Skip to main content
sharethis

ดร.พิจิตต รัตตกุล กรรมการอำนวยการมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามที่มูลนิธิฯได้ฟ้องกรมควบคุมมลพิษและขสมก.ต่อศาลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 ขณะนี้ศาลปกครองกลางวินิจฉัยได้ชี้ขาดว่า ขสมก.มีความผิดและมีคำสั่งให้ ขสมก. ดำเนินการตรวจสอบมลพิษจากรถยนต์ทั้งในส่วนของรถร่วม ขสมก. และรถร่วมบริการต้องส่งผลการตรวจสอบให้กับทางศาลทุก 3 เดือน ส่วนกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ศาลมีคำสั่งยกฟ้องละเว้นการปฎิบัติ


                        


คดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทางอากาศ ซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมให้เบาะแสกับทางมูลนิธิ โดยการถ่ายรูป และส่งข้อมูลทางจดหมายทำให้เป็นหลักฐานในการพิจารณารูปคดีของศาลปกครอง เมื่อหลายปีก่อน จึงทำให้ชนะคดีต่อขสมก. ในขั้นต้น


 


"เป้าหมายต่อไป คือ ต้องช่วยกันหาหลักฐานให้กับทางศาลเพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาตัดสินไม่ให้รถควันดำออกมาวิ่งบนถนนได้อีก รวมทั้งยกเลิกหรือยึดสัมปทานคืนจากรถร่วม ขสมก."


 


ดร.พิจิตตกล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานหลังจากนี้ทางมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจะดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รถควันดำหมดไป โดยต้องขอความร่วมมือกับประชาชนคอบเป็นหูเป็นตาด้วย ถ้าท่านใดพบเห็นรถยนต์ที่ปล่อยควันดำหรือแม้แต่เรือโดยสารในแม่น้ำ ให้ช่วยเขียนทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าวและวันเวลา สถานที่พบเจอและส่งรูปถ่าย ส่งมาที่มูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.10320 โทรศัพท์ 0-2-691-1571-4ต่อ 125 หรือโทรสารมาที่ 02-691-1570 เพื่อนำมาประกอบเป็นหลักฐานในการเอาผิดเจ้าของรถคันดังกล่าวให้หมดไปโดยเร็ว


 


"รถยนต์เหล่านี้ถือว่าเป็น เพชฌฆาตร้าย ทำร้ายสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน ทำให้คนกรุงฯเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจและภูมิแพ้ ซึ่งหากจะหวังแต่หน่วยงานมาจัดการปัญหาไปได้แต่โดยลำพัง ชีวิตของคนกรุง ก็จะเต็มไปด้วยคนเจ็บป่วยอมควันกันทั้งเมือง"ดร.พิจิตตกล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net