Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 24 ธ.ค. 2549 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และ ประธาน คมช. ได้เดินทางไปยังกองกำลังผาเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล และรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานจาก พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมทั้งมอบผ้าห่มกันหนาวให้กับประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจาก 22 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่


 



พล.อ.สนธิ ได้กล่าวกับประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง 24 คน ว่าที่ผ่านมาการทำงานระหว่างกองทัพกับประชาชนอาจจะห่างกันอันเนื่องมาจากกระบวนการของการทำงาน แต่ในตอนนี้กองทัพมีนโยบายให้ทหารกับประชาชนใกล้ชิดกันมาขึ้นเพราะประชาชนเป็นเจ้าของกองทัพ ทหารกับประชานเป็นพี่น้องกัน ที่ผ่านมาถูกแบ่งแยกระหว่างทหารกับประชาชน หลังจากนี้ไปเขาไม่อยากให้มีการแบ่งแยกกันอีก ต่อจากนี้ไปทหารกับประชาชนจะเป็นหนึ่งเดียว


 



พล.อ.สนธิ กล่าวว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นพลังที่บริสุทธิ์ที่มีหน้าที่ปกครองลูกบ้าน ด้วยความเป็นธรรม แต่ที่ผ่านมากำนันผู้ใหญ่บ้านมีระยะเวลาการทำงานเพียง 5 ปี ซึ่งถือว่าน้อย และทำให้ขาดความต่อเนื่องในการทำงาน ขณะเดียวกันในการหาเสียงเพื่อเข้ามาทำงานยังสู้ อบต. หรือ อบจ. ไม่ได้ เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านซื้อด้วยใจ แต่ อบต. อบจ. มีพลังอย่างอื่นในการหาเสียง ที่ผ่านมาได้คุยกับกระทรวงมหาดไทยสองสามครั้งถึงความเป็นไปได้ที่จะขยายเวลา การทำงานให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านจากเดิม 5 ปี ให้เป็น 10 ปี เพื่อให้การทำงานมีความต่อเนื่อง  ซึ่งเรื่องนี้จะให้รัฐบาลตัดสินใจ


 



พล.อ.สนธิ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะกับผู้นำหมู่บ้าน อยากให้ระบอบประชาธิปไตยเดินไปข้างหน้า สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าถูกทำลายความเป็นชาติ ก็จะไม่ครบถ้วน ทุกวันนี้ท่านไม่รู้หรอกว่ามีคนทำลายศาสนาและทำลายสถาบัน คนพวกนี้มีความเป็นไทยน้อยมาก พวกท่าน (กำนันผู้ใหญ่บ้าน) จะช่วยแก้ปัญหาได้ และขอขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ขอให้ชาวเชียงใหม่ช่วยกันรักษาชาติ ต่อจากนี้ไป ทหารจะเป็นเครื่องมือของประชาชนและจะเป็นกำลังเสริมให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านหากต้องการสิ่งใดให้ร้องขอมาได้


 



พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้ทหารในพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ปัญหาต่างๆ ทั้งยาเสพติด คนต่างด้าว และปัญหาต่างๆ หมดไป และที่สำคัญข้อมูลต่างๆ ก็จะกลับมา ส่วนแนวคิดการยืดวาระการดำรง ตำแหน่งของกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เป็นการรื้อระบบการปกครองท้องถิ่นแต่เมื่อเห็นปัญหาก็ต้องว่ากันไปเพื่อให้การทำงานดีขึ้น นอกจากนี้จะเสนอให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าไปมีส่วนร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมากขึ้นเพื่อความเป็นเอกภาพของการทำงาน


 



นักวิชาการชี้ ต่ออายุกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน "สะสมกำลัง"


ด้านนายธเนศ เจริญเมือง อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ประธาน คมช. ต้องการผลักดันให้กำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ในตำแหน่งนานกว่าเดิม เพื่อทำงานสนองความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชนอย่างแท้จริง ว่า ที่ผ่านมาการปกครองส่วนท้องถิ่นของไทยมีปัญหาความทับซ้อนกันในพื้นที่ ระหว่างกำนันผู้ใหญ่บ้าน กับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ซึ่งปัญหานั้นมาจากความไม่เอาไหนของนักการเมืองที่เมื่อตั้งอบต.ขึ้นมาแล้วไม่ยกเลิกระบบกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่เก็บเอาไว้เป็นฐานเสียง เป็นพลังทางการเมือง หรือเป็นฐานอิทธิพลเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ ขณะที่กระทรวงมหาดไทยก็ไม่มีความจริงใจในการกระจายอำนาจปล่อยให้ระบบกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวถ่วงดุลไม่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแข็งเกินไป


 



นายธเนศ กล่าวด้วยว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านกับอบต.หลายแห่งก็ขัดแย้งกันเองในพื้นที่แต่ละฝ่ายปัดความรับผิดชอบทำให้ประชาชนหมดที่พึ่ง เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหามลพิษจากการเผาขยะเมื่ออบต.เรียกประชุม ปรากฎว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านไปบอกประชาชนไม่ให้ไปประชุม หรือการแจกผ้าห่มให้ชาวบ้าน ตนถามว่ามันหายไปไหนกันหมดทั้งๆที่มีการบริจาคกันมากมาย และผ้าห่มก็แจกทุกปีแต่วันนี้หลายจังหวัดยังขาดผ้าห่มเป็นแสนๆ มันเป็นไปได้อย่างไรมีการคอร์รัปชั่นกันหรือไม่


 



"แนวคิดของพล.อ.สนธิ ที่ต่ออายุให้กำนันผู้ใหญ่นั้นไม่ต่างกับวิธีคิดของนักการเมืองที่ต้องการสะสมกำลังหาพรรคพวกเป็นฐานให้ตัวเอง ที่ผ่านมานักการเมืองมักใช้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพล บางแห่งคอยรับซื้อที่ดินให้นักการเมือง หรือบางแห่งกำนันผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่เป็นหัวคะแนน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งนักการเมืองก็เอาเงินไปให้แสนสองแสนให้เอาชาวบ้านไปเลือก เพราะอย่างนี้ฝ่ายการเมืองถึงไม่ยอมยกเลิกระบบนี้ทั้งที่สร้างปัญหามากมาย วันนี้เราไม่มีนักการเมือง และมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วเหตุใดกลับจะเดินซ้ำรอยเดิมอีก นอกจากจะไม่ยกเลิกแล้วยังเพิ่มเงินให้สายสะพายไปกันใหญ่อีก ควรจะใช้โอกาสนี้ยกเลิกระบบกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยให้การบริหารอยู่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ชัดเจนเสียที"


 


อย่างไรก็ตาม เขาเสนอว่า การยกเลิกระบบกำนันผู้ใหญ่บ้านนั้นสามารถดำเนินการโดยประนีประนอมกันได้ไม่จำเป็นต้องทำแบบกะทันหัน จนคนที่เคยมีตำแหน่งตกใจ อาจจะวางเป้าหมายระยะยาวภายใน 3 หรือ 5 ปี แล้วค่อยๆ ลดลงจนยกเลิกได้สำเร็จ


 


 


...............................


เรียบเรียงจาก: http://www.komchadluek.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net