Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


มีแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะสร้างสรรค์สังคมไร้การกดขี่จากพวกแย่งชิงอำนาจได้

 


ในการทำรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้น เราคิดว่า คปค.น่าจะมีความจริงใจและมีความตั้งใจที่จะทำอะไรที่จริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างนี้


 


ถึงตอนนี้เราคิดว่า คปค. แทบจะหมดความชอบธรรมไปแล้ว เพราะไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจะเช็คบิล และ จัดการปัดกวาดบ้านชำระชะล้างความเลวร้ายของระบอบทักษิณที่เป็นตัวปัญหาของชาติอย่างจริงจัง  


 


รู้อยู่ว่ามีการโกงกินและเป็นเหตุผลหนึ่งในการรัฐประหาร แต่ คปค. ไม่มีการประกาศยึด หรืออายัดทรัพย์สินพวกโกงกินแต่อย่างไร


 


เราขอทำนายว่า คงไม่สามารถเอาผิดกับทักษิณ รวมถึง อดีต รมต. และ ข้าราชการ ที่โกงกิน สมัยรัฐบาลทักษิณได้อย่างที่คาดหวังไว้


 


ที่ผิดคาดอย่างมากคือ คปค.ไม่จัดการอย่างถอนรากถอนโคน แต่กลับปล่อยให้ลิ่วล้อของทักษิณที่น่าจะมีความผิดยังลอยนวลอยู่ในสังคมอย่างปรกติ


 


นอกจากนี้  คปค. ยังปล่อยให้พวกมันที่ยังเป็นซากเดนของระบอบทักษิณ สามารถเล็ดลอดเข้ามาอยู่ในองคาพยพของ คปค.ได้อย่างตั้งใจ แม้จะมีกระแสต่อต้านจากประชาชนที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตลอด


 


รวมถึง คปค.ไม่มีความคิด หรือแสดงให้เห็นว่ามีความตั้งใจที่จะจัดการปัญหาสำคัญๆ เช่นการปฎิรูปสื่อทีวีให้มีความก้าวหน้าและเปิดโปงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ และให้การศึกษาสิ่งที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างถึงแก่น แต่กลับให้ลิ่วล้อของทักษิณลอยหน้าลอยตาทางทีวีได้เป็นปกติ  


 


รายการทีวียังน้ำเน่าเหมือนเดิม ที่เต็มไปด้วย เกมส์โชว์ และ ละครแม่ผัวลูกสะใภ้  ที่ยังมอมเมาประชาชนต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว


 


เราจึงสามารถสรุปได้ว่าการจัดการของ คปค.ล้มเหลวเกือบทุกด้าน


 


คปค.ทำรัฐประหารได้แต่บริหารประเทศไม่ได้  


ถ้ายังคงมีสภาพเช่นนี้ คปค.กำลังเดินไปสู่ความหายนะ อย่างแน่นอน  


 


นับวันประชาชนก็ตระหนักได้ว่า การทำรัฐประหารครั้งนั้คือการแย่งชิงอำนาจจากระบอบทักษิณเท่านั้น โดยที่ประชาชนไม่ได้อะไร แต่กลับตกเป็นเบี้ยของทั้งสองฝ่าย 


 


การแปรภาพตัวเองของ คปค. เป็น เปลือกหอย  ดังนั้น ไม่ว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใคร ก็ไม่ต่างจากการตั้งรัฐบาลหุ่นที่เชิดได้ เช่น สมัย รสช. ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2535  และสมัยรัฐบาลธานินทร็ กรัยวิเชียร ในเดือน ตุลาคม พ.ศ.2519 ที่รัฐบาลล้วนยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐประหารทั้งสิ้น


 


ขอให้พวกเราเลิกหวังลมๆ แล้งๆ ว่า คปค.จะปฎิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยดั่งความความหวังของพวกเราและของประชาชนทั้งปวงได้


 


ดังนั้น คปค. จะถูกต่อต้านอย่างหนักจาก นักประชาธิปไตย  รวมถึงภาคประชาชนอย่างกว้างขวาง และจากเครือข่ายของระบอบทักษิณอย่างแน่นอนในไม่ช้านี้


 


ในสถานการณ์เช่นนี้ประชาชนจะวางตัวและกำหนดท่าทีอย่างไร  


 


เราต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณที่กำลังเคลื่อนไหวเพื่อหวนคืนสู่อำนาจ และเราต้องไม่สนับสนุน คปค.ให้เป็นเปลือกหอยให้เสวยอำนาจที่ช่วงชิงมาได้จากการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน 


 


เราขอบอกว่ามีแต่ประชาชนเท่านั้นที่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนเอง 


 


ดังนั้น เราจึงไม่ต้องรอช้าหรือให้โอกาส คปค.อีกต่อไปถ้ายังไม่ความจริงใจที่จะสะสางปัญหาของชาติ


รวมทั้งเราต้องคัดค้านระบอบทักษิณถึงที่สุดเพื่อมิให้กลับมา


 


สุดท้ายขอนำบทกลอนของ วิสา คัญทัพ มากล่าวไว้อีกที  ณ ที่นี้


 


"ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า 


ผู้ปกครองต่างมาและสาปสูญ


ไม่มีอำนาจใดล้ำเลิศน่าเทิดทูล


ประชาชนต่างสูญสิ้นนิรันดร์ไป


 


เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่


ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่


เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ


ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"


 


บทกลอนนี้เป็นสัจจธรรม แม้ว่าคนเขียนอาจจะอยู่ฟากระบอบทักษิณ ก็ขอหยิบยืมมาใช้เตือนทั้ง คปค.และพวกระบอบทักษิณว่า ตราบใดที่ประชาชนยังถูกกดขี่จากพวกท่านทั้งสองฝ่ายที่แย่งชิงอำนาจกันจนประชาชนเห็นธาตุแท้อย่างทะลุปุโปร่งในที่สุด แล้วสักวันหนึ่งประชาชนก็จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อโค่นล้มพวกท่านทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน การรัฐประหารนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย และตราบใดที่เชื้อชั่วของระบอบทักษิณที่บังไม่หมดไปการต่อสู้ของประชาชนก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายเช่นกัน


 


เสรีชน


29 ก.ย. 2549

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net