หาดใหญ่ - เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 กันยายน 2549 ที่โรงแรมเซนทรัล โนโวเทล สุคนธา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พล.ท.ไวพจน์ ศรีนวล ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) พร้อมด้วยนายประกิจ ประจนปัจจนึก รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดแถลงข่าวโครงการสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดชุมนุมประชาชนผู้ต้องการเข้าร่วมแก้ไขปัญหาโดยสันติ

พล.ท.ไวพจน์ แถลงว่า เวลา 10.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2549 ที่มัสยิดกลางจังหวัดยะลา จะมีการชุมนุมของประชาชนจำนวนกว่า 6,000 คน ในจำนวนนี้เป็นอดีตแนวร่วมหรือผู้สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 3,000 คน เฉพาะที่เคยหลบหนีไปอยู่ประเทศมาเลเซียมี 500 คน แต่ไม่ใช่กลุ่มชาวบ้านที่อพยพเข้ามาเลเซีย 131 คน เมื่อปลายปี 2548

พล.ท.ไวพจน์ แถลงอีกว่า โครงการนี้เกิดจากประชาชนในพื้นที่ 30 - 40 คน ที่มีแนวคิดชัดเจนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง ตนได้คุยกับบุคคลเหล่านี้จนตกลงกันได้ว่า จะร่วมกันแก้ปัญหาอย่างสันติ โครงการนี้จึงเริ่ม มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2549 มีจุดประสงเพื่อต้องการสื่อไปยังหมู่บ้านที่รัฐยังเข้าไปไม่ถึง ให้ชาวบ้านเห็นว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาอย่างสันติ และยังต้องการสื่อไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศมุสลิม

"เราได้แยกประชาชนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ กลุ่มที่ก่อความรุนแรง ซึ่งมีจำนวนน้อยและมีหลายพวก กลุ่มที่สอง คือ ประชาชนส่วนใหญ่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง แต่เสี่ยงที่จะตกเป็นเครื่องมือของความรุนแรง โครงการนี้จึงเน้นไปยังกลุ่มที่สอง โดยหวังว่าจะเป็นการยุติความรุนแรงได้ในทางอ้อม และเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว" พล.ท.ไวพจน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า จะมีการเปิดตัวแกนนำ 30 - 40 คนหรือไม่

พล.ท.ไวพจน์ กล่าวว่า ถ้าหากแกนนำ 30 - 40 คนนี้ เห็นว่าเปิดตัวแล้วเป็นประโยชน์ คนกลุ่มนี้อาจจะเปิดตัวก็ได้ เพราะทุกคนไม่มีคดีติดตัว ช่วงที่ผ่านมาตนก็กังวลอยู่เหมือนกัน เนื่องจากคนกลุ่มนี้เป็นถูกผลักให้เข้าไปอยู่ในท่ามกลางความรุนแรง จากโครงสร้างที่ไม่ชอบธรรม เช่น โครงสร้างทางการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น

ส่วนกรณีที่พล.ท.องค์กร ทองประสงค์ แม่ทัพภาคที่ 4 ไม่เห็นด้วยกับการจัดชุมนุมในวันที่ 16 กันยายน 2549 นั้น พล.ท.ไวพจน์ กล่าวว่า

ตนจะไม่ขอพูดถึงความเห็นของผู้อื่น แต่ขอขอบคุณในความหวังดีของพล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาคที่ 4 ที่แสดงความเป็นห่วงในการจัดชุมนุมครั้งนี้ สำหรับผู้เข้าร่วมชุมนุม ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดยะลา โดยมาจากอำเภอบันนังสตามากที่สุด ทั้งนี้ ในการชุมนุมจะมีการละหมาดฮายัต เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้ประทานความสงบสุขให้กับพื้นที่ด้วย

นายประกิจ กล่าวว่า กรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบประกาศห้ามคนนับถือศาสนาพุทธเข้าพื้นที่นั้น เป็นวิธีการที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนใช้มาตลอด ในอดีตมีการปล้นรถเมล์ที่ขับผ่านอำเภอธารโต จังหวัดยะลา แล้วยิงคนนับถือศาสนาพุทธ วิธีการนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ จึงเลิกใช้ไป ปัจจุบันกลุ่มก่อความไม่สงบได้ใช้ยุทธวิธีแยกคนแบบนี้อีก เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในพื้นที่