Skip to main content
sharethis

7 ต.ค. 2549 นางพิศจุไร ปานทิพย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง กล่าวว่า ฝนที่ตกปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกติดต่อกันนานกว่าสัปดาห์ ส่งผลให้จังหวัดระยองมีปริมาณน้ำสะสมในหลายพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะในที่ราบลุ่มติดริมแม่น้ำหลายแห่ง มีน้ำเอ่อล้นพร้อมที่จะท่วมสูง เช่น ต.ทุ่งควายกิน ต.น้ำเป็น ต.บ้านนา อ.แกลง ซึ่งขณะนี้ มีปริมาณน้ำเอ่อล้นขอบถนนหลายสาย ส่วนถนนใน อ.วังจันทร์ เช่น ถนนสาย 344 ชลบุรี - แกลง เกิดน้ำท่วมแล้วหลายช่วง การจราจรผ่านไปด้วยความยากลำบาก


 



นางพิศจุไร กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในการรับมือน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้ทันท่วงที ขณะนี้จังหวัดระยอง ได้ประกาศให้ทุกพื้นที่ของจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว โดยเตรียมเรือท้องแบน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ และทหารจากกองเรือภาคที่ 1 ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 18 นาย เฝ้าระวังตามจุดที่คาดว่า น่าจะมีน้ำท่วมสูงในค่ำคืนนี้ และเตรียมกำลังทหารเรือสำรองไว้อีก 200 นายพร้อมออกช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีที่เกิดอุทกภัย


 



จันทบุรีก็ประกาศเขตภัยพิบัติด้วย


นายพนัส แก้วลาย ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ เสมะกนิษฐ์ นายชวลิต ธูปตาก้อง รองผู้ว่าราชการ จังหวัดจันทบุรี นายจักรเพชร จิตงามสุจริต นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองจันทบุรี นายสมพล คุ้มพ่วงดี หัวหน้าสถานีตรวจอากาศจังหวัด พล.ต.ต.ณรงค์ ศิวาพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจ ภูธร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาสารณภัยจังหวัดจันทบุรี คณะผู้บริหารราชการจังหวัดพัฒนาในเชิงบูรณาการ


 



แถลงสถานการณ์จากกรณีที่มีฝนตกหนักใน 6 อำเภอของจังหวัดจันทบุรี ในเช้าวันนี้ว่า ขณะนี้ไม่มีประชาชนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการที่เกิดสภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนหนาแน่นและเอ่อท่วมขัง ซึ่งตลอดเช้าวันนี้ยังมีแนวโน้มของระดับเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากฝนตกแต่ละพื้นที่กว่า 200 มิลลิเมตรขึ้นไป และสร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก


 



ด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยทางจังหวัดได้แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและสนับสนุนอาหารน้ำดื่มและเวชภัณฑ์ให้แก่ประชาชนที่ประสบภัย พร้อมจัดยานพาหนะสนับสนุนการเคลื่อนย้ายให้แก่ประชาชน ด้านเส้นทางการคมนาคมสายหลักนอกเมืองยังคงใช้การได้ ถนนสายสุขุมวิทสามารถใช้เดินทางได้ตลอดสาย และยังเดินทางต่อไปยังจังหวัดตราด,ระยอง และสระแก้วได้ตามปกติ ขณะนี้ เพิ่มกำลังการสูบน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในที่ลุ่มให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากไม่มีฝนตกเติมลงมาจะสามารถคลี่คลายและบรรเทาภัยพิบัติครั้งนี้ได้ภายใน 3-4 วัน


 



ด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีได้กวดขันป้องกันอาชญากรรมและอุบัติเหตุ รวมทั้ง โรคภัยไข้เจ็บที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ และจังหวัดจันทบุรีจะปรับกลยุทธ์เพื่อฟื้นฟูสภาพและความเสียหายอย่างเร่งด่วน ด้วยศักยภาพและงบประมาณที่ทางราชการกำหนดไว้อย่างเต็มที่


 



ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ยังได้กล่าวแสดงความห่วงใยด้านสุขภาพของประชาชน โดยขอความร่วมมือให้ผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลืออาหารแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนปรุงอาหารให้สุกและสะอาด รวมทั้ง น้ำดื่มด้วย ซึ่งได้กำชับให้องค์กรการกุศลและผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือต้องดูแลเป็นพิเศษ พร้อมกำหนดการเตือนภัยด้วยการใช้การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงในทุกช่องทางด้วย


 



ผบ.สส.ตรวจพื้นที่น้ำท่วม กทม.


พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะผู้บริหาร กทม. ลงพื้นที่บริเวณเคหะฉลองกรุง และวัดลำต้อยติ่ง เพื่อตรวจสอบความเสียหายในบริเวณดังกล่าว ซึ่งถูกน้ำท่วมขังมาหลายสัปดาห์แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำกว่าบริเวณอื่นในเขตหนองจอก และขณะนี้การระบายน้ำทำได้ยาก เพราะระดับน้ำในคลองหลวงแพ่ง อยู่สูงเกินจุดวิกฤติแล้ว


 



พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารยินดีให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะจัดส่งหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด มาให้ความช่วยเหลือ ทั้งในด้านอุปกรณ์เครื่องมือ และกำลังพล ทั้งนี้ รู้สึกพอใจในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ กทม.ดำเนินการ ถ้าฝนไม่ตกลงมาอีก คาดว่าปัญหาจะคลี่คลายได้โดยเร็ว และในวันอาทิตย์นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในชุมชนวัดลำต้อยติ่ง เพื่อพระราชทานถุงยังชีพให้ราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย


 



นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม. กล่าวว่า จากวันนี้จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม จะต้องออกตรวจดูระดับน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทุกวัน ซึ่งเมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสูงมากเกิน 2 เมตร เป็นครั้งแรก


 


....................................................... 



ที่มา: เว็บไซต์คมชัดลึก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net