ประชาไท - 28 พ.ย.2549 ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงพลังงานจะเสนอให้ยกเลิกมาตรการกำหนดเวลาปิดสถานีบริการเชื้อเพลิงในเวลา 22.00 น. โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป หลังจากประเมินแล้วพบว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยลดการใช้น้ำมันของประชาชน

ในทางตรงกันข้าม รายงานของกระทรวงพลังงานพบว่า ปัจจัยโดยตรงที่ทำให้ประชาชนลดการใช้น้ำมันคือเรื่องของ "ราคาน้ำมัน" เห็นได้จากการที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2547จนถึงปี 2549 ซึ่งหลังจากเลิกตรึงราคาน้ำมัน ทำให้ยอดใช้น้ำมันเบนซินลดลงถึงร้อยละ 9 ต่อปี ส่วนน้ำมันดีเซลที่ยังตรึงราคาอยู่ มียอดใช้เพิ่มขึ้นต่อปีถึงร้อยละ 10 จนเมื่อมีการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลในปี 2548 ทำให้ยอดใช้ลดลงร้อยละ 9 ในปีที่ผ่านมา และปีนี้ลดลงอีกร้อยละ 8

ดร.ปิยสวัสดิ์สรุปว่า การใช้น้ำมันที่ลดลง ไม่ได้เกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปิดปั๊ม เพราะประชาชนหันไปเติมน้ำมันเวลาอื่นแทน และมาตรการดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำงานกลางคืนด้วย รวมถึงพนักงานปั๊มก็ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเวลาทำงานลดลง

ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอแผนประหยัดพลังงานต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยจะเน้นไปที่การลดใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมแทน ทั้งโรงงาน อาคาร และที่อยู่อาศัย จะมุ่งเน้นมาตรการที่สามารถประหยัดและลดใช้พลังงานได้จริง โดยเฉพาะการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่จะไม่เน้นมาตรการประหยัดพลังงานที่ต้องนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ หรือจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ยังไม่เหมาะสมกับประเทศไทย และมาตรการเสริมที่จะดำเนินการต่อไปคือการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งคาดว่าจะรับซื้อได้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมนี้