Skip to main content
sharethis


ภาพจาก : AP Photo/Apichart Weerawong


 


 


ประชาไท - หลังวันนี้(19 ธ.ค.49) หุ้นในตลาดหุ้นตกดิ่งเหวเป็นประวัติการณ์ ร่วงกราวร้อยกว่าจุด อันเป็นผลจากมาตรการสกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ทำให้เมื่อเวลาประมาณ 20.00 . ที่ผ่านมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะผ่อนผันมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ธปท.ออกมาประกาศ


 


สืบเนื่องจากภาวะค่าเงินบาทแข็งตัว ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงวางมาตรการป้องกันนักลงทุนระยะสั้นที่จะเข้ามาเก็งกำไรเงินบาท โดยการออกมาตรการ 'สกัดเก็งกำไรค่าเงินบาท' เพื่อป้องกั้นเงินทุนนำเข้าระยะสั้น


 


โดย ธปท.ได้กำหนดให้สถาบันการเงินที่รับซื้อหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ต้องกันสำรองร้อยละ 30 ของเงินตราต่างประเทศที่นำเข้ามาแลกเป็นเงินบาท ยกเว้นเงินตราต่างประเทศที่ได้รับจากค่าสินค้าและบริการ หรือเงินที่บุคคลหรือนิติบุคคลไทยได้รับจากการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งธุรกรรมเงินตราต่างประเทศที่สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามสัญญาการรับซื้อ หรือแลกเปลี่ยนเงินบาท ที่ได้ตกลงไว้ก่อนวันที่ 18 ธ.ค. โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าลูกค้าจะสามารถขอเงินที่กันไว้ร้อยละ 30 คืนได้ก็ต่อเมื่อเงินที่นำเข้ามาลงทุนนั้นต้องอยู่ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 1 ปี หากลูกค้านำเงินลงทุนกลับคืนก่อนครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินคืนในส่วนที่กันไว้คืนเพียง 2 ใน 3 เท่านั้น ซึ่งก็เท่ากับว่าถูกหักร้อยละ 10 ของเงินที่นำเข้ามา


 


นั่นคือ จากนี้ไป (ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.) สกุลเงินต่างชาติที่ถูกขายเพื่อนำมาซื้อบาทโดยไม่เกี่ยวข้องกับการค้า-บริการ จะต้องนำมาฝากไว้กับ ธปท. เป็นจำนวน 30 % ระยะเวลา 1 ปีโดยไม่ได้รับดอกเบี้ย และนักลงทุนจะต้องสูญเสีย 1/3 ของเงินจำนวนดังกล่าว ถ้าหากนักลงทุนโอนเงินกลับประเทศก่อนครบ 1 ปี


 


นอกจากนี้ ธปท.ยังยกเลิกเพดานวงเงินในบัญชีผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ(นอนเรสซิเดนท์)  จากเดิมกำหนดไว้ต่างชาติฝากได้ไม่เกิน 300 ล้านบาท/วัน/ราย ให้เพิ่มขึ้นได้ไม่จำกัดวงเงิน หรืออาจจะหาที่พักเงินให้กับนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติมจากปัจจุบัน


 


 


เปิดซิง ใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์เป็นครั้งแรก นับแต่ก่อตั้งกลต. มา 31 ปี


หลังธปท.ออกมาตรการดังกล่าว ทำให้ดัชนีหุ้นไทยในวันนี้ ลดลงต่ำเกินกว่าร้อยละ 10 ของดัชนีปิดในวันก่อนหน้า จนทำให้กลต.ต้องใช้มาตรการเซอร์กิต เบรคเกอร์ ทำการปิดตลาดชั่วคราวเพื่อหยุดการซื้อขายทั้งหมดเป็นเวลา 30 นาที ตั้งแต่เวลา 11.29 - 11.59 .


 


เมื่อปิดการซื้อขายในวันนี้ ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ ปิดที่ 622.14 ลดลง 108.41 จุด หรือลดลงร้อยละ 14.84 จากวันก่อนหน้า เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เปิดการซื้อขาย นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาก ถึง 25,124 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 72,131.19 ล้านบาท


 


 


นักลงทุนเสียขวัญ ตลาดหุ้นไทยวุ่นวาย


จากความเสียหายที่ดัชนีลดลงร้อยกว่าจุด เพราะนักลงทุนต่างชาติเทขายค่อนข้างมาก เนื่องจากมาตรการของ ธปท.สร้างความไม่เข้าใจไม่มั่นใจในกระบวนการ และสร้างความไม่มั่นใจว่าจะใช้ในนโยบายเช่นนี้นานเท่าใด เพราะในเบื้องต้น ธปท.ยังไม่ได้แจ้งระยะเวลาใช้มาตรการ แม้หวังสกัดนักลงทุนระยะสั้น แต่ก็มีผลให้นักลงทุนระยะยาวไม่อาจแน่ใจได้ว่าเงินยังเข้าออกได้อย่างเสรี


 


นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวอ้างถึงประเทศอาร์เจนตินาเมื่อปี 1991 ว่าก็เคยใช้มาตรการดังกล่าวนี้แล้วได้ผล ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยคาดหวังว่า มาตรการในครั้งนี้จะทำให้โครงสร้า้งการลงทุนเปลี่ยนจากระยะสั้น มาเป็นระยะยาว


 


"นโยบายล่าสุดยืนยันว่ารัฐบาลไทยที่มาจากการแต่งตั้งของทหาร ไม่เข้าใจแรงขับเคลื่อนการเติบโต" นายคริสโตเฟอร์ วูด นักยุทธศาสตร กล่าวผ่านเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ


 


ด้านเงินบาทวันนี้ ปิดตลาดที่ 35 บาท 85-95 สตางค์ ต่อ ดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาด 35 บาท 84-88  สตางค์ต่อดอลลาร์


 


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานการวิเคราะห์ของ 'สำนักข่าวดาวโจนส์' และ 'นายเกรก  แอนเดอร์สัน นักยุทธศาสตร์ค่าเงินของเอบีเอ็น แอมโร' ซึ่งมองตรงกันว่า เงินบาทคงอ่อนตัวลงเล็กน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ 2-3 วันนี้  ซึ่งเป็นผลจากปฏิกิริยาเฉพาะหน้าเท่านั้น


 


ส่วนผลที่ได้จากมาตรการของ ธปท. ที่เห็นได้ชัดคือ การสกัดกั้นเงินทุนที่จะไหลเข้าประเทศ


 


 


กลับใจ ถอนนโยบาย


ผลจากมาตรการดังกล่าว ทำให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปั่นป่วนตลอดทั้งวัน โดย มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันในตอนแรกว่า มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซง


 


"ผลที่มีในขณะนี้คาดเดาไว้แล้วว่า(ตลาดหุ้น)คงจะลงเยอะพอสมควร แต่รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง เพราะให้ทุกอย่างปรับตัวตามธรรมชาติ ผมว่าไม่น่าห่วง อะไรที่ปรับตัวเร็ว เดี๋ยวก็ขึ้นมาเอง เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจค่อนข้างดี ลองดูไปจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ อีก 2-3 วัน เดี๋ยวก็ขึ้นมาเอง" ...ปรีดิยาธร กล่าว


 


จนเมื่อเวลา 20.00 . ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (...)  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)  และตัวแทนจากโบรกเกอร์ต่าง ๆ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง  ...ปรีดิยาธร ออกมาเผยว่า รัฐบาลจะผ่อนผันมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ ธปท. ประกาศออกมาให้กันสำรองการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 30% ไว้ 1 ปี โดยจะยกเว้นไม่ต้องหักการสำรองไว้ 30% เงินทุนไหลเข้าที่เป็นเงินลงทุนโดยตรงและเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ


 


เขากล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่เคยใช้ได้ผลในต่างประเทศมาแล้ว  การที่ประเทศไทยนำมาตรการจากต่างประเทศเข้ามาใช้โดยไม่ศึกษาให้ดีก่อน จนส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นให้ดัชนีลดลงอย่างรุนแรงกว่า 108 จุดที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนที่สำคัญครั้งหนึ่ง


 


ในส่วนเงินที่ลงทุนในตราสารหนี้ ยังคงต้องกันสำรองการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 30% ไว้ 1 ปีเหมือนเดิม


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net