แกนนำโปแตชขึ้นศาลนัดแรก

18 ต.ค.49 - ที่ศาลจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 49 เวลา14.45 น. ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีหมายดำที่ 1385 / 2549 กรณีที่ 5 แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ซึ่งประกอบด้วย นางละเอียด อ่อนสะอาด , นายบัณฑิต อ่อนสะอาด , นายบุญเลิศ เหล็กเขียว , นายปัญญา คำลาภ และนางสาวเนาวรัตน์ ดาวเรือง ถูกบริษัท เอเชีย แปซิกฟิก โปแตช คอปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) แจ้งความดำเนินคดีในข้อกล่าวหาร่วมกันบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์

 

ในเวลาต่อมาบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดต่อจาก เอพีพีซี เพื่อดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี จึงรับช่วงคดีความต่อจาก เอพีพีซี ไปด้วย ทั้งนี้ ตัวแทนบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ได้เดินทางมาแถลงต่อศาลแล้วเมื่อ วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ติดใจเอาความ ที่จะดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ฯ ทั้ง 5 คน

 

สำหรับบรรยากาศในวันพิจารณาคดีนัดแรกมีชาวบ้านสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมาร่วมให้กำลังใจเหมือนเช่นการรวมตัวต่อต้านเหมืองโปแตชทุกครั้งที่ผ่านมา และมีส่วนหนึ่งเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดี โดยจำเลยทั้ง 5 ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธ พร้อมทั้งแถลงขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ในการนี้ทนายจำเลยได้เสนอรายชื่อพยานต่อศาลเพื่อประสงค์จะนำพยานบุคลเข้าเบิกความรวมทั้งสิ้น 38 ปาก ซึ่งจะมีการนัดสืบพยานกันในเดือนพ.ย. ปีหน้า

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น ณ ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นบริเวณอยู่ติดกันกับศาลจังหวัดได้เกิดการชุลมุนชั่วขณะเนื่องจากว่ามีชาวบ้านส่วนหนึ่งได้พบเห็นเจ้าหน้าที่บริษัท อิตาเลี่ยนไทย นำโดยนางสาวประพิมพรรณ สุดชูเกียรติ ผู้จัดการฝ่ายมวลชนสัมพันธ์ จึงได้ตามกันไปขับไล่จนเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ต้องหลบหนีออกไป

 

โดยนางสาวเนาวรัตน์ ดาวเรือง หนึ่งในจำเลยทั้งห้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สร้างภาพมาโดยตลอดเพื่อแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่าเป็นแม่พระมาโปรดไม่ติดใจเอาความกับชาวบ้าน อยากเริ่มต้นใหม่สร้างความสมานฉันท์ แต่บริษัทไม่เคยมีความจริงใจที่จะดำเนินการถอนแจ้งความในชั้นของพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ กลับปล่อยให้ดำเนินมาถึงชั้นศาลแล้วมีเพียงการจัดฉากแถลงว่าไม่ติดใจเอาความ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เพื่อแสดงว่าชาวบ้านได้กระทำผิดจริงแต่บริษัทฯ ใจดีไม่เอาเรื่อง ซึ่งมันไม่ใช่เพราะเราไม่ได้ทำผิด จะให้เรายอมรับกับการแถลงของบริษัทฯได้อย่างไร ซึ่งมาถึงวันนี้เราก็พร้อมที่จะสู้คดีเพื่อให้สาธารณะชนได้รับรู้ว่าชาวบ้านลุกขึ้นมาต่อสู้โครงการฯ ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อปกป้องชุมชนของตนเองนั้น คือความถูกต้องเป็นธรรมอย่างแท้จริง นางสาวเนาวรัตน์กล่าว

 

ด้านว่าที่ ร.ต. ดุสิต พรหมสิทธิ์ ทนายของจำเลยทั้งห้า กล่าวว่า คดีความนั้นสามารถถอนฟ้องได้ถ้าหากว่าบริษัทฯ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด มีความจริงใจที่จะดำเนินการ ซึ่งก็มีคดีตัวอย่างมากมายที่เป็นบรรทัดฐานของการถอนฟ้องมาแล้ว อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อศาลมีคำสั่งฟ้องในส่วนของทนายก็จะต้องดำเนินการตามหน้าที่ ในการเตรียมพยานโดยจะมีการนัดสืบในเดือนพ.ย.ปีหน้า ซึ่งมีเวลาอีกนานที่จะต้องเตรียมการต่อไป

 

ที่มา :สำนักข่าวประชาธรรมอุดรธานี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท