ประชาไท - 6 ธ.ค.2549 นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในนาม "กลุ่มนิสิตนักศึกษาต้านการแปรรูปมหาวิทยาลัย" เกือบ 200 คน เดินขบวนไปรอบมหาวิทยาลัยเพื่อเรียกร้องให้ถอนร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (มหาวิทยาลัยนอกระบบ) ที่กำลังผ่านการพิจารณาของสมาชิกสภานิติบัญญํติแห่งชาติ(สนช.) ในวันที่ 6 ธ.ค. ออกไปอย่างไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้ ในการเคลื่อนไหวคัดค้านดังกล่าว กลุ่มนิสิตจุฬาฯ ได้เริ่มรวมตัวตั้งแต่เวลาประมาณ 9.30 น. มีนิสิตคณะรัฐศาสตร์เป็นแกนนำ โดยมีการปิดการเรียนการสอนในวิชาการเมืองการปกครองเพื่อให้นิสิตมาร่วมขบวนคัดค้านโดยเฉพาะ ระหว่างการเคลื่อนขบวนกลุ่มนิสิตได้ตะโกนคำว่า "หยุดเรียน หยุดสอน หยุด ม.นอกระบบ" เป็นระยะตลอดเส้นทางที่ผ่าน
อย่างไรก็ตาม หลังเดินขบวนผ่านคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ไม่นาน มีรถอาจารย์จุฬาฯ คนหนึ่งติดสติ๊กเกอร์ คำว่า NGV ขับออกมาแต่ติดขบวนจึงบีบแตรเร่งให้พ้นทางหลายครั้ง เมื่อไม่ทันใจจึงออกรถโดยไม่สนใจทำให้นิสิตคนหนึ่งหลบไม่ทัน รถได้ทับเฉียดลงไปที่บริเวณนิ้วโป้งเท้ามีอาการบวมเขียวแต่ไม่ถึงกับกระดูกหัก อาจารย์ดังกล่าวทราบชื่อภายหลังว่า ผศ.ดร.
หลังจากนั้นเวลา 12.00 น. ขบวนคัดค้านมหาวิทยาลัยนอกระบบได้เคลื่อนไปปักหลักหน้าสำนักอธิการบดี
นาย
รศ.
รศ.ใจ ยังกล่าวชื่นชมว่านักศึกษาตื่นตัวเข้าใจประเด็น ปกป้องมาตรฐานการเรียนการสอนและประชาธิปไตย จากนั้นกล่าวว่าก่อนหน้านี้รองอธิการบดีท่านหนึ่งได้โกหกสื่อว่าได้ทำประชาพิจารณ์และคนส่วนใหญ่ในจุฬาเห็นด้วยแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงทำให้ต้องรีบแอบไปทำเรื่องเอามหาวิทยาลัยออกนอกระบบให้เสร็จกับรัฐบาลเผด็จการ
ด้าน ศ.ดร.
วันเดียวกันที่หน้ารัฐสภา กลุ่มนักศึกษาในนามแนวร่วมคัดค้านมหาวิทยาลัยออกนอกระบบประมาณ 200คน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย นาย
นายภาคิไนย์ กล่าวว่า เมื่อมหาวิทยาลัยออกนอกระบบจะไม่มีหลักประกันในการศึกษา โดยเฉพาะคนยากคนจนจะไม่มีโอกาสในการศึกษาเพราะค่าใช้จ่ายจะแพงขึ้น ซึ่งถือเป็นการทำลายระบบการศึกษาไทยในระยะยาว สำหรับที่มหาวิทยาลัยบูรพามีการต่อสู้มาอย่างยาวนานถูกผู้บริหารหักหลัง เพราะผู้บริหารนำร่างเดิมที่ยังไม่มีการแก้ไขขึ้นเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ
"ที่ผู้บริหารพยายามผลักดันให้มหาวิทยาลัยออกนอกระบบเป็นเพราะผลประโยชน์ ขณะนี้ผู้บริหารได้ร่างระเบียบขึ้นเงินเดือนของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว โดยอธิการบดีมีเงินเดือนสูงสุดถึง 2.5 แสนบาท รองอธิการบดี 2 แสนบาท ขณะที่ผู้ช่วยอธิการบดี รองคณะบดี หรือเทียบเท่าหัวหน้าภาควิชาจะมีเงินเดือนถึง 1 แสนบาท และทุกตำแหน่งจะได้รับโบนัส 3 เท่าของเงินเดือน พวกผมพยายามหาเอกสารบันทึกการประชุมในเรื่องนี้แต่ถูกปกปิดมาตลอด นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าถ้ามหาวิทยาลัยออกนอกระบบแล้วผู้บริหารจะทำอะไรก็ได้ เหมือนมีมหาวิทยาลัยเป็นของตัวเอง" นายภาคิไนย์ กล่าว
ตัวแทนจาก ม.บูรพา คนหนึ่งกล่าวว่า ที่มาคัดค้านในวันนี้ไม่ใช่คัดค้านเรื่อง ม.ออกนอกระบบ แต่เป็น เพราะร่าง พ.ร.บ.นี้ยังไม่เรียบร้อย ต้องการให้มีการทำประชาพิจารณ์ใหม่โดยให้ประชาคม ม.บูรพารับรู้ทุกคน หากออกนอกระบบแล้วค่าเทอมคาดว่าน่าจะสูงขึ้นมากเพราะรัฐจะค่อยๆตัดงบประมาณแล้ว ม.บูรพาก็เป็นเพียงม.ท้องถิ่นเล็ก จะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่เก็บจากนิสิต นอกจากนี้ในประเด็นการสรรหาอธิการและสภาอาจารย์ก็มีลักษณะไม่เป็นธรรม อีกทั้งยังเป็นการสืบทอดอำนาจ เช่น หากอายุเกิน 60 ปี ก็ยังสามารถเป็นผู้บริหารได้
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มนักศึกษาได้ทำการเผาหุ่นนาย
นอกจากนี้ หลังจากนิสิต ม.บูรพา กลับจากการชุมนุม มีรายงานมาว่าอาจารย์ท่านหนึ่งได้ทำการแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับนิสิต ซึ่งเมื่อนิสิตกลุ่มดังกล่าวกลับถึงมหาวิทยาลัยก็พบตำรวจมาสอบถามว่าไปไหนมา ไปทำอะไร ซึ่งนักศึกษาระบุว่า แม้จะไม่มีการดำเนินคดีแต่ก็เกิดผลกดดันทางจิตใจมาก