ชายแดนใต้ - เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2549 พล.อ.
พล.อ.
พล.อ.
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาความไม่สงบที่จะให้ครอบคลุมจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูลด้วยนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ได้หารือกับทุกภาคส่วนแล้วเห็นว่า จังหวัดสตูลถือเป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ แต่จะไม่ใช้อำนาจทางทหารเข้าไปแก้ไขปัญหา
"สุรยุทธ์" ถกผู้นำมาเลย์หาทางดับไฟใต้
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2549 ร.อ.นพ.
การเยือนมาเลเซียครั้งนี้ เป็นการเดินทางชี้แจงสถานการณ์ภายในของประเทศไทย รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย จากนั้นจะเดินกลับถึงประเทศไทยเวลา 21.00 น. วันเดียวกัน
"หมอแว"แนะตั้งศาลชารีอะห์-เขตปกครองพิเศษ
นายแพทย์
นายแพทย์
นายแพทย์แวมาฮาดี ยังต้องการให้เร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
ต่อคำถามที่ว่าการเปิดเจราจากับผู้ก่อความไม่สงบจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายแพทย์แวมาฮาดี กล่าวว่า ต้องการทำความเข้าใจว่า คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยินยอมที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาล กลุ่มที่ต่อมา คือ กลุ่มที่ไม่ยอม ใครจะมาแก้ไขปัญหาอย่างไรก็จะไม่ยอมและพร้อมที่จะสู้ต่อไป กลุ่มสุดท้าย คือคนกลุ่มใหญ่ เป็นกลุ่มที่คิดว่า จะดำเนินชีวิตอย่างไรให้อยู่อย่างเป็นสุข ดังนั้นวันนี้ ประชาชนจะไม่คำนึงถึงอะไร นอกจากความปลอดภัย
"สิ่งที่อยากให้พิจารณาคือ การเจรจากับกลุ่มที่มีปัญหาหรือไม่ หากใช่ ก็จะหาทางลงได้ แต่ถ้าเป็นคนละกลุ่ม ก็จะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เช่นเดียวกับการเชิญอิหม่ามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุไปสัมมนา มันก็ไปคนละทาง" นายแพทย์แวมาฮาดี กล่าว
สภาอุตฯถกตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ3จังหวัด
นาย
โดยส.อ.ท.จะเสนอขอความช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.การลดหย่อนเบี้ยประกันวินาศภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ซึ่งขณะนี้มีการปรับค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้น 3.การแก้ไขปัญหาแรงงานที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหรกรมอาหารสิ่งทอ ที่ขาดแคลนแรงงานจนมีการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดระบบก่อนที่จะรับเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงเสนอแผนพัฒนาโลจิสติกส์ของภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
เตือนป่วนใต้ครั้งใหญ่ปลายเดือนถือศีลอด
หน่วยข่าวความมั่นคงจากกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระวังการโจมตีของแนวร่วมกลุ่มอาร์เคเค และกลุ่มเปอร์มูดอครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 16-20 ตุลาคม 2549 โดยกลุ่มนี้ไม่เห็นด้วยกับการเจรจาเพื่อยุติการก่อการร้ายระหว่างตัวแทนของกองทัพบกกับตัวแทนกลุ่มพูโลเก่า พูโลใหม่ และมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเชียเป็นประธาน
ดังนั้นนาย
นอกจากนี้ มีการรายงานว่าหน่วยนักรบของขบวนการได้เคลื่อนไหวแล้วในพื้นที่ จังหวัดยะลา และนราธิวาส อย่างคึกคัก รวมทั้งใน 3 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยตรวจพบว่ามีกำลังของอาร์เคเค 10 คนเข้ามาหลบซ้อนอยู่ในบ้านเกาะเลหนัง ตำบลบางปาก อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยมีแกนนำระดับผู้นำท้องถิ่นเป็นผู้ให้ที่พักพิงเพื่อเตรียมการก่อเหตุร้ายในช่วงระหว่างวันดังกล่าว
วันเดียวยิงดับ 5 ราย
ส่วนเหตุไม่สงบเกิดขึ้นต่อเนื่อง เริ่มจากเวลา 07.10 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงนาง
เวลา 08.20 น. เกิดเหตุคนร้ายนาย
เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายยิงนายวีรชาติ แซ่หว่อง อายุ 30 ปี อดีต อาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ภายในสวนยาง บ้านจาเราะปีแซคละ หมู่ที่ 8 ตำบลตลิ่งชั่น อำเภอบันนังสตา ตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการก่อความไม่สงบ รวมคนร้ายก่อเหตุในอำเภอบันนังสตา 3 จุด มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส คนร้ายใช้เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ยิงถล่มสถานีอนามัยบ้านไม้ฝาด หมู่ที่ 8 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง แล้วก่อนจะหลบหนีไป โดยโปรยตะปูเรือใบเพื่อสกัดกั้นการติดตามด้วย สาเหตุสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการยิงถล่มตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ที่กำลังตั้งด่านตรวจแต่พลาดเป้า
เวลา 10.20 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายยิงนาย
เรียบเรียงจาก : ผู้จัดการออนไลน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)