21 ต.ค. 2549 นาง
รวมทั้งนาง
นายสมชาย กล่าวสรุปข้อเรียกร้องว่า ผู้แถลงทั้งหมดล้วนเป็นญาติในคดีพิเศษที่ค้างอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงเรียกร้องให้รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงยุติธรรม เร่งลงมาดูทุกคดี มิฉะนั้นสิ่งที่เป็นนโยบายและความหวังของประชาชนที่มีให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและรัฐบาลชุดนี้คงไม่เป็นจริง
พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้โยกย้าย พล.ต.อ.
โดยทั้งหมดนี้ต้องทำอย่างรวดเร็วขณะที่รัฐบาลชุดนี้ยังมีอำนาจอยู่ ก่อนที่จะมีการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระบวนการยุติธรรม จะต้องปฏิรูปดีเอสไอก่อน มิฉะนั้น รัฐบาลจะไม่มีเครื่องมือเชิงนโยบายไปตรวจสอบและปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้
"ตอนนี้คนที่มีอำนาจใน สตช.และค้ำจุนรัฐบาลตำรวจอยู่ก็คือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องปฏิรูปหมด วิสัยทัศน์ของการตั้งดีเอสไอ กำหนดว่าจะทำงานเชิงรุก ในคดีที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม รวมทั้งจะให้ความเที่ยงธรรม และความเชื่อมั่นแก่ประชาชน แต่ผลการทำงานกลับติดลบ ดีเอสไอควรมีบทบาทในการสอบทานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับส่งเสริมและทำให้ตำรวจเข้มแข็งขึ้น มีการรับตำรวจเข้ามาองค์กรมาก รวมทั้งรับวัฒนธรรม สตช.มาครอบงำดีเอสไอ" นายสมชาย กล่าว
ด้านนางอังคณา กล่าวว่า แม้ว่ากระทรวงยุติธรรมประกาศว่าจะคลี่คลายคดีอุ้มทนายสมชาย แต่ก็เชื่อว่าคงคลี่คลายไม่ได้ถ้าไม่เร่งปฏิรูปดีเอสไอ ทั้งที่ดีเอสไอตั้งมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอย้ายมาจากตำรวจเป็นส่วนใหญ่ ชาวบ้านจึงเดือดร้อนเหมือนหนีเสือปะจระเข้ และขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนเรื่องคนหายในภาคใต้ให้กระจ่าง เพื่อจะแก้ปัญหาภาคใต้ได้ ถ้าคดีทนายสมชายทำไม่สำเร็จ การอุ้มฆ่าในภาคใต้ก็คงไม่สำเร็จและรัฐบาลก็จะไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน
พระกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะรื้อฟื้นกลไกที่บกพร่องจากการแทรกแซงของระบอบทักษิณ การทำงานดีเอสไอเป็นไปตามการชี้นำของคนที่มีอำนาจทางการเมือง ถ้าไม่มีการปฏิรูปโดยเร็ว ดีเอสไอก็จะเป็นเครื่องมือรัฐบาล
......................