ประชาไท—13 พ.ย. 2549 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร โดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นายอดิศร เกิดมงคล นางสาวชนกาญจน์ พันธุ์เดิมวงศ์ นายสุวิทย์ เลิศไกรเมธีและนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง แถลงถึงการนัดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันเสาร์ที่ 18 พ.ย. 2549 เวลา 16.00 น. เพื่อเปิดเวทีสาธารณะของประชาชนที่คัดค้านเผด็จการ ให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกโดยทันที และกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 นอกจากนั้นได้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ก่อนเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปการเมืองต่อไป

ทั้งนี้การชุมนุมดังกล่าว จะมีการเคลื่อนขบวนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปถนนราชดำเนิน เวลา 18.00 น. เพื่อไปยืนไว้อาลัยแก่ระบอบประชาธิปไตยไทย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นเคลื่อนขบวนไปจุดเทียนส่องทางประชาธิปไตย ที่หน้ากองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก

นายสมบัติ กล่าวว่ากฎอัยการศึกเป็นกฎหมายเก่า สำหรับใช้ในสถานการณ์ภาวะสงคราม แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา รวมถึงครั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวตกเป็นเครื่องมือของคณะรัฐประหาร เพื่อมาจำกัดเสรีภาพทำให้ประชาชนกลัวไม่กล้าแสดงความคิดเห็นที่ต่างจากรัฐบาล ในขณะที่กฎอัยการศึกไม่สามารถทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ แต่กลับเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายทหารอยู่เหนือพลเรือน ในส่วนของผู้นำประเทศเองก็ประสบปัญหาขาดการยอมรับ และถูกเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึกจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ " การคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึกไม่เพียงสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ตัวผู้นำประเทศเอง แต่สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ประชาชนไทยและประเทศไทย ที่มีผู้นำซึ่งยึดอำนาจมาโดยนอกเหนือวิธีการของระบอบประชาธิปไตย " นายสมบัติกล่าว

นายอดิศร กล่าวว่า เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ไม่ได้เป็นตัวแทนของฝ่ายใด การกล่าวหาว่าเครือข่ายฯ เป็นส่วนหนึ่งของพรรคการเมือง เป็นความเข้าใจผิด เพราะการรวมตัวกันของเครือข่ายฯประกอบด้วยนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยจัดกิจกรรมเป็นในเชิงวิชาการเพื่อกระตุ้นการแสดงความคิดเห็น ต่ออนาคตของประเทศ ซึ่งปรากฏทิศทางเริ่มชัดว่า ประชาชนต้องการสร้างการเมืองของตัวเอง ในส่วนความรุนแรงจากการชุมนุมหากเกิดขึ้นก็เป็นเพราะฝ่ายรัฐ ไม่ใช่จากประชาชน

หลังจากการแถลงข่าว ตัวแทนเครือข่าย 19 กันยาฯ ได้ฉีกกระดาษที่มีข้อความ"กฎอัยการศึก"

000

ใบแถลงข่าว " ครบรอบ 60 วัน

เดินขบวนต่อต้านเผด็จการ ยกเลิกกฎอัยการศึกทันที"

นับตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาเกือบหกสิบวันแล้ว ที่สังคมไทยอยู่ภายใต้การปกครองของคณะเผด็จการทหาร- ตำรวจ ซึ่งได้แปลงร่างมาเป็นเผด็จการพลเรือนในปัจจุบัน

เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร ได้ดำเนินจุดยืนและกิจกรรมทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านการทำรัฐประหารและเผด็จการทุกรูปแบบ เครือข่าย 19 กันยาฯ มีมติและจุดยืนต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และการเคลื่อนไหวดังนี้

1. คณะเผด็จการทหาร- ตำรวจ- เผด็จการพลเรือน มีเจตนาที่ชัดเจนในการสืบทอดอำนาจเผด็จการ นับตั้งแต่การแต่งตั้งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติที่มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคณะเผด็จการ และล่าสุดการฉวยโอกาสแต่งตั้งนายทหาร -ตำรวจ พวกพ้องของตน ไปเป็นคณะกรรมการบริหารในรัฐวิสาหกิจต่างๆ การกระทำดังกล่าวนี้ไม่ใช่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนแต่อย่างใด แต่เป็นการปูนบำเหน็จตบรางวัล และนำผลประโยชน์ของประชาชนไปแบ่งปันกันในกลุ่มของตนเองเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้มีความพยายามของนักวิชาการจารีตบางส่วน เสนอให้นายกรัฐมนตรีและวุฒิสภาไม่จำเป็นต้อง มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการขัดขวางและทำลายล้างระบบการเลือกตั้ง อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย

2.กรณีการยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก จุดมุ่งหมายของการมีกฎอัยการศึกเป็นไปเพื่อจัดการกับศัตรูภายนอก แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการรัฐประหาร คณะเผด็จการจะใช้กฎอัยการศึกเป็นเครื่องมือจัดการกับประชาชนเสมอ และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ คมช ประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเท่ากับประกาศตนเป็นศัตรูกับประชาชน แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีความจำเป็นอันใดอีกต่อไปที่จะคงกฎอัยการศึกไว้ เพราะคณะผู้ก่อการยึดอำนาจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แทบทั้งหมดแล้ว การยังไม่ยกเลิกกฎอัยการศึกโดยเหตุผลของความมั่นคง ไม่ว่าจะในนาม คลื่นใต้น้ำ หรือข้ออ้างอื่นใด จึงเป็นเพียงข้ออ้างที่ต้องการใช้อำนาจโดยอำเภอใจ ปราศจากการตรวจสอบ และเป็นการละเมิดคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรง

ในโอกาสครบรอบ 60 วันของการรัฐประหาร เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร ร่วมกับองค์กรพันธมิตรและประชาชนจำนวนหนึ่งที่รักในประชาธิปไตย จึงจัดให้มีการชุมนุมในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเปิดเวทีสาธารณะของประชาชนที่คัดค้านเผด็จการ และให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกโดยทันที กลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ก่อนเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปการเมืองต่อไป

เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร