สกน.เดือด ฉีกหนังสือร้องเรียนทิ้งหน้าค่ายทหาร หลังถูกกันไม่ให้เข้าพบ "สุรยุทธ์"

ประชาไท - 21 ต.ค. 2549 เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จำนวน 20 คนได้เดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง เพื่อขอเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือข้อเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาของ สกน.อย่างเร่งด่วน

 

โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า "ตามที่ สกน.มีการเรียกร้องให้รัฐบาลชุดที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาของเกษตรกรกรณีปัญหาป่าไม้และที่ทำกินในเขตป่า และกรณีปัญหาการถือครองที่ดิน จนได้มาซึ่งมติ ครม.วันที่ 9 เม.ย.2545 และมติครม.วันที่ 25 ก.พ.2546 รวมทั้งมติครม.วันที่ 27 ก.พ.2547 ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาขึ้น ตลอดจนได้มีการเจรจาในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาพบว่ากระบวนการต่างๆ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ และที่สำคัญรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังได้ยกเลิกคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาต้องยุติลงด้วย

 

 

กรณีที่เกิดขึ้น นำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับประชาชนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการกำหนดเขตป่าสงวนฯและการขยายเขตป่าอนุรักษ์ที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมตรวจสอบในเขตป่าดังกล่าว ส่งผลให้พื้นที่ป่าไม้ของรัฐทับซ้อนพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง

 

โดยเฉพาะที่ดินนั้น นับเป็นต้นทุนทางสังคมและเป็นฐานทรัพยากรธรรมชาติซึ่งควรนำมาใช้ในการผลิตอย่างมีคุณภาพและเหมาะสมโดยต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมในสังคม การปล่อยให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจึงเป็นการทำลายต้นทุนทางสังคม ซึ่งรัฐควรนำที่ดินเอกชนที่รกร้างว่างเปล่ามากระจายสิทธิ์ให้เกษตรกรโดยมาตรการปฏิรูปที่ดินอย่างจริงจัง ปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐควรเร่งแก้ไขปัญหาทั้งในทางนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา

 

ดังนั้น สกน.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดนี้ได้แก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมานานโดยยึดหลักของท่าน คือ โปร่งใส ชอบธรรม ประหยัด และประสิทธิภาพตามข้อเสนอโดยเร่งด่วน"

 

ผู้สื่อข่าว "ประชาไท" รายงานว่า ในขณะที่ตัวแทน สกน.เดินทางเข้าไปถึงบริเวณหน้าค่ายสุรศักดิ์มนตรี นั้น ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกอยู่นั้น เรียกให้หยุด พร้อมสอบถาม ก่อนจะรายงานทางวิทยุสื่อสารถึงผู้บังคับบัญชา ว่าจะให้เข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้หรือไม่

 

ต่อมา ได้มีคำสั่งมิให้เข้าพบ เนื่องจากว่า พล.อ.สุรยุทธ์ และคณะฯ กำลังรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่

เกรงจะไปรบกวน ขอให้รออยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าค่ายทหาร หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่กลับแจ้งให้ตัวแทน สกน.ทราบว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีเวลา เพราะต้องรีบเปลี่ยนชุด เดินทางออกไปทำบุญทอดกฐินที่วัดบุญญาวาทย์ และขอให้ตัวแทนชาวบ้านไปยื่นหนังสือที่วัดดังกล่าวแทน ซึ่งทำให้ตัวแทนชาวบ้านต่างพากันไม่พอใจ ที่เจ้าหน้าที่พยายามบ่ายเบี่ยงกันไม่ให้เข้าพบนายกรัฐมนตรี

 

ในขณะนั้น ขบวนรถตำรวจ ทหาร และคณะผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี ได้เคลื่อนออกจากค่ายสุรศักดิ์มนตรี ผ่านประตูด้านหน้า ผ่านกลุ่มชาวบ้านที่มายืนรอยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ทำให้ตัวแทนชาวบ้านแสดงสีหน้าผิดหวัง และในที่สุด นายจรัส ใหม่ยศ ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ จึงได้ตัดสินใจฉีกหนังสือยื่นข้อเสนอร้องเรียนทิ้งบริเวณหน้าค่ายทหารนั้นทันที

 

 

นายจรัส ใหม่ยศ ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ กล่าวภายหลังฉีกหนังสือว่า ชาวบ้านไม่ได้มาประท้วง แต่มายื่นหนังสือข้อเสนอ เรียกร้องการแก้ไขปัญหาของกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาที่เกิดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคประชาชนอย่างรุนแรงในสมัยรัฐบาลทักษิณ

 

"เราเพียงต้องการเสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ ที่มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาเหล่านี้ไปปฏิบัติ ไปแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งเป็นปัญหาส่วนรวมของพี่น้องประชาชนในเขตภาคเหนือ แต่เมื่อไม่มีการรับหนังสือ เราจึงเชื่อได้ว่า ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนๆ ก็ไม่ได้สนใจปัญหาของชาวบ้านอย่างแท้จริงเลย" นายจรัส กล่าวด้วยสีหน้าผิดหวัง

 

ขณะนั้น ได้มีพันเอกสถาพร ไชยวัฒนพันธุ์ รองเสธ.กองทัพภาคที่ 3 เดินเข้ามาสอบถามชาวบ้าน ซึ่งตัวแทนชาวบ้าน ได้บอกว่า ต้องการให้รัฐบาลชุดนี้ได้แก้ไขปัญหาของ สกน.จะมาอ้างว่าไม่มีเวลานั้นมันเกินไป เพราะถ้าหากลงมารับเรื่องจริงๆ ก็ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที

 

 

 

พันเอก สถาพร ได้กล่าวกับตัวแทนชาวบ้านว่า ท่านมาวันนี้ก็เพราะมาเพื่อต้องการรับทราบปัญหาของกลุ่มผู้พัฒนาชาติไทย และตอนนี้นายกฯ กำลังเตรียมตัวไปร่วมทำบุญทอดกฐินจึงไม่มีเวลาที่จะมาพบ แต่รับประกันด้วยเกียรติของทหารว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่โกหกตอแหลเหมือนรัฐบาลชุดอื่นอย่างแน่นอน และขอรับเรื่องนี้ไว้ให้ ซึ่งตัวแทน สกน.ไม่ยอม อยากให้นายกฯ มารับหนังสือด้วยตนเอง

 

ในขณะเดียวกัน นายเจริญสุข ชุมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ ป้องกันจังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ติดตาม ได้เดินทางเข้าพบกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมพยายามชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ได้ให้ชาวบ้านเข้าพบนายกรัฐมนตรี และขอเป็นตัวแทนรับหนังสือข้อเสนอ ข้อเรียกร้องของ สกน.เอาไว้ โดยรับปากว่า จะรีบเสนอต่อ ผวจ.ลำปาง เพื่อนำเสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยได้รับหนังสือฉบับสำเนาไปแทน

 

ด้าน นายประยูร เกษระชัย คณะกรรมการ สกน.ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้ว่าทำไมเวลาชาวบ้านจะเข้าพบนายกฯ มันช่างลำบากยากเย็น และไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนไหน ก็เหมือนกันหมด ไม่ได้สนใจปัญหาของชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านจะขอเข้าพบเพื่อขอความช่วยเหลือ ก็จะถูกกันไม่ให้เข้าไปใกล้ ซึ่งรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ ในเนื้อความของหนังสือร้องเรียนฉบับดังกล่าว ได้แยกข้อเสนอ ข้อเรียกร้องกรณีปัญหาป่าไม้และที่ดินในเขตป่า ปัญหาการถือครองที่ดิน ปัญหาของชนเผ่าและชาติพันธุ์ รวมทั้งโครงการนำร่องสร้างเศรษฐกิจสมานฉันท์และชุมชนพึ่งตนเอง

 

โดยเฉพาะโครงการนำร่องสร้างเศรษฐกิจสมานฉันท์และชุมชนพึ่งตนเอง เป็นโครงการที่ทาง สกน.ร่วมกับ เครือข่ายป่าชุมชนภาคเหนือ(คปช.) กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ(นกน.) และเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ(คกน.) ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นมาเพื่อพัฒนารูปธรรมในการรองรับการจัดการปฏิรูปที่ดินโดยชุมชน เป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ของชุมชน เพื่อสร้างฐานเศรษฐกิจที่ยั่งยืนแก่ชุมชน ให้สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างหมู่บ้านชุมชนพึ่งตนเอง และสอดคล้องกับหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ระบุว่า เกษตรกรควรมีที่ดินครอบครัวละ 15 ไร่

 

โดยทางสกน.และเครือข่าย ได้เสนอพื้นที่เป้าหมายเอาไว้ทั้งหมด 7 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน และเชียงราย จำนวน 28 ชุมชนหลัก 9 ชุมชนรอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท