Skip to main content
sharethis

ประชาไท--23 พ.ย. 2549 "ดร.วัน"แฉ "เจไอ" เอี่ยวป่วนชายแดนใต้ ป่วนบันนังสตาเหิมหนัก ไล่ครูออกจากโรงเรียนก่อนเผาวอดทั้งหลัง ปิด27โรงเรียนยะหาไม่มีกำหนด เหตุเจ้าหน้าที่ถอดกำลังออกตามข้อเรียกร้องม็อบชาวบ้าน


 


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน หัวหน้ากลุ่มเบอร์ซาตู กลุ่มสนับสนุนแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ของไทย กับสถานีโทรทัศน์อัลญะชีเราะห์ ว่าเหตุที่นักรบหนุ่มไม่เต็มใจที่จะเจรจากับรัฐบาลไทย เพราะพวกเขาเชื่อวาจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน


 


ผู้นำของเบอร์ซาตู กล่าวต่อว่าคนรุ่นใหม่ มีอายุน้อยและมีความแน่วแน่ ขณะที่คนรุ่นเก่าสามารถประนีประนอมแต่คนรุ่นใหม่ยังคงต้องการเอกราช และไม่เพียงเท่านั้นพวกเขายังต้องการตั้งปัตตานีเป็นรัฐอิสระด้วย


 


นอกจากนี้หัวหน้ากลุ่มเบอร์ซาตู กล่าวด้วยว่าคนรุ่นใหม่ของกลุ่มได้รับความช่วยเหลือจาก ญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ ที่ปัจจุบันอาจแทรกซึมอยู่ในพื้นที่ชายแดนติดกับมาเลเซีย แต่ไม่แน่ใจว่ากลุ่มเจไอ จะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความไม่สงบใน 3 จังหวัดหรือไม่


 


ดร.วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน ยังระบุว่าทางกลุ่มก่อความไม่สงบมีสายอยู่ในรัฐบาลไทยที่คอยให้ข่าวสารพร้อมกับนั้นยังได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและเงิน ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเหตุการที่กลุ่มก่อความไม่สงบรู้ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นแผนการ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของกลุ่มก่อความไม่สงบเหนือรัฐบาลไทย


 


ปิด 27 โรงเรียยะหาเหตุถอดกำลังตามข้อเรียกร้องม็อบชาวบ้าน


เหตุชุมนุมยะหาบานปลายโรงเรียนหยุดสอน27โรงหลังเจ้าหน้าที่ถอนกำลังตามข้อเสนอชาวบ้าน ส่วนชุมนุมบันนังสตาสลายแล้ว หลังนายอำเภอรับปากเร่งจับคนร้ายยิงชาวบ้าน


 


จากกรณีชาวบ้านคอลอราแม บ้านอุเบง บ้านมาแบ หมู่ที่ 4 และบ้านกระป๋อง หมู่ที่ 3 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จำนวน 200 คน ปิดถนนสายยะหา - บันนังสตา เพื่อเรียกร้องให้อำเภอ สั่งถอนกำลังทหารพรานที่เข้าไปในพื้นที่ โดยอ้างว่ายิงปืนข่มขู่ชาวบ้าน เมื่อคืนวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ทำให้โรงเรียนในอำเภอยะหา 27 โรง ประกาศหยุดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ครู หลังจากถอนกำลังออกจากพื้นที่


 


ส่วนกรณีชาวบ้านกว่า 100 คน จากบ้านป่าหวังนอกและป่าหวังใน ไปรวมตัวประท้วงที่หน้า สภ.อ.บันนังสตา เพื่อเรียกร้องให้ทางราชการ ติดตามเอาตัวคนร้ายที่ใช้อาวุธสงครามยิงบ้านชาวบ้าน 4 หลังคาเรือน ที่บ้านป่าหวังนอก หมู่ที่ 11 ตำบลบันนังสตา ทำให้ นางฮาลีเมาะ แวดาลอ ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย โดยชาวบ้านกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นคนก่อเหตุนั้น นายนัฐกฤช สิทธิโอสถ นายอำเภอบันนังสตา รับว่า จะสืบสวน ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ทำให้ชาวบ้านยอมสลายตัวไป


 


 


ป่วนใต้บันนังสตาเหิม ไล่ครูออกจากโรงเรียนก่อนเผาวอดทั้งหลัง


เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ตำรวจสภ.อ.บันนังสตา จังหวัดยะลา ได้รับแจ้ง คนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียน และบ้านพักครู ในพื้นที่ ตำบลบาเจาะ และ ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ได้รับความเสียหาย จึงรุดไปที่เกิดเหตุ แต่เข้าไปด้วยความยากลำบาก เพราะคนร้ายวางตะปูเรือใบตลอดทาง ที่เกิดเหตุจุดแรก พบว่า ห้องเรียนแบบ ป.1 ก.ที่ใช้เป็นห้องเรียนอนุบาล จำนวน 4 ห้องเรียนถูกไฟเผาวอดไปทั้งหลัง


 


จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ครูกำลังจะปิดประตูห้องเรียน มีคนร้ายมีจำนวน 7 คน แต่งกายชุดดำ อาวุธปืนครบมือ เข้ามาในบริเวณโรงเรียนแล้วไล่ให้ครูออกจากห้องเรียน แล้วมารวมตัวอีกอาคารหนึ่งทำการจุดไฟเผาต่อหน้าต่อตาของครูและนักเรียน ในขณะนั้นปรากฏว่านายมุสตอฟา วาโด ผู้อำนวยการโรงเรียนกำลังประชุมกรรมก ารศึกษาและกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหารือให้เด็กนักเรียนมาเรียนให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่ด้วยอยู่ที่อาคารเรียนห้องพักครู เมื่อเกิดเหตุ ทั้งกรรมการศึกษาและชาวบ้านวิ่งเข้ามาเพื่อจะช่วยกันดับไฟ แต่กลุ่มคนร้ายได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ไม่ให้ใครเข้ามาช่วย ทำให้ไฟได้เผาอาคารวอดไปทั้งหลัง


 


ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารบ้านพักครูร้าง ที่โรงเรียนบ้านธารทิพย์ หมู่ที่ 3 ต.บันนังสตา โดยขณะเกิดเหตุ ไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียน เนื่องจากครูได้ออกมาก่อนหน้าเกิดเหตุเพียงเล็กน้อย ไฟได้ลุกไหม้ไม่มากนัก เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันเข้ามาช่วยดับไว้ทัน ทำให้เสียหายเล็กน้อย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชี้ว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาคนร้ายได้ลอบวางเพลิงโรงเรียน 3 แห่งใน พื้นที่ ต.บาเจาะ แต่โรงเรียนบ้านบาเจาะไม่สามารถลงมือเผาได้ เพราะเป็นที่ตั้งฐานของ ตชด.มว.3201 ซึ่งหลังจากนั้น ชาวบ้านได้รวมตัวไล่ ตชด.ออกจากโรงเรียนไป อยู่ที่ หลัง สภ.อ.บันนังสตา ในเวลาต่อมา


 


ยิง-เผาแม่ค้าขายเร่ถุงพลาสติกดับ 2


วันเดียวกันคนร้ายยิง นางสนิท จันหอม และ นายบรรจง บุญพรม อาชีพเร่ขายถุงพลาสติกตามหมู่บ้านบนถนนสาย ระแงะ-ดุซงญอ บ้านกูตง ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส คนร้ายยังได้จุดไฟเผารถยนต์กระบะที่ขับมาด้วย ศพนางสนิทไหม้เกรียมเป็นตอตะโก ส่วนนายบรรจง เสียชีวิตในป่ายาง ห่างจากจุดเกิดแรกประมาณ 30 เมตร ตำรวจคาดเป็นฝีมือของกลุ่มอาร์เคเค


 


ศึกษาระบบอนุญาโตตุลาการระงับคดีชายแดนใต้


นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เตรียมจะให้มีการศึกษาการนำระบบอนุญาโตตุลาการมาใช้กับคดีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยระบบอนุญาโตตุลาการ จะเป็นการระงับข้อพิพาทที่ใช้กับคดีแพ่ง และคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี แต่ต้องสอบถามประชาชนในพื้นที่ด้วยว่าต้องการนำระบบดังกล่าวมาใช้หรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อกำหนดประเภทคดีที่จะนำระบบอนุญาโตตุลาการมาใช้ จะทำให้มีคดีที่ใช้กับระบบดังกล่าวไม่มากนัก การศึกษาความเป็นไปได้ แม้ต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าจะทันกับรัฐบาลชุดนี้


 


 


เรียบเรียงจากเว็บไซด์ผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net