Skip to main content
sharethis

17 พ.ย. 2549 คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ว่าที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2549 ได้ลงนามประกาศในหนังสือที่ ศธ.04006/2093 เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปีการศึกษา 2550 ตามที่ ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เห็นชอบ


 



ในประกาศดังกล่าวได้จำนวนนักเรียนต่อห้องของทุกระดับไว้ โดยระดับก่อนประถมศึกษา หรืออนุบาล ให้รับนักเรียนได้ไม่เกิน 30 คนต่อห้อง หากมีความจำเป็นต้องรับเกิน ให้รับได้ไม่เกินห้องละ 35 คน ส่วนระดับประถมศึกษา ให้รับได้ไม่เกิน 40 คน แต่หากจำเป็นให้รับได้ไม่เกิน 45 คน โดยให้เสนอคณะกรรมการรับนักเรียนของจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) อนุมัติ


 



"ระดับมัธยมศึกษาให้รับได้ไม่เกิน 40 คนต่อห้อง หากจำเป็นรับได้ไม่เกิน 45 คน โดยให้เสนอคณะกรรมการรับนักเรียนของจังหวัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติ และหากจำเป็นต้องรับเกิน 50 คน ให้เสนอเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอนุมัติ เช่น โรงเรียนในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 บางโรงเรียนอาจต้องรับนักเรียนเกิน 50 คนต่อห้อง เพราะมีการขยายและเคลื่อนย้ายประชากรอย่างรวดเร็ว ประกอบกับโรงเรียนทุกสังกัดไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ" คุณหญิงกษมา กล่าว


 



คุณหญิงกษมา กล่าวว่า ส่วนวิธีรับนักเรียนนั้น ระดับประถมศึกษา ให้คณะกรรมการรับนักเรียนของจังหวัดจัดหาที่เรียนให้เด็กที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้เข้าเรียน ป.1 ครบทุกคน ตามความเหมาะสม โดยไม่มีการสอบวัดความสามารถทางวิชาการ ถ้ายังไม่เต็มค่อยให้โรงเรียนรับเด็กนอกพื้นที่บริการได้ กรณีที่มีผู้สมัครเกินจำนวนที่โรงเรียนรับได้ ให้ใช้วิธีจับสลากตัดสินและประสานกับโรงเรียนใกล้เคียง เพื่อจัดหาที่เรียนให้เด็กได้เข้าเรียนครบทุกคน


 



ส่วนการรับนักเรียน ม.1 นั้น ให้โรงเรียนทั่วไปรับนักเรียนที่มาสมัครเข้าเรียนทุกคน กรณีที่มีเด็กสมัครเกินจำนวนที่โรงเรียนรับได้ให้ใช้วิธีจับสลากตัดสิน ซึ่ง สพท.จะประกาศให้ทราบว่า นักเรียนที่จบชั้น ป.6 ในพื้นที่ทุกคนได้รับการจัดสรรที่เรียนในโรงเรียนใดบ้าง ซึ่งนักเรียนสามารถเลือกรายงานตัวที่โรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรโอกาส หรือไปสมัคร หรือสอบเข้าที่โรงเรียนอื่นๆ ได้ หากนักเรียนพลาดจากการคัดเลือก หรือจับสลากในโรงเรียนอื่น สามารถกลับไปเรียนในโรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรโอกาสได้


 



ส่วนโรงเรียนที่ได้รับความนิยมสูง 430 โรงเรียนนั้น ให้รับนักเรียนโดยใช้สัดส่วน 50:50 คือ ให้รับนักเรียนในพื้นที่บริการ ร้อยละ 50 และที่เหลือร้อยละ 50 ให้โรงเรียนสอบคัดเลือกรับนักเรียนทั่วประเทศ โดยใช้แบบทดสอบของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนต้องออกข้อสอบให้อยู่ในเนื้อหาของหลักสูตรช่วงชั้นที่ 2 ใน 4 วิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และสังคมศึกษา ขณะที่ในส่วนภูมิภาคให้สอบคัดเลือกรับนักเรียนทั่วประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 40 และสอบรับนักเรียนนอกเขตพื้นที่บริการ แต่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดนั้น ไม่เกินร้อยละ 10 และหากโรงเรียนใดต้องการรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะด้านให้รวมอยู่ในโควตาสอบคัดเลือก แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนที่โรงเรียนประกาศรับทั้งหมด


 



ทั้งนี้ โรงเรียนสามารถรับนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษ โดยให้อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการสถานศึกษา หากเห็นว่าโรงเรียนมีความจำเป็นจะต้องรับนักเรียนตามเงื่อนไขพิเศษ ซึ่งอาจมีหลายกรณี เช่น ข้อตกลงในการจัดตั้งโรงเรียน ผู้บริจาคทรัพยากร หรือผู้ทำคุณประโยชน์ให้โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ผู้ด้อยโอกาส หรือประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์ดูแลเป็นพิเศษ อนุญาตให้โรงเรียนเพิ่มจำนวนนักเรียนต่อห้องเพื่อรับนักเรียนกลุ่มนี้ได้ โดยให้คณะกรรมการสถานศึกษากำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณา และให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการขยายห้องเรียนตามที่ระบุไว้ข้างต้น


 



สำหรับการรับนักเรียนชั้น ม.4 ให้โรงเรียนรับนักเรียนเดิม ที่มีศักยภาพเหมาะสมเข้าเรียน และเปิดรับนักเรียนเพิ่มด้วย โดยใช้วิธีการสอบคัดเลือก แต่สำหรับโรงเรียนที่เปิดเฉพาะมัธยมปลายให้สอบคัดเลือกรับนักเรียนทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 80 และรับนักเรียนโควตาไม่เกินร้อยละ 20 ในกรณีที่โรงเรียนต้องการรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะด้านให้รวมอยู่ในโควตาสอบคัดเลือก


 



คุณหญิงกษมา กล่าวอีกว่า ส่วนปฏิทินในการรับนักเรียนนั้น ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประกาศสัดส่วนการรับนักเรียนของโรงเรียนในเขตโรงเรียนที่จัดตั้งด้วยวัตถุประสงค์พิเศษ โรงเรียนที่จะเปิดห้องเรียนพิเศษ ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2550 และให้โรงเรียนดำเนินการรับนักเรียนตามวัน-เวลาที่กำหนดพร้อมกันทั้งประเทศ ดังนี้ ก่อนประถมศึกษา รับสมัครวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2550 จับสลาก ประกาศผล และรายงานตัว มอบตัว วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550


 



ประถมศึกษาปีที่ 1 ประกาศชื่อโรงเรียนที่นักเรียนได้รับจัดสรรที่เรียน วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 รับสมัคร วันที่ 9-13 กุมภาพันธ์ 2550 จับสลาก ประกาศผล และรายงานตัว วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2550 มอบตัว วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2550


 



มัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกาศผลการจัดสรรที่เรียน วันที่ 10 มีนาคม 2550 แล้วให้โรงเรียนรับสมัครนักเรียนทุกประเภท วันที่ 16-20 มีนาคม 2550 แต่ให้จับสลากรับนักเรียนที่มาสมัครพร้อมประกาศและรายงานตัว วันที่ 1 เมษายน 2550 มอบตัว วันที่ 7 เมษายน 2550 ส่วนการสอบคัดเลือก สอบวันที่ 24 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 27 มีนาคม 2550 มอบตัว วันที่ 7 เมษายน 2550 นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ รับสมัครวันที่ 16-17 มีนาคม 2550 สอบวันที่ 18 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 19 มีนาคม 2550 มอบตัววันที่ 7 เมษายน 2550


 



มัธยมศึกษาปีที่ 4 สำหรับโรงเรียนที่เปิดทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลาย ให้นักเรียนที่จบ ม.3 เดิม รายงานตัววันที่ 28 มีนาคม 2550 มอบตัววันที่ 8 เมษายน 2550 รับสมัครนักเรียนที่จบ ม.3 จากโรงเรียนอื่น วันที่ 16-20 มีนาคม 2550 สอบคัดเลือกวันที่ 25 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 28 มีนาคม 2550 มอบตัววันที่ 8 เมษายน 2550 ส่วนโรงเรียนที่เปิดเฉพาะระดับ ม.ปลาย รับสมัครนักเรียนที่สอบคัดเลือก วันที่ 16-20 มีนาคม 2550 สอบคัดเลือกวันที่ 25 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 28 มีนาคม 2550 มอบตัววันที่ 8 เมษายน 2550 รับสมัครนักเรียนความสามารถพิเศษ วันที่ 16-17 มีนาคม 2550 คัดเลือก วันที่ 18 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 19 มีนาคม 2550 มอบตัว วันที่ 8 เมษายน 2550


 



โรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิการ รับสมัครวันที่ 16 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 1 พฤษภาคม 2550 โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส รับสมัครวันที่ 15-20 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 1 เมษายน 2550 โรงเรียนที่จัดการศึกษาด้วยวัตถุประสงค์พิเศษ รับสมัครวันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 2550 สอบคัดเลือกชั้น ป.5 และ ม.1 วันที่ 3 มีนาคม 2550  ชั้น ม.4 วันที่ 4 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว วันที่ 10 มีนาคม 2550 โรงเรียนที่จัดห้องพิเศษ รับสมัครชั้น ป.1 วันที่ 23-27 มกราคม 2550 ชั้น ม.1 และ ม.4 วันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 2550 สอบคัดเลือก ป.1 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2550 ม.1 วันที่ 3 มีนาคม 2550 ม.4 วันที่ 4 มีนาคม 2550 ประกาศผลและรายงานตัว ชั้น ป.1 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2550 ชั้น ม.1 และ ม.4 วันที่ 10 มีนาคม 2550


 



ทั้งนี้ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2550 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรม และเสมอภาค


 



รมว.ศึกษาธิการ ยันไม่มีเด็กฝาก


วันเดียวกัน ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เห็นชอบนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนสังกัด สพฐ.ปีการศึกษา 2550 และส่งกลับไปยังว่าที่เลขาธิการ กพฐ. เพื่อลงนามและประกาศใช้แล้ว ทั้งนี้ ในการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2550 รับนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 40 คน ทั้งนี้ การรับเด็กเพิ่มต้องระบุเหตุผลความจำเป็นอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่โควตาของเด็กฝาก หรือเด็กเส้น แต่มีความจำเป็น เช่น รับเด็กในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ครอบครัวล่มสลายอันเกิดจากความไม่สงบ หรือกรณีโรงเรียนรับบริจาคที่ดินมา และมีสัญญาว่าจะจัดที่เรียนให้แก่ผู้บริจาค


 



 "กรณีเหตุผลพิเศษจะต้องไม่ใช่นักการเมืองฝาก หรือรัฐมนตรีฝาก และไม่ต้องเป็นห่วง ผมรับรองว่าผมจะไม่ฝากใคร และผมยืนยันว่า เหตุผลพิเศษต้องจำเป็นจริงๆ ไม่ใช่เป็นการเปิดช่องให้มีเด็กฝาก เด็กเส้น จะไม่อัดนักเรียนต่อห้องถึง 65 คนเหมือนที่ผ่านมา และใช้ 6% จาก 10% ในส่วนของความสามารถพิเศษ ต้องไม่ไปเบียดโอกาสของคนอื่น เสริมได้นิดหน่อย" ศ.ดร.วิจิตร กล่าว


 



....................


ที่มา: http://www.komchadluek.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net