ประชาไท -7 ธ.ค.49 วันที่ 6 ธ.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ที่จะประชุมในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค.นี้ ว่าคณะกรรมการฯ จะหารือเรื่องการกระจายอำนาจไปสู่ระดับกองบัญชาการภาคให้มีความชัดเจนมากขึ้น ว่ามีความประสงค์จะให้การกระจายอำนาจมีลักษณะรูปแบบใด รวมไปถึงความสำคัญของกองบัญชาการภาค กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบัญชาการอื่นที่ไม่ได้เป็นรูปแบบตำรวจภาคจะมีรูปแบบอย่างไรบ้างจึงจะเหมาะสม

ประเด็นที่สอง คือการพัฒนาบุคลากรและคัดเลือกบุคคลเข้ามาเป็นตำรวจ นอกจากนี้ก็มีเรื่องขององค์กรตรวจสอบคณะกรรมการตำรวจ (ก.ตร.)ระดับชาติ คณะกรรมการตำรวจระดับภาค และกรรมการตำรวจระดับจังหวัดหรือโรงพัก จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และต้องเชื่อมโยงกับคณะกรรมการรับเรื่องร้องทุกข์อิสระในแต่ละระดับด้วย

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า จะรายงานตรงต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีภายใน 2 เดือน ตามกรอบได้กำหนดมา ในขณะนี้มีความคืบหน้าชัดเจนในเรื่องของกระบวนการทำงาน มีอนุกรรมการที่ตั้งไปแล้วทั้งหมด 4 ชุด แต่จะเพิ่มอนุกรรมการด้านวิชาการและประสานงานอีก 1 ชุด ในการประชุมวันศุกร์นี้ที่ประชุม คณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ จะเสนอตั้งประธาน ทีมงานและเลขานุการของอนุกรรมการทั้ง 5 ชุด โดยในที่ประชุมจะแจ้งให้รับทราบว่าได้แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ จะมีการหยิบยกเรื่องตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจรถไฟ ตำรวจป่าไม้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาพูดคุยในที่ประชุมด้วย โดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปผูกพันกับแนวทางที่ได้เคยทำมาแล้ว และคงจะดูว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและภารกิจที่เป็นอยู่ควรจะอยู่ตรงไหน

"รูปแบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บางมุมเป็นเรื่องกฎหมาย เรื่องสัญชาติ และจะดำเนินการอย่างไรในปัญหาเรื่องสิทธิของคนที่มีสัญชาติต่างๆ และเรื่ององค์กรอาชญากรรมโดยเฉพาะการค้าผู้หญิงและเด็กจะมีบางส่วนเกี่ยวข้องจะขึ้นอยู่กับมุมมองและเรื่องการให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในประเทศไทย โดยทั้งหมดจะมีมิติในส่วนกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มองในด้านความมั่นคงจะเป็นเรื่องตำรวจ มันขึ้นอยู่กับมุมมองและสถานการณ์รวมทั้งภาพลักษณ์ต่างๆ ซึ่งต้องดูความเห็นที่หลากหลาย โดยการตัดสินใจจะดูพื้นฐานของข้อมูลเป็นหลัก" นายกิตติพงษ์ กล่าว