(ที่มาของภาพ : APWLD/Judy Pasimio)
ประชาไท - 1 ต.ค.2549 หลังจากที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตองคมนตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ในวันนี้ (1 ต.ค.) พรรคแนวร่วมภาคประชาชน ได้ออกแถลงการณ์ "นายกใหม่ เพียงแต่เป็นนายกทหารของรัฐบาลเผด็จการ" แสดงความเห็นคัดค้านกรณีที่การแต่งตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีดังกล่าว โดยในแถลงการณ์ระบุว่า การที่คณะทหารซึ่งทำการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ และทำลายประชาธิปไตย แต่งตั้งพวกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การคืนอำนาจให้ประชาชนแต่อย่างใด รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งนี้เป็นเพียงเงามืดมัวของคณะทหารเท่านั้น เป็นรัฐบาลเผด็จการทหารซึ่งไม่มีวันหลุดจากความเป็นรัฐบาลเถื่อนได้
"เพราะทุกอย่างที่รัฐบาลนี้กระทำ กระทำไปภายใต้อำนาจกระบอกปืน และการปฏิรูปการเมืองที่คณะทหารอ้างว่าจะทำก็เป็นแค่การเปลี่ยนกติกาเพื่อผลประโยชน์อภิสิทธิ์ชนคนส่วนน้อยที่เป็นเผด็จการ" แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังอ้างมาตรา 65 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ว่าพลเมืองไทยมีหน้าที่ในการขัดขืนการทำรัฐประหาร ซึ่งตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยสากล พลเมืองย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะเคารพและยอมรับคำสั่งใดๆ ที่มาจากคณะทหารที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ผ่านกระบอกปืนและที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด
ตอนท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า "เราต้องการรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาทันทีพร้อมๆ กับสิทธิเสรีภาพทุกอย่าง เช่น ในการแสดงออก ในการรวมตัวกันเคลื่อนไหวอย่างสันติ และสิทธิเสรีภาพสื่อ เราประณามการปิดเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนและการเซนเซอร์สื่อ"
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสังคมอย่างแท้จริง จากล่างสู่บน เพื่อประชาชนคนยากคนจน โดยมีการเชิญชวนภาคประชาชนร่วมงานสมัชชาสังคมไทยที่ภาคประชาชนต่างๆ จะจัดในวันที่ 21-23 ตุลาคมนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต ทั้งยังเชิญชวนให้ทุกฝ่ายของภาคประชาชนปฏิเสธรัฐบาลทหารชุดนี้ และเดินหน้าสู่กระบวนการปฏิรูปสังคมของคนส่วนใหญ่ในงานสมัชชาสังคมไทย
"ใจ อึ๊งภากรณ์" เผยแต่งตั้งนายทหารเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นการถอยหลังเข้าคลอง
รศ. ใจ อึ๊งภากรณ์ สมาชิกพรรคแนวร่วมภาคประชาชนคนสำคัญให้สัมภาษณ์ "ประชาไท" ว่า ที่พรรคออกแถลงการณ์ดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าการแต่งตั้งนายทหารเป็นนายกรัฐมนตรียิ่งเป็นการถอยหลังเข้าคลอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคิดอย่างไรกรณีที่นายกรัฐมนตรีจากการแต่งตั้งคนใหม่แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาการเมืองและปัญหาภาคใต้ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นในสังคมขณะนี้จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันมาปรองดอง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหา รศ.ใจ กล่าวว่า ประเด็นภาคใต้ ทหารและวิธีการของทหารแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะเป็นต้นกำเนิดของปัญหา ถ้าจะแก้ปัญหาต้องใช้สันติวิธี ต้องมานั่งคุยกันทางการเมือง และคนในพื้นที่ต้องมีบรรยากาศเสรีที่จะเสนอว่าเขาอยากอยู่อย่างไร รัฐบาลทักษิณไม่สร้างบรรยากาศนี้ และเผด็จการทหารจะทำให้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
"คิดว่าฝ่ายที่อยากค้านทักษิณต้องหานโยบายที่ดีกว่าประชานิยมเพื่อชิงเสียงสนับสนุนจากคนจน เช่นรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่ไปบอกว่าไม่มีทางอื่นนอกจากการใช้กำลัง พอทหารใช้กำลังก็หันมาบอกว่าเราต้องสามัคคี ก็เท่ากับว่าทุกคนต้องสยบยอมทหารเพื่อสามัคคี" รศ.ใจ กล่าว
รศ.ใจ ยังกล่าวด้วยว่า ความปรองดองที่นายกฯ คนใหม่เรียกร้องนั้น เป็นความปรองดองภายใต้เงื่อนไขของชนชั้นปกครองและเผด็จการ และคนจนไม่มีสิทธิที่จะเสนอเงื่อนไขเผด็จการแบบนี้ทั้งๆ ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม
ย้ำเผด็จการไม่ว่าชื่ออะไรก็ "เหม็น"
ท้ายที่สุด รศ.ใจ กล่าวถึงภาคประชาชนว่า "คนในขบวนการภาคประชาชนที่รักประชาธิปไตยต้องเคลื่อนไหวเพื่อขยายพื้นที่ประชาธิปไตยต่อไป การเปลี่ยนชื่อคณะทหารเผด็จการไปเป็นอีกชื่อหนึ่งคงไม่สามารถหลอกใครได้ เผด็จการทหารพม่าก็ชอบเปลี่ยนชื่อบ่อยๆ แต่ไม่มีใครถูกหลอก เชคสเปียร์เคยเขียนไว้ว่า "ดอกกุหลาบไม่ว่าจะชื่ออะไรก็คงหอม" ในกรณีคณะปรปักษ์ต่อประชาธิปไตยมันเป็นมุมกลับ เผด็จการไม่ว่าจะชื่ออะไรก็เหม็น"
นอกจากนี้ รศ.ใจ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ว่า เครือข่าย 19 กันยา พรรคแนวร่วมภาคประชาชน และองค์กรพันธมิตรเตรียมชุมนุมในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และจะมีงาน "สมัชชาสังคมไทย" ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อร่วมกันปฏิรูปสังคมและการเมืองโดยฝ่ายประชาชน