เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนระบุเอง ปัญหาสิ่งแวดล้อมเข้าขั้นวิกฤต

 

ช่วงการจราจรคับคั่งในเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศในเมืองเซี่ยงไฮ้เต็มไปด้วยมลพิษ (ที่มาของภาพ : AFP/Mark Ralston)

 

ปักกิ่ง -  ปัญหาสิ่งแวดล้อมของสาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์โดยหน่วยงานรัฐด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูงของจีน ซึ่งระบุว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมตอนนี้กำลังทำให้สุขภาพและความมั่นคงทางสังคมถูกคุกคาม

 

ระหว่างการประชุมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสากลของจีนครั้งที่ 3 (the China Council for International Cooperation of Environment and Development) ในหัวข้อที่ 5 ของการการประชุมได้มีการเผยแพร่รายงานที่ระบุว่า 15 ปีหลังจากนี้ยานยนต์ในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านคันและระดับการควบคุมอุตสาหกรรมในโรงงานที่หย่อนยานจะทำให้เกิดปัญหามลภาวะเพิ่มขึ้น

 

รายงานดังกล่าวระบุว่าพาหนะของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ทุกปีตั้งแต่ปี 1980 โดยมีรถยนต์ 43 ล้านคันและมอเตอร์ไซค์ 94 ล้านคันในปี 2005 ที่ผ่านมา

 

โดยหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ ฉบับวันจันทร์ที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาอ้างคำพูดของนายจิว เชิงเสียน (Zhou Shengxian) ผู้อำนวยการองค์การบริหารป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐ (State Environmental Protection Administration - SEPA) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูงของจีนกล่าวว่า "ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความมั่นคงทางสังคม และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายในสายตาของนานาชาติ"

 

การขยายตัวของอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วในระยะ 20 ปีมานี้ ประกอบกับรัฐบาลท้องถิ่นและโรงงานอุตสาหกรรมเห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าเพื่อจะได้ลดต้นทุนการผลิตจึงเลี่ยงที่จะมีมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่สร้างมลพิษมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

 

นายจิวกล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดว่าด้วยการระดมความคิดเห็นด้านสิ่งแวดล้อมประจำปีของประเทศจีนว่า แม่น้ำในประเทศกว่าครึ่งประสบปัญหามลพิษทางน้ำ และ 1 ใน 3 ของผืนดินได้รับผลกระทบจากฝนกรด

 

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (the Organization for Economic Cooperation and Development - OECD) เตือนจีนว่าไม่มีมาตรการต่อสู้กับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเพียงพอ

 

โดยโออีซีดี แนะนำให้รัฐบาลเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในส่วนของรัฐบาลท้องถิ่น และองค์การบริหารป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐ หรือ (SEPA) ของจีนควรยกระดับเป็นกระทรวง

 

ผู้เชี่ยวชาญในสภาเพื่อความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสากลของจีน (the China Council for International Cooperation of Environment and Development) กล่าวว่าจีนยังคงล้าหลังในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม

 

ในปี 2005 รัฐบาลจีนใช้จ่ายงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น 838,800 ล้านหยวน (104,850 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือประมาณร้อยละ 1.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งใช้งบประมาณร้อยละ 2 ขึ้นไป ผู้เชี่ยวชาญในสภากล่าว

 

บรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงกล่าวว่าจีนกำลังทอดทิ้งบทบาทด้านสิ่งแวดล้อมในระดับนานาชาติ

 

รัฐบาลจีนเคยจัดสัมมนาระดมความเห็นในระดับโลกเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว ในเรื่องของการนำเข้าวัตถุดิบและการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ในขณะที่การผลิตในระบบอุตสาหกรรมนั้น มลพิษก็ถูกผลิตขึ้นและตกค้างอยู่ในประเทศจีน

 

ปัญหาของจีนเกิดจากการที่โรงงานอุตสาหกรรมหนักย้ายฐานการผลิตจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นย้ายมายังจีน รายงานฉบับดังกล่าวระบุ

 

"เรานำเข้าวัตถุดิบ เราส่งออกผลผลิตจากโรงงาน แต่เราเก็บมลพิษไว้กับตัวเอง" นายเฉิน กัวะฟางกล่าวในรายงาน โดยตัวเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นรองประธานประธานสภาวิศวกรรมสถานของจีน

 

 

 

ที่มา

China's environment degraded to dangerous point: official, AFP, Mon Nov 13, 2:32 AM ET

http://news.yahoo.com/s/afp/20061113/wl_afp/chinaenvironmentpollutioncriticial

 

Experts: China's traffic pollution to worsen, China Daily (Xinhua), November 2006, 13

http://www.chinadaily.com.cn/china/2006-11/13/content_731935.htm

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท