ประชาไท - 23 พ.ย. 49 กลุ่มนิสิตจุฬา ค้านการนำจุฬาออกนอกระบบ โดยออกแถลงการณ์ ความว่า หลังจากที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)ได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา โดย คปค.และรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้บอกกับประชาชนว่า "จะเช็คบิลกับระบอบทักษิณ"

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณได้พยายามผลักดันให้มีการผ่านร่างพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อการแปรรูปมหาวิทยาลัย หรือเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบเพื่อให้บริหารงานแบบเอกชนมากขึ้น แต่ได้ถูกคัดค้านจากกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาและบุคลากรจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาโดยตลอด ส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ. นี้ไม่สามารถออกมาได้

แถลงการณ์ยังระบุอีกว่าการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบนั้น เป็นหลักการเดียวกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่พยายามนำกลไกตลาดมากำหนดชีวิตของคนธรรมดา ซึ่งสุดท้ายเป็นเพียงการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนต่างๆบนสันหลังของประชาชนธรรมดา สังเกตง่ายได้จากค่าเทอมที่สูงขึ้นทุกปี เช่น นิสิตสายสังคมศาสตร์ของจุฬาในระดับปริญญาตรีที่เข้าเรียนในปี 2547 เสียค่าเทอม 8,500 บาท แต่รุ่นต่อๆมาเสียค่าเทอมแพงขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คือ 12,000 บาท

สำหรับอาจารย์และบุคลากรของจุฬาฯที่เข้ามาใหม่จะไม่มีสถานภาพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีความมั่นคงในการทำงานอีกต่อไป ระบบใหม่คือ การทำสัญญาจ้างงานอาจารย์และพนักงานรายปีและจะไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเลยที่จะรับรองว่าชีวิตของพวกเขาจะมีความมั่นคงเมื่อออกจากงานไป

เมื่อ วันที่ 21 พ.ย. รัฐบาลสุรยุทธ์ได้ประกาศว่า กำลังจะนำมหาวิทยาลัย 3 แห่งคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโนยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยทักษิณ ออกนอกระบบก่อนที่จะตามมาด้วยมหาวิทยาลัยอื่นๆอีกกว่า 20 แห่ง ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนของนายทุนทั้งๆที่หน้าที่หลักของรัฐบาลหรือรัฐคือ การสร้างความเท่าเทียมและความกินดีอยู่ดีของประชาชนทุกคน ที่มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาควรมีสิทธิเรียนและได้รับสวัสดิการทางสังคมจากรับตั้งแต่เกิดจนตายโดยไม่มีขีดจำกัดใดๆ ไม่ว่าจะเกิดมาจนหรือรวย หรือเป็นเพศใดก็ตาม

สุดท้ายแถลงการณ์ได้มีการเชิญชวนนิสิตจุฬาฯและผู้ที่สนใจมาร่วมกันคัดค้านและขยายเรื่องราวการนำจุฬาฯและมหาวิทยาลัยอื่นๆออกนอกระบบเพื่อสร้างกระแสคัดค้านการเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบ

000

กลุ่มนิสิตจุฬาคัดค้านการนำจุฬาฯออกนอกระบบ

            หลังจากที่คณะปฏิรูปฯได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลนายทุนของทักษิณในวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา โดยคณะปฏิรูปฯ (คปค) และรัฐบาลสุรยุทธ์ได้บอกกับประชาชนว่า "จะเช็คบิลกับระบอบทักษิณ" และเราก็เห็นในหลายๆกรณีที่ดูเสมือนว่ารัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหารจะทำอย่างที่พูดจริง ในช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณอยู่ในอำนาจนั้นได้พยายามผลักดันให้มีการผ่านร่างพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพระราชบัญญัตินี้มีเป้าหมายเพื่อการแปรรูปมหาวิทยาลัย หรือ พูดง่ายๆคือเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบให้บริหารงานแบบเอกชนมากขึ้น แต่การผลักดันอันนี้ของรัฐบาลทักษิณได้ถูกคัดค้านจากกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะนักศึกษาและบุคลากรจากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศมาโดยตลอด ส่งผลให้ร่าง พรบ นี้ไม่สามารถคลอดออกมาได้ในยุคของทักษิณ

            การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบนั้น เป็นหลักการเดียวกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่พยายามนำกลไกตลาดเข้ามากำหนดชีวิตของคนธรรมดา คำว่ากลไกตลาดเสรีนั้นเอาเข้าจริงก็เป็นการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนต่างๆบนสันหลังของประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเรา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ค่าเทอมของรุ่นน้องเราแพงขึ้นกว่ารุ่นของเราเสมอ นิสิตสายสังคมศาสตร์ของจุฬาในระดับปริญญาตรีที่เข้าเรียนในปี 2547 เสียค่าเทอม 8,500 บาท แต่รุ่นต่อๆมาเสียค่าเทอมแพงขึ้นกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ คือ 12,000 บาทต่อเทอม ส่วนในระดับปริญญาโทและเอก ค่าเทอมของนิสิตรหัส 2547 อยู่ที่ 11,000 บาท และรุ่นต่อมาค่าเทอมสูงขึ้นถึง 16,500 บาท และในรุ่นต่อไปที่จะเข้าเรียนในรหัส 2550 ค่าเทอมของจุฬาจะสูงขึ้นถึง 19,000 บาท ส่วนอาจารย์และบุคลากรของจุฬาฯที่เข้ามาใหม่จะไม่มีสถานภาพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีความมั่นคงในการทำงานอีกต่อไป ระบบใหม่ที่รัฐบาลนายทุนพยายามนำเข้ามาก็คือ การทำสัญญาจ้างงานอาจารย์และพนักงานรายปีหรือรายสองปีแทนการจ้างงานตลอดชีวิตแบบระบบราชการ ที่มากกว่านั้นก็คือ "ลูกจ้างมหาวิทยาลัย" ซึ่งก็คืออาจารย์และเจ้าหน้าที่ของคณะต่างๆในระบบใหม่ที่กึ่งออกนอกระบบในปัจจุบันนั้นไม่ได้รับสวัสดิการอะไรเลยที่จะรับรองว่าชีวิตของพวกเขาจะมีความมั่นคงเมื่อออกจากงานไป

            สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศว่ากำลังจะนำมหาวิทยาลัย 3 แห่งคือ จุฬาฯ พระนครเหนือ และทักษิณ ออกนอกระบบก่อนที่จะตามมาด้วยมหาวิทยาลัยอื่นๆอีกกว่า 20 แห่งออกตามด้วย ทั่วไปที่ชนชั้นนายทุนในประเทศจะพยายามทำกับทุกๆมหาวิทยาลัยและรัฐวิสาหกิจทั่วโลก ก็คือ การแปรรูปและนำออกขายให้เอกชนหรือเหมือนเอกชนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพวกเขาจะมาลงทุนและยึดมหาวิทยาลัยและรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยการธุรกิจหน่วยหนึ่งเพื่อความร่ำรวยของพวกเขา ทั้งๆที่หน้าที่หลักของรัฐบาล หรือรัฐก็คือ การสร้างความเท่าเทียมและความกินดีอยู่ดีของประชาชนทุกคน ที่มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาควรมีสิทธิเรียนและได้รับสวัสดิการทางสังคมจากรับตั้งแต่เกิดจนตายโดยไม่มีขีดจำกัดใดๆ ไม่ว่าพวกเขาจะเกิดมาจนหรือรวย หรือเป็นเพศใดก็ตาม

ดังนั้นเราจึงขอเชิญชวนเพื่อนๆนิสิตจุฬาฯและผู้ที่สนใจร่วมกันคัดค้านและขยายเรื่องราวการนำจุฬาฯและมหาวิทยาลัยอื่นๆออกนอกระบบไปให้ทั่วมหาวิทยาลัยและสังคมภายนอกเพื่อสร้างกระแสคัดค้านและเอามหาวิทยาลัยของเราคืนมาให้เร็วที่สุด

ติดต่อ: 0866604010, 0895363551