ประชาไท—13 ต.ค. 2549 วานนี้ (12 ต.ค.) คณะทูตานุทูตอาเซียน 9 ประเทศ และคณะทูตานุทูตกลุ่มทวีปเอเชีย-แอฟริกา 23 ประเทศ ได้เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และนายนิตย์ พิบูลย์สงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยพล.อ.สุรยุทธ์ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา และได้ชี้แจงถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาลต่อไป พร้อมทั้งยืนยันกับคณะทูตนานาชาติว่ารัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาทำงานชั่วคราวและจะคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนในเดือนตุลาคมปี 2007

ภายหลังจากการเข้าพบและเจรจาสิ้นสุด นาย ลาร์ส แบล็ตสตรอม ทูตจากฟินแลนด์ตัวแทนของสหภาพยุโรประบุว่าทางชาติสมาชิกของอียูรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีความชัดเจน และสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการกำหนดเวลาในการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยที่สหภาพยุโรปไม่อยากให้รัฐบาลไทยเลื่อนการยกเลืกกฎอัยการศึกออกไป นอกจากนี้ทูตจากฟินแลนด์ยังกล่าวด้วยว่าทางสมาชิกอียูมองว่าการใช้เวลา 1 ปีถือว่านานพอสมควร และทางอียูต้องการให้ประเทศไทยคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว

ด้าน ฮิเดอากิ โคบายาชิ ทูตจากญี่ปุ่นกล่าวว่าจะไม่กดดัน พล.อ.สุรยุทธ์ ในการยกเลิกกฎอัยการศึก แต่ระบุว่าการยกเลิกกฎอัยการศึกสามารถสร้างภาพพจน์ที่ดีของประเทศไทย

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าชาติตะวันตก อาทิ แคนาดา ออสเตรีเลีย และสหรัฐอเมริกา แสดงความกังวลเกี่ยวกับกฎอัยการศึกและข้อจำกัดของพลเรือน สำหรับท่าทีของประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น โฆษกประจำทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้แสดงท่าทีสนับสนุนรัฐบาลใหม่และชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงในไทยนั้นเป็นเรื่องภายในประเทศ

สำหรับท่าทีของทูตจีนก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศอาเซียน โดยทูตจีนได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีเป็นการส่วนตัวและได้แสดงความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดปัจจุบันพร้อมทั้งระบุว่าจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย