ประชาไท-23 พ.ย. 49       ที่จังหวัดยะลา มีการส่งกำลังทหารเข้าเสริมมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา มีกำลังทหาร เข้าไปประจำที่โรงเรียนบ้านบาเจาะจำนวนหนึ่ง และกำลังลาดตระเวนทางเท้าอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้บรรยากาศขณะนี้มีความตรึงเครียด

ทั้งนี้ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอธารโต มีกลุ่มชาวบ้านจาก กม.4 หมู่ที่ 2 ต.คีรีเขต อ.ธารโต กว่า 150 คน รวมตัว เพื่อเรียกร้องให้ทางราชการเอาความผิดกับ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.)บ้าน กม.4 ที่ใช้อาวุธปืนยิง นายมะดอยี กาเลาะ อายุ 16 ปี เสียชีวิต ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ที่บริเวณป้อมยาม ชรบ.เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีการแห่ศพตามถนนภายในตลาดธารโต ในระหว่างแห่ศพได้มีการทุบทำลายรถยนต์ของชาวบ้านที่วิ่งผ่านตลาดธารโต ได้รับความเสียหาย 1 คัน

นอกจากนี้ ยังได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าหลายนัด ก่อนที่จะนำศพไปเก็บไว้ที่มัสยิดบ้านธารโต ในเบื้องต้น นายสุรชัย วงศ์ศุภลักษณ์ นายอำเภอธารโต ได้รับข้อเสนอเพื่อนำเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ที่หน้าที่รับผิดชอบสั่งการต่อไป ส่วนผู้ที่ใช้อาวุธปืนในระหว่างการแห่ศพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธปืน เพื่อจะดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป

ด้านนายนพพร มาศคงมาก รักษาการผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 ได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนในสังกัด กว่า 100 คน ประชุมด่วน ที่ สำนักงานเขตตรวจราชการที่ 12 ยะลา อ.เมืองยะลา ซึ่งข้อสรุปที่ประชุม ให้หยุดการเรียนการสอนไปก่อนโดยไม่กำหนดยกเว้น อ.เบตง ก่อนที่ทางฝ่ายความมั่นคง จะให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยกับครู และวันที่ 24 พ.ย. ทาง ผู้บริหารขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดและ ผบ.ฉก.1 ที่ ห้องประชุม โรงเรียนสตรียะลาด้วย

ส่วนเมื่อวันที่ 22 พ.ย. มีเหตุการณ์ใกล้เคียงกัน โดยมีการรวมตัวของชาวบ้านหน้า สภ.อ.บันนังสตา กว่า 100 คน จากบ้านป่าหวังนอกและป่าหวังใน เพื่อเรียกร้องให้ทางราชการ ติดตามเอาตัวคนร้ายที่ใช้อาวุธสงครามยิงบ้านชาวบ้าน ที่บ้านป่าหวังนอก หมู่ที่ 11 ต.บันนังสตา จำนวน 4 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านจาก บ้านคอลอราแม บ้านอุเบง บ้านมาแบ หมู่ที่ 4 และบ้านกระป๋อง หมู่ที่ 3 ต.ปะแต อ.ยะหา จำนวน 200 คน มาชุมนุมปิดถนนสายยะหา - บันนังสตา เพื่อขอให้ย้ายทหารพรานออกจากพื้นที่ เนื่องจากเข้าใจว่าได้ก่อเหตุยิงชาวบ้าน ประกอบด้วย บ้านนายแวสะมะแอ กามาลอดิง เลขที่ 285 บ้านนายดือรอมะ วอนิ เลขที่ 176 บ้านนายมะ ดาหามิ เลขที่ 276/3 และบ้านที่กำลังก่อสร้างของนายแวนูเซ็ง ไม่ทราบนามสกุล ทำให้ นางฮาลีเมาะ แวดาลอ ภรรยาของ นายมะ ดาหามิ ได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ต้องส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา

อย่างไรก็ตาม นายนัฐกฤช สิทธิโอสถ นายอำเภอบันนังสตา และ พ.ต.อ.อนุรุต อิ่มอาบ ผกก.สภ.อ.บันนังสตา รับว่า จะดำเนินการสืบสวน ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ทำให้ชาวบ้านที่ร่วมชุมนุมยอมสลายตัวไปในเวลาต่อมา

นายมาหามะ โด อายุ 38 ปี ชรบ.ประจำหมู่บ้านป่าหวังนอก เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ได้ขับรถมาจากการเข้าเวรยามภายในหมู่บ้าน เพื่อเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากได้สับเปลี่ยนกำลังการทำหน้าที่ ขณะที่กำลังขับรถอยู่มีรถยนต์ไม่ทราบว่ายี่ห้อ ไล่หลัง และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ตนและบ้านชาวบ้านในลักษณะการกราดยิงโดยไม่ได้หยุดรถ

ส่วนที่จ.นราธิวาสก็มีการก่อเหตุต่อเนื่อง พร้องทิ้งใบปลิวแจงสาเหตุการกระทำ โดยที่บ้านเลขที่ 202 บ.สะโล ม.6 ต.เฉลิม อ.ระแงะ ซึ่งเป็นบ้านพักของนางแมะ แซ่ต่าย อายุ 78 ปี มีคนร้ายจำนวน 3-4 คนได้ใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงถล่มใส่บ้านพักจนต้องนอนหมอบราบอยู่ใต้เตียงนอนเพื่อหลบกระสุนปืนของคนร้ายที่กราดยิงใส่กว่า 10 นัด ส่งผลให้ข้าวของภายในบ้านได้รับความเสีย และก่อนที่จะพากันหลบหนีคนร้ายยังได้นำ ผ้าขี้ริ้วชุบน้ำมันวางไว้ที่บริเวณหน้าประตูหลังบ้านพร้อมจุดไฟเผาแล้วพากันหลบหนีไป

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกเกลื่อนพื้นหญ้าจำนวนหลายปลอก พร้อมใบปลิวอีก 1 ฉบับ มีข้อความโดยสรุปว่า "ขอโทษชาวไทยพุทธที่ต้องทำอย่างนี้ เนื่องจากรัฐบาลพูดโกหกว่าจะล้างบัญชีดำ แล้วทำไมต้องมีการจับอุสตาซที่บ้านกูตง ต.บองอ อ.ระแงะ ถึง 2 คน จึงต้องตอบโต้ที่รัฐบาลพูดโกหก" (รวมถึงการฆ่าเผาศพ 2 พ่อค้าส่งพลาสติกตามร้านชำ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาด้วย)

เรียบเรียงจาก:ผู้จัดการออนไลน์