26 พ.ย. 2549 นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) เปิดเผยว่า ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 ในขณะนี้มี 11 กระทรวงที่ขานรับและมีประกาศกระทรวงและระเบียบว่าด้วยเงื่อนไขในการคุ้มครองส่งเสริมและสนับสนุนผู้สูงอายุ เช่น

กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้โรงพยาบาลต้องมีช่องทางสำหรับผู้สูงอายุแยกจากผู้รับบริการทั่วไปแผนกผู้ป่วยนอก กระทรวงแรงงานให้สำนักงานจัดหางานทุกแห่งจัดให้มีเจ้าหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและแนะนำข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงานและบริการจัดหางานให้ตรงตามความต้องการของผู้สูงอายุ

กระทรวงมหาดไทยประกาศให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โรงแรม มหรสพ สถานศึกษา โรงพยาบาล พิพิธภัณฑสถานของรัฐ สถานีขนส่ง จะต้องมีป้ายแสดงสิ่งอำนวยความสะดวก มีสัญลักษณ์ลิฟต์ ทางลาด ราวจับ สำหรับคนพิการและคนชรา เบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอสำหรับเลี้ยงชีพ ใน กทม.ช่วยเหลือเบี้ยยังชีพและผู้สูงอายุตลอดชีพเดือนละ 500 บาท ในต่างจังหวัด จังหวัดละ 300 บาท

นอกจากนี้ ในส่วนการอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทาง กระทรวงคมนาคมลดค่ารถไฟครึ่งราคา ระหว่างเดือน มิ.ย-ก.ย.ทุกปี และอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องเข้าแถวซื้อตั๋ว รถไฟฟ้าใต้ดิน ลดครึ่งราคา ระหว่างวันที่ 3 ก.ค.50-2 ก.ค.2551 รถขนส่งมวลชน รถธรรมดา และรถปรับอากาศ ลดร้อยละ 50 (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ระหว่างเวลา 09.30-15.00 น. การบินไทยลดร้อยละ 15 การบินกรุงเทพลดร้อยละ 15 ภูเก็ตแอร์ไลน์ลดร้อยละ 5 และรถ บขส. ลดราคาโดยสารครึ่งราคา (ไม่รวมค่าธรรมเนียม)

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยกเว้นค่าเข้าชมสถานที่จำนวน 257 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรมให้คำแนะนำ คำปรึกษาให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและประสานงานกับสภาทนายความในการจัดหาทนายความแก้ต่างคดี กระทรวงการคลังหักลดหย่อนสำหรับผู้อุปการะเลี้ยงดูบิดา มารดา โดยสามารถหักลดหย่อนรายได้ 30,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คน

ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์ (พม.) ได้จัดสถานที่และกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ การจดทะเบียนผู้สูงอายุที่มีความรู้ความสามารถเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น จดทะเบียนองค์กรผู้สูงอายุและหน่วยงานที่ทำงานด้านผู้สูงอายุ ประสานงานและสร้างเครือข่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการและผู้สูงอายุ การช่วยเหลือผู้สูงอายุซึ่งได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายซึ่งถูกทอดทิ้ง ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุในเบื้องต้นไม่เกิน 500 บาท เช่น ค่าพาหนะ ค่าอาหาร ค่าเครื่องนุ่งห่ม จัดสถานที่อุปการะในบ้านพักฉุกเฉินและสถานสงเคราะห์ นอกจากนี้ จะต้องจัดที่อยู่อาศัย อาหาร และเครื่องนุ่งห่มให้ตามจำเป็นอย่างทั่วถึง โดยช่วยเหลือเป็นเงินหรือสิ่งของไม่เกินครั้งละ 2,000 บาท และไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี และในกรณีเสียชีวิตยังช่วยเหลือเงินการจัดการศพตามประเพณีรายละ 2,000 บาทอีกด้วย