14 ต.ค. 2549 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร 5 องค์กรหลักของศธ.ว่า ได้นำกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) มาหารือ เพราะทั้ง 2 กองทุนมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการและได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไม่เพียงพอ จึงให้ ศธ.ประสานกับกระทรวงการคลัง ขอให้สนับสนุนงบประมาณให้กองทุน กรอ. เพื่อให้เพียงพอสำหรับปล่อยกู้นักศึกษาที่ต้องการขอกู้เงินทั้งหมด

นอกจากนี้ ได้เสนอให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของ 2 กองทุน โดยเสนอให้รวมทั้ง 2 กองทุนมาเป็นกองทุนเดียวกันซึ่งจะสะดวกต่อผู้กู้มากกว่า ขณะนี้แต่ละกองทุน มีเงื่อนไขการกู้เงินและดอกเบี้ยต่างๆ กัน ควรจะรวมเป็นกองทุนเดียวกันแล้วประกาศใช้เงื่อนไขการกู้เงินและอัตราดอกเบี้ยเดียวกันจะสามารถลดภาระของนักศึกษาที่ต้องการกู้เงินตั้งแต่ระดับ ม.ปลาย ถึงปริญญาตรี ทำสัญญาทีเดียว และผ่อนชำระคืนทีเดียวหลังจบการศึกษา เพราะฉะนั้น ตนจึงให้ไปศึกษาข้อดีของทั้ง 2 กองทุนมา เพื่อใช้สำหรับการหลอมรวม 2 กองทุนเข้าด้วยกัน

ทั้งนี้ หากผู้กู้เงินค่าเล่าเรียนต้องกู้กับกองทุนหนึ่งด้วยดอกเบี้ยอัตราหนึ่ง และต้องไปกู้เงินเพื่อเป็นค่าครองชีพกับอีกกองทุนหนึ่งและอัตราดอกเบี้ยอีกแบบหนึ่ง เมื่อจะผ่อนชำระเงินกู้คืนกองทุนที่ให้กู้เพื่อค่าเล่าเรียนให้ผ่อนชำระเมื่อมีรายได้ โดยให้ไปเสียเงินที่กรมสรรพากร ส่วนอีกกองทุนหนึ่งบอกว่าเมื่อเรียนจบแล้วให้เวลา 2 ปีแล้วให้มาใช้ทุนคืนทันที

"ผมคิดว่าการดำเนินการดังกล่าวหากเรามองในแง่ของผู้ที่ขอกู้เงิน โดยที่ไม่มองจากผู้ที่ให้กู้เงินก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพอสมควร แต่หากเราทำให้ 2 กองทุนรวมเป็นกองทุนเดียวกัน และนำวิธีการที่ดีของแต่ละกองทุนมารวมกันทำให้ผู้กู้สามารถกู้เงินจากแหล่งเดียวกัน ด้วยหลักการเดียวกัน เสียดอกเบี้ยระดับเดียวกัน และไม่ต้องเซ็นสัญญาหลายครั้ง เรื่องดังกล่าวก็จะสร้างความสะดวกและง่ายต่อการกู้เงินซึ่งถือว่าเป็นผลดีกับตัวผู้กู้เอง" รมว.ศธ. กล่าว

……………………………….

ที่มา: http://www.komchadluek.net