Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 28 พ.ย. 2549 คดีอดีตคนงาน 38 คนฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัท โรงงานทอผ้ากรุงเทพ จำกัด ฐานละเมิดทำให้ลูกจ้างป่วยเป็นโรคปอดอักเสบจากฝุ่นฝ้าย หรือบิสซิโนซิส เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 38 ซึ่งศาลแรงงานกลางได้พิพากษาให้โรงงานจ่ายค่าเสียหายคนป่วยเป็นรายๆ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 46 แต่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ โดยเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 49 ศาลฎีกามีคำสั่งให้ศาลแรงงานกลางสืบข้อเท็จจริงใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ นับแต่ยื่นฟ้องคดีจนถึงปัจจุบันซึ่งคดียังไม่สิ้นสุด รวมแล้วเป็นเวลา 11 ปี


 


เมื่อวันที่ 27 พ.ย. เวลาประมาณ 14.00น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 15 ศาลแรงงานกลาง นายเกษมสันต์ วิลาวรรณ ผู้พิพากษาอาวุโส นั่งบัลลังก์ สืบพยานจำเลย นายชูชีพ เกื้อกาญณ์ ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่สอง กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2536 โจทก์ได้ร้องต่อกองทุนเงินทดแทนเพื่อขอรับเงินทดแทน โดยแม้ว่ากองทุนเงินทดแทนจะวินิจฉัยว่าพวกเธอป่วยจากการทำงาน แต่จำเลยที่1 ก็ได้อุทธรณ์เนื่องจากเห็นว่าอนุกรรมการกองทุนฯ วินิจฉัยจากใบรับรองแพทย์ของคนงาน ไม่มีการส่งเวชระเบียน กองทุนฯ ทำหนังสือถึงคนงานและโรงพยาบาลให้ส่งเวชระเบียน ซึ่งตามปกติต้องส่ง แต่ปรากฏว่า กองทุนฯ จ่ายให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากคำสั่งของรัฐมนตรีในขณะนั้น


 


สำหรับการป้องกันระวังความเจ็บป่วยของพนักงานในโรงงาน นายชูชีพ กล่าวว่า ทุกปีโรงงานจะให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี เช่น เอ็กซเรย์ปอด โดยจ้างให้สถานพยาบาลภายนอกเข้ามาตรวจ จากนั้นจะแจ้งผลไปยังจำเลยที่ 1 ให้ทราบว่า มีพนักงานคนใดผิดปกติตรงไหน จากนั้นบริษัทจะนำส่งตรวจโดยละเอียดและรักษาที่โรงพยาบาลโรคทรวงอกด้วย ทั้งนี้ บริษัทจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด


 


ส่วนมาตรฐานของผ้าปิดจมูกนั้น ไม่พบว่ามีประกาศที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ผ้าปิดจมูกต้องมีลักษณะอย่างไร ทั้งนี้จำเลยที่ 1 ได้ทำบันทึกไว้ว่า โจทก์คนที่ยังทำงานอยู่กับบริษัท ยังทำงานตามปกติอยู่ในตำแหน่งหน้าที่เดิม  


 


ทั้งนี้ เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพโรงงานทอผ้ากรุงเทพ จากเอกสารระบุว่า สหภาพฯ ได้เคยเรียกร้องขอเพิ่มจำนวนผ้าปิดจมูกจากเดิมปีละ 12 ผืนเป็นปีละ 24 ผืน โดยเขาให้การว่า สามารถนำซากผ้าปิดจมูกมาเปลี่ยนผืนใหม่ได้


 


เมื่อวันที่ 7 ต.ค.37 มีการประชุมระหว่างสหภาพฯกับฝ่ายนายจ้าง เขาเองได้เข้าประชุมด้วยในฝ่ายนายจ้าง เมื่อพบว่าเครื่องแบบพนักงานยังได้ไม่ครบ ฝ่ายจัดการได้ชี้แจงว่า ต้องรอผ้าปิดจมูกเนื่องจากอาจยังไม่มีผ้าตามสเปคที่สั่งไป 20 ม.ค.38 มีการประชุมอีกครั้ง เมื่อฝ่ายสหภาพทวงถามเรื่องผ้าปิดจมูก ฝ่ายจัดการก็ชี้แจงว่า ขอเวลาตรวจสอบกับฝ่ายจัดซื้อก่อนว่าได้ของที่สั่งมาหรือยัง


 


ทั้งนี้ จำเลยเคยร้องเรียนไปยังสภาอุตสาหกรรมทอผ้าไทยให้ตรวจสอบการรักษาของพญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ส่งเรื่องต่อไปยังแพทยสภาโดยได้รับคำตอบกลับมาว่า พญ.อรพรรณ์ ได้รักษาถูกต้องตามวิธีการของแพทย์แล้ว และอนุกรรมการการแพทย์ กองทุนฯ ก็ได้ตัดสินตามคำวินิจฉัยว่าคนงานป่วยจริง


 


ในปี 36 เจ้าหน้าที่จากกองตรวจความปลอดภัยแรงงานเข้าตรวจโรงงานและแจ้งว่าต้องแก้ไข โดยเมื่อเขาได้สอบถามถึงมาตรฐานของผ้าปิดจมูกก็ได้คำตอบว่ายังไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนเอาไว้ให้บริษัทพิจารณาตามความเหมาะสม


 


ในระเบียบระบุให้หัวหน้างานมีหน้าที่ดูแลพนักงานให้สวมเครื่องป้องกัน กรณีที่พนักงานไม่ทำตาม หัวหน้ามักจะว่ากล่าวตักเตือน ด้วยความเมตตา โดยยึดหลักแรงงานสัมพันธ์ หากพนักงานไม่ฟังก็จะใช้เรื่องนี้ประกอบดุลพินิจในการประเมินงาน


 


สำหรับผ้าปิดจมูกนั้น ได้มีการพัฒนารูปแบบตลอด โดยมีการปรึกษากับสหภาพฯ ส่งให้พนักงานทดลองใส่ อาทิ ผ้าปิดจมูกแบบมีเครื่องกรองด้วยถ่านคาร์บอน ลักษณะคล้ายจมูกหมู ซึ่งพนักงานลงความเห็นว่าไม่ชอบ ปัจจุบันผ้าปิดจมูกเป็นผ้า 2 ชิ้น มีฟิลเตอร์คั่นกลาง และมีลวดเพื่อปรับให้เข้ากับใบหน้า และเนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดกำหนดมาตรฐานไว้จึงทดลองด้วยการอัดแป้งโรยตัวเพื่อทดสอบว่าจะผ่านผ้าปิดจมูกหรือไม่ ทั้งนี้จะแจกให้พนักงานคนละ 12 ผืนต่อปี โดยแจกครั้งละ 6 ผืน และให้นำซากผ้าปิดจมูกมาเปลี่ยนผืนใหม่ได้เนื่องจากเป็นอุปกรณ์การทำงาน โดยหลังปี 45 ก็ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานของผ้าปิดจมูกเฉพาะจึงพัฒนารูปแบบเอง


 


อนึ่ง ศาลนัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 13.00น. ที่ศาลแรงงานกลาง กรุงเทพฯ


 


 


 


 


อ่านข่าวย้อนหลัง


 


อดีตคนงาน "ฝุ่นฝ้าย" ปัดคำท้านายจ้างให้ตรวจใหม่ เผยหมอยันเป็นโรค แต่กลัวขึ้นศาล


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5888&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


 


ผู้ป่วยโรคฝุ่นฝ้ายชี้ 11 ปีผ่านไปยังไม่ได้รับการคุ้มครองสุขภาพ


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5648&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


 


สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ ร้องรมว.ยุติธรรม-แรงงาน ยื่นมือช่วยคดีฝุ่นฝ้ายที่ยืดเยื้อนาน 11 ปี


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=5777&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net