Skip to main content
sharethis

3 ธ.ค. 49 ผู้จัดการรายวัย รายงานถ้อยแถลงของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย( ครป.) ที่แถลงถึงการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ว่า หากดูสถานการณ์ทั่วไปเห็นว่ายังไม่สุกงอมที่จะชุมนุมประท้วงในวันที่ 10 ธ.ค. แม้คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่ก็ยังอยากเห็นรัฐบาลเร่งพิสูจน์ผลงาน นอกจากนี้การชุมนุมปรากฏว่าแกนนำบางคนไปโยงกับกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ทำให้มวลชนแคลงใจในตัวผู้นำชุมนุม ทำให้ที่ผ่านมาจึงมีผู้ร่วมชุมนุมไม่มาก ตนจึงเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่จะมีคนเป็นหมื่นในการชุมนุมวันที่ 10 ธ.ค. แต่ถ้ามีมากจริงก็เป็นเรื่องผิดปกติแน่ ว่ามีน้ำเลี้ยงหรือแรงหนุนจากอำนาจเก่าเข้ามาผสมโรงหรือไม่


 


ทั้งนี้ ขอสนับสนุนแนวคิด คมช.ที่จะเรียกแกนนำกลุ่มที่เคลื่อนไหวไปพบ แต่คงห้ามกลุ่มต่างๆ ยุติการชุมนุมไม่ได้ ตราบใดที่แนวทางการชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ คมช.ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่ละเอียดอ่อนไม่ควรใช้ความรุนแรง


 


"อย่าลืมว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้สลับซับซ้อนกว่าที่คิด ซึ่งอาจมีกำลังจัดตั้งเข้ามาแทรกและปูทางให้มีการเตรียมผสมโรงของกลุ่มเสียประโยชน์จากระบอบทักษิณตลอดเวลา ฉะนั้นถ้า คมช. ใช้ความรุนแรงอาจเข้าทางคนบางกลุ่ม และอยากฝากไปถึงแกนนำของแต่ละกลุ่มด้วยว่าจะต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เพราะการนัดหมายชุมนุมทำได้ง่าย แต่การดูแลรับผิดชอบผู้ชุมนุมเป็นเรื่องยาก และหลักการชุมนุมไม่มีอะไรสำคัญกว่าการรักษาชีวิตของผู้เข้าร่วมชุมนุม แกนนำจะต้องระมัดระวังและมีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่ดี"


 


ส่วนกรณีข่าวการแฉจากแกนนำเครือข่ายประชาชนที่สนับสนุนระบอบทักษิณว่า มีการจ้างประชาชนโดยได้รับการสนับสนุนจากแกนนำ และอดีตรัฐมนตรีหลายคนในพรรคไทยรักไทย ให้จัดตั้งกลุ่มมวลชนเพื่อป่วนเวทีพันธมิตรฯและปิดล้อมสำนักงานหนังสือพิมพ์คมชัดลึกและผู้จัดการนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า สะท้อนให้เห็นอันตรายอีกด้านหนึ่งของระบอบทักษิณและบริวารที่พยายามจัดตั้งกองกำลังมวลชนในหลายๆ พื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์การเผชิญหน้ากับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด คมช.จะต้องนำข้อมูลหรือพยานหลักฐานมาเปิดเผยด้วยว่าใครมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร เพราะประชาชนผู้บริสุทธิ์ อาจตกเป็นแพะในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้


 


อย่างไรก็ตามคมช.จะต้องจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองกำลังจัดตั้งเหล่านี้เป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ขยายตัวหรือออกมาสร้างสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ ครป.ขอเรียกร้องให้ แกนนำพรรคไทยรักไทยและอดีตรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมและแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม จนเป็นที่มาของการรัฐประหาร


 


"ที่ผ่านมาพิสูจน์ชัดว่าพรรคไทยรักไทยเล่นบทตีบทสองหน้า หรือปากว่าตาขยิบ โดยบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับคลื่นใต้น้ำแต่ในขณะเดียวกันแกนนำบางคนก็ทยอยส่งน้ำเลี้ยงตลอดเวลา"นายสุริยะใสกล่าว


 


นอกจากนี้นายสุริยะใส ถึงการร่างรัฐธรรมนูญของคมช. ว่า หาก ครป. และพันธมิตรฯ พบว่าจะมีการสืบทอดอำนาจ พันธมิตรฯ ครป. และองค์กรภาคประชาชนจะเสนอให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 ขึ้นมาปรับปรุงแก้ไขในบางมาตราที่มีปัญหาและให้นำกลับขึ้นมาใช้แทนรัฐธรรมนูญฉบับ คมช.ที่จะมีการร่างขึ้น ซึ่งขณะนี้ในส่วนของภาคประชาชนได้มีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของสมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง (สปป.) ขณะนี้ได้มีการระดมการทำงานและจะประชุมใหญ่ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญทุกกลุ่มเข้าหารือกันว่าจะมีส่วนร่วมในการยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไร


 


 "ขณะนี้คมช.แบกรับภาระและแรงต้านจาก 2 ส่วน คือภาคประชาชนและอำนาจเก่าที่ไม่เห็นด้วยกับ คมช. ซึ่งหาก คมช.ทำไม่ดี แรงต้านนั้นจะย้อนกลับมาหาตัวเอง โดยแรงต้านครั้งนี้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นตัวเดิมพัน ดังนั้น คมช.ควรเร่งฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยให้กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว" นายสุริยะใสกล่าว


 


นายสุริยใส กล่าวว่า ในสัดส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 10 คน ให้อำนาจ คมช.เป็นผู้เลือกนั้น อยากฝากไปถึง คมช.ว่าต้องเลือกให้สัดส่วนของภาคประชาชน อย่างน้อย 1 ใน 3 และควรให้นักวิชาการที่ได้รับความเชื่อถือ และยอมรับจากภาคสังคมเข้าร่วมในคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ด้วย ไม่ใช่ให้เนติบริกรเข้ามาเหมือนทุกๆ ครั้งที่มีการเลือก


 


………………………………….


ที่มา : ผู้จัดการรายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net