ประชาไท - 20 ต.ค.2549   นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร นายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากรายงานสถานการณ์เอดส์ในประเทศไทยพบว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2527 ถึง 31 สิงหาคมปีนี้ กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 15 - 29 ปี มีการติดเชื้อจนป่วยเป็นเอดส์ถึง 101,724 คน คิดเป็นร้อยละ 34 ของผู้ป่วยทั้งหมด และจากผลการวิจัยล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ได้พบข้อมูลที่เป็นสัญญาณว่าโรคเอดส์อาจกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีก

โดยพบว่าเยาวชนไทยกว่าร้อยละ 40 มีเพศสัมพันธ์แบบฉาบฉวยคือ เยาวชนชายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่เป็นเพียงแค่คนรู้จัก และใช้ถุงยางอนามัยป้องกันเพียงร้อยละ 35 เท่านั้น อีกร้อยละ 65 อยู่ในความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากคู่นอนสูงมาก หากประมาณจากเยาวชนไทยอายุ 15 - 19 ปี ซึ่งมีจำนวน 5 ล้านคน สามารถคาดได้ว่ามีเยาวชน 1 ล้าน 3 แสนคน ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทำให้สังคมไทยตกอยู่ในภาวะที่เชื้อเอดส์อาจจะระบาดเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้

ขณะเดียวกัน ยังมีสัญญาณจากตัวเลขการติดเชื้อโรคหนองในและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกันพบว่าเพิ่มมากขึ้นเช่นกันจากเดิมปี 2546 มีเพียง 10,934 ราย เพิ่มเป็น 12,235 ราย ในปีที่แล้วโดยผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกือบครึ่งเป็นเยาวชน

จากการประเมินสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบันพบว่า เด็กและเยาวชนขาดความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ผู้ปกครองไม่มีเวลาให้กับลูก เด็กใช้ชีวิตยามว่างตามห้างสรรพสินค้า เกิดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แชตกันทางอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ที่เร็วขึ้น และขาดความรับผิดชอบทางเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนั้นล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยต่อการติดเชื้อเอดส์มากขึ้นในกลุ่มเยาวชน นิสิต นักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตเมืองทำให้วัยรุ่นเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์อย่างน่าเป็นห่วง