Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 20 ก.ย. 2549 ทีมข่าวประชาไทภาคเหนือ ออกสำรวจบรรยากาศที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังเหตุการณ์คณะปฏิรูปฯ ยึดอำนาจ ทำการรัฐประหาร โดยชาวบ้านและข้าราชการ ยังคงไม่กล้าเปิดเผยตัวในการแสดงความเห็น เนื่องจากยังไม่ไว้ใจใน "เสรีภาพ" ในการออกความเห็น ว่าจะมีได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ทีมข่าวประชาไท จึงนำข้อมูลมานำเสนอได้เพียงกรอบที่แหล่งข่าวอนุญาตเท่านั้น!


 


เคลื่อนพลตรึงกำลังเขตยุทธศาสตร์ทั่วเชียงใหม่                                                              รายงานในพื้นที่ พบว่า กำลังพลทหารจากกองพลพิเศษที่ 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และกรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ ได้นำกำลังทหารพร้อมรถสายพานลำเลียงพลกว่า 15 คัน ประจำตามจุดยุทธศาสตร์ทั่วเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะถนนสายสำคัญที่จะมุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงใหม่ หลังเกิดการยึดอำนาจการปกครองของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่บ้านพัก พตท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทหารได้สกัดกั้นไม่ให้มีใครเข้าออกบ้านพักนายกรัฐมนตรี




ผู้ว่าฯ ชม.พร้อมหัวหน้าส่วนราชการเข้าแถวรายงานตัวต่อ มทบ.33                                     ขณะที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จังหวัดเชียงใหม่ ข้าราชการของจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ทยอยเข้ารายงานตัวตามประกาศของคณะปฏิรูปฯ โดยมีบุคคลสำคัญ ได้แก่ นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกะสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น




โดยนายทหารได้มีการแจกจ่ายคำกล่าวของ พลโทจิระเดช คชรัตน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 รองผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 ชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะขอให้ทุกส่วนราชการที่มีที่ตั้งอยู่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ให้ความร่วมมือกับกองทัพภาคที่ 3 ในการรักษาความสงบเรียบร้อย การจัดระเบียบพื้นที่เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองฯ และควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาวะปกติโดยเร็วที่สุด


โดยเฉพาะห้ามเคลื่อนย้ายกำลังตนในสังกัด หรือจัดให้มีการชุมนุมอันก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยโดยเด็ดขาด ตลอดจนเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินของทางราชการ และความปลอดภัยในสถานที่สาธารณะอีกครั้ง รวมทั้งขอให้ชี้แจงประชาชนและผู้ใต้บังคับบัญชาทราบถึงความจำเป็นของคณะปฏิรูปฯ ที่จะเป็นต้องเสียสละกระทำเพื่อรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบเรียบร้อยของประชาชนในชาติ




ผู้ว่าฯ ชม.-นายกเทศบาลฯ ปิดปากเงียบ                                                                              ทั้งนี้ ที่ด้านบนอาคารมณฑลทหารบกที่ 33 พลตรีศุภอักษร สังประกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้ประชุมร่วมกับนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกำชับถึงแนวทางปฏิบัติอยู่ ซึ่งภายหลังการประชุม นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์


ผบ.มณฑลทหารบกที่ 33 ย้ำสื่อเหนือเสนอข่าวเน้นความสามัคคี                                           และเมื่อเวลา 11.00 น.(20 ก.ย.2549) ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พลตรีศุภอักษร สังประกุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ และสื่อมวลชนของภาคเหนือ ขอความร่วมมือวิทยุและโทรทัศน์ในเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นของการปฏิรูปการปกครองครั้งนี้


โดยขอให้ติดตามสถานการณ์ประกาศของคณะปฏิรูปฯ อย่างใกล้ชิด และถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับทราบทันที ทั้งนี้ การให้ข่าวกับประชาชนขอให้อยู่บนพื้นฐานของความรัก ความสามัคคี ความจริงใจและความเป็นพี่น้องร่วมชาติ และหลีกเลี่ยงการจัดรายการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองในระยะนี้


แจงสาเหตุต้องปิดวิทยุชุมชน                                                                                              ในขณะ พันเอกอรรถพร เป้าประจักษ์ ผู้บังคับการกองพลพิเศษที่ 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า มีความจำเป็นต้องขอระงับการจัดรายการแสดงความคิดเห็นโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งไปสักระยะ เนื่องจากจะนำไปสู่ความแตกแยกได้ ซึ่งพบว่าได้มีวิทยุชุมชนหลายสถานีได้เปิดสายให้แสดงความคิดเห็นอยู่ ซึ่งจะได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดให้ปิดสถานีวิทยุชุมชนเป็นการชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง


ชาวบ้านรากหญ้า พอใจที่เหตุการณ์สงบ ส่วน อบต. หงอย                                        ทั้งนี้ ทีมข่าวประชาไท ได้สัมภาษณ์ความเห็นของกลุ่มชาวบ้านรากหญ้า ทั้งแม่ค้าในตลาดเมืองใหม่ (ใกล้สถานกงสุลอเมริกัน) ,คนขับรถรับจ้าง,และธุรกิจยิบย่อยของคนรากหญ้า ได้ความเห็นว่า ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิด แต่คิดว่าคงสงบเพราะไม่มีความรุนแรงใดๆ


สมาชิก อบต. ท่านหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวประชาไท ถึงเรื่องอนาคตของการเมืองท้องถิ่นต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณต่างๆ ว่าจะเป็นอย่างไร จะมีความชะงักงันหรือไม่


 


 


 


ชนชั้นกลางเฮ "ทักษิณ ลงแล้ว"


ความเห็นของกลุ่มพ่อค้า พนักงานบริษัท และข้าราชการที่ไปจับกลุ่มคุยกัน และหาซื้อหนังสือพิมพ์จากร้านสุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ ถนนศรีดอนไชย ส่วนใหญ่มีความรู้สึกยินดีที่เหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี และก็พร้อมที่จะกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อไปในวันพรุ่งนี้ และวันนี้ถือว่าเป็นปรากฎการณ์สำคัญของคนเชียงใหม่กับการบริโภคหนังสือพิมพ์ครั้งหนึ่ง เมื่อหนังสือพิมพ์ทั่วเชียงใหม่ขาดตลาด!


 



 


 


ทหารและรถถังคุมสถานการณ์ในสถานที่สำคัญ


ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 (ป.พัน 7) ได้นำรถถังออกมาคุมสถานการณ์ในสถานที่สำคัญทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำการเทศบาลนครเชียงใหม่ , สถานกงสุลอเมริกัน , ศุนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีทหารคอยคุมเชิงตามถนนสายสำคัญสองข้างทางเป็นระยะๆ


 



 



ทหารเข้าตรึงพื้นที่บริเวณสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ ประจำจังหวัดเชียงใหม่


 



 



ศูนย์ราชการประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่นานๆทีจะเงียบเหงา


 


นักเดินทางหวั่น ไม่กล้าบิน


ส่วนที่ท่าอากาศยานนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ทหารคุมเข้ม และไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินใดๆ ทั้งสิ้น แต่จากการสัมภาษณ์แหล่งข่าว พบว่าบรรยากาศตลอดทั้งวัน ยังมีความอึมครึม และแทบที่จะไม่มีคนใช้บริการทางการบิน


 


ธุรกิจผลประโยชน์ทักษิณถูกคุมเข้ม


ถึงแม้ว่าคำสั่งของคณะปฏิรูปฯ จะไม่บังคับให้ภาคธุรกิจต่างๆ ปิดทำการ และไม่เข้าไปควบคุม แต่ในส่วนของศูนย์ AIS ภาคเหนือ ถนนท่าแพ ปรากฎว่ามีทหารคุมเชิงอยู่ตลอดทั้งวัน และจากการสอบถามแหล่งข่าวในละแวก พบว่าวันนี้พนักงานของ AIS ไม่มาทำงานและปิดให้บริการตลอดทั้งวัน


 



 


 


 


 



 


บ้านพักทักษิณ ทหารคุมทางเข้าออก


ที่หมู่บ้าน Green Valley อันเป็นที่ตั้งของบ้านพักอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทหารตรึงกำลังและควบคุมการเข้าออกอย่างเข้มงวด


 


.... ทั้งนี้ทีมข่าวประชาไทจะเกาะติดสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ และรายงานออกไปเป็นระยะๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net