Skip to main content
sharethis



 


 


 



 



 


เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยชาวบ้านลานหอยเสียบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา คณะแพทย์จากโครงการการพัฒนาหลักสูตรด้านทักษะวัฒนธรรมของสหสาขาวิชาชีพในประเทศไทยกว่า 40 คน ได้เดินทางมาพบกลุ่มคัดค้านโครงการท่อก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อรับฟังข้อมูลจากชาวบ้านเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านสิ่งแวดล้อม และศึกษาวิถีชีวิตชุมชน


 


นายสุไลมาน หมัดยูโส๊ะ กล่าวว่า กว่าเก้าปีแล้วที่ชาวบ้านพยายามสื่อสารต่อคนข้างนอกว่า โครงการนี้มีความไม่ชอบธรรมหลายอย่าง การที่มีบุคคลภายนอกเข้ามารับฟังปัญหาเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้รับรู้ข้อมูลจากชาวบ้านโดยตรง ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ก็คือ การออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนสภาพที่ดินสาธารณะประโยชน์ เพื่อนำที่ดินไปสร้างโรงแยกก๊าซ ทั้งๆ ที่ที่ดินแปลงนี้เป็นเป็นที่ดินวะกัฟ เป็นที่ดินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ ตามหลักศาสนาอิสลามไม่สามารถนำไปยกให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ คณะแพทย์ได้เห็นเองแล้วว่า โรงแยกก๊าซบุกรุกที่ดินวะกัฟ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะมาก่อน จากนั้นรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาออกพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนสภาพฯ ภายหลัง


 


นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ติดตามข่าวสารข้อมูลของโครงการฯ มาตลอด เพราะเป็นหมอซึ่งอยู่ในพื้นที่ ถือเป็นโอกาสดีที่มีแพทย์จากหลายๆ พื้นที่เข้ามารับฟังปัญหาของชาวบ้านโดยตรง คณะแพทย์ที่มาต้องการศึกษาวิถีชุมชน ที่ถูกอำนาจทุนละเมิดสิทธิชุมชนท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนกับชาวบ้านครั้งนี้ก ทำให้เห็นว่าชาวบ้านต่อสู้เพื่อรักษาวิถีมุสลิม


 


นายแพทย์สุภัทร กล่าวต่อไปว่า ได้ประสานงานกับโครงการโรงแยกก๊าซฯ ขอเข้าไปฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการฯ ตอนแรกโครงการฯตอบรับเป็นอย่างดี แต่ก่อนหน้านี้ 2 วัน กลับตอบปฎิเสธไม่ยอมให้เข้าไปดูงานภายในโครงการฯ อ้างว่าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ทางคณะแพทย์ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ไปบรรยายที่โรงพยาบาลจะนะ แต่ก็ยังคงได้รับการปฎิเสธ เป็นที่น่าเสียดายที่บริษัททรานส์ไทย - มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับคณะแพทย์ที่ตั้งใจจะมาเรียนรู้


 


ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะแพทย์ได้แบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกออกพบปะพุดคุยกับชาวบ้าน ในหมู่บ้านรอบโครงการ เพื่อสอบถามถึงผลกระทบหลังจากก่อสร้างโครงการฯ มากว่า 2 ปี อีกชุดเดินทางไปดูพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าสงขลา ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซีย


 


เมื่อคณะเดินทางไปถึงจุดก่อสร้างโรงไฟฟ้าสงขลาพบว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ถมคลองรุกล้ำเข้าไปในลำคลองอีก 4 เมตร ทำให้น้ำในลำคลองเอ่อล้นเจิ่งนองรอบบริเวณก่อสร้าง โดยมีน้ำท่วมขังบางจุด นอกจากนี้ ยังพบปั่นจั่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมคลอง เตรียกตอกเสาเข็มก่อสร้างอาคารดึงน้ำจากในคลองไปใช้หล่อเย็นในโรงไฟฟ้า สำหรับจุดก่อสร้างโรงไฟฟ้าสงขลา เป็นพื้นที่แก้มลิง สำหรับรับน้ำของอำเภอจะนะ


 


นายประกอบ หลำโส๊ะ ชาวบ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจมากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำลายสิ่งแวดล้อมและกำลังจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านป่างาม และชาวบ้านอำเภอจะนะ เพราะปกติเวลาฤดูน้ำหลาก บ้านป่างามน้ำท่วมสูงสุดเกือบ 3 - 4 เมตร เมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถมแก้มลิงธรรมชาติ จะทำให้น้ำท่วมแน่นอน ตนกังวลว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้น และท่วมขังยาวนานขึ้น จากการทำลายแหล่งรับน้ำ


 


นายประกอบ กล่าวต่อไปว่า ตนเองไม่คิดว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะถมคลองออไปอีก เพราะเพิ่งมีการร้องเรียนให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงมาตรวจสอบเมื่อเร็วๆ นี้ ตนและชาวบ้านขอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านโดยด่วน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net