลัยไม่แสดงจุดยืน


นอกจากนี้ ในวันนี้ (16 ก.ย.) นายชัยพันธุ์ ประภาสวัต ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิชุมชน 1 ใน 8 แกนนำพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการเมืองภาคเหนือ ซึ่งเคยถูกกลุ่มคนรักทักษิณแจกใบปลิวโจมตี กล่าวว่า เรื่องที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะไม่อนุญาตให้พันธมิตรใช้สถานที่นั้น ไม่ได้ผิดความคาดหมาย แต่ผิดหวังที่มหาวิทยาลัยไม่กล้าพอที่จะแสดงจุดยืนของตัวเองและอธิการบดีก็ไม่กล้าตัดสินใจ แต่เวลาให้มีการเช่าพื้นที่ค้าขายทำกิจกรรมที่ไม่ประเทืองปัญญาก็ให้เขาทำเยอะแยะ แม้พันธมิตรฯ ทำกิจกรรมทางการเมืองก็จริงแต่มหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมทุกด้าน และวันที่พันธมิตรจะติดต่อเช่าดังกล่าวก็เห็นอยู่ว่าสถานที่ว่าง


 


โดยเสียดายที่มีมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้ให้ชุมชนที่ต้องการใช้ได้ใช้ ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่ได้มาจากกรุงเทพฯ เท่านั้น ในเชียงใหม่ก็มีพันธมิตรฯ ที่อยู่ในเมือง คนที่เสียภาษี รวมทั้งอาจารย์ นักศึกษา ไม่มีโอกาสได้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่มหาวิทยาลัยไม่มีความกล้า


 


ในเรื่องที่มหาวิทยาลัยเป็นห่วงความปลอดภัยนั้น เห็นว่าไม่ใช่เรื่องของมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมาดูแล มหาวิทยาลัยจะจัดหรือจะไม่จัดอะไรความปลอดภัยก็ใช่ว่าจะมีอยู่ นักศึกษาโดนขโมยรถ มหาวิทยาลัยก็ไม่มีปัญญาไปดูแลทั่วถึง รวมทั้งตัวอธิการบดีท่านอาจต้องดูแลตัวเองด้วยซ้ำไป เพียงถ้าท่านไม่ถูกกับรัฐบาล ท่านก็อาจถูกข่มขู่คุกคามได้เหมือนกัน นายชัยพันธุ์กล่าวในที่สุด.


 


ข่าวประกอบย้อนหลัง


พันธมิตรฯ วืดจัดเวทีที่ มช. คณบดีนิติฯ มช. บอก "จัดแล้วตีกันสังคมไม่ได้เรียนรู้" 15/9/2549

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net