Skip to main content
sharethis

ประชาไทภาคเหนือ รายงาน


 


ตามที่มีข่าวเกิดเหตุมีผู้ปาประทัดยักษ์ใส่มัสยิดช้างคลาน ซ.13 ถ.เจริญประเทศ อ.เมือง จ.เชียงใหม่เมื่อเวลา 9.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายนาซิส อาฮัดหมัด อายุ 34 ปี ชาวพม่าซึ่งเป็นภารโรงมัสยิดนั้น (อ่านข่าวประชาไทย้อนหลังที่นี่)


 


จากการสำรวจบริเวณโดยรอบพบว่าประทัดยักษ์ที่เกิดระเบิดขึ้นบริเวณทางเข้ามัสยิดนั้น สะเก็ดระเบิดได้สร้างความเสียหายทั่วบริเวณมัสยิดเกือบ 30 จุด บางส่วนทะลุหลังคาบริเวณที่จอดรถในมัสยิด และสะเก็ดระเบิดบางส่วนสร้างความเสียหายให้กับป้ายพลาสติกของอาคารที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตร


 



จุดที่เกิดการระเบิด โดยแรงระเบิดทำให้สะเก็ดระเบิดกระจายเป็นบริเวณกว้าง


 



สะเก็ดระเบิดพุ่งทะลุหลังคาบริเวณลานจอดรถในมัสยิด


 



สะเก็ดระเบิดสร้างความเสียหายให้กับแผ่นป้ายบริเวณอาคารภายในมัสยิดช้างคลาน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิดบริเวณประตูทางเข้ากว่า 10 เมตร


 



จากจุดที่สะเก็ดระเบิดพุ่งไปถึงบริเวณอาคาร เมื่อหันไปกลับยังประตูหน้ามัสยิด (จุดที่มีชายในชุดคลุมดะวะห์) จะพบว่าจุดที่เกิดสะเก็ดระเบิดอยู่ไกลจากจุดระเบิดมาก นอกจากนี้บริเวณรอบๆ มัสยิดก็มีสะเก็ดระเบิดกระจัดกระจาย ซึ่งหากเกิดระเบิดในช่วงที่มีผู้ประกอบศาสนกิจจำนวนมาก คงจะเกิดความสูญเสียที่คาดไม่ถึง


 


 


ล่าสุดในวันนี้ (2 ม.ค.) พล.ต.ต.บรรฑป สุคนธมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นภายในมัสยิดช้างคลานว่าได้มีการสอบสวนโดยใช้ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์จากที่เกิดเหตุมาประกอบ โดยนายนาซิส อาฮัดหมัด ชาวพม่าที่ดูแลมัสยิดซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บได้ให้การแล้วว่าเก็บระเบิดดังกล่าวได้จากนอกมัสยิดแล้วนำเข้ามาภายในแต่เกิดหลุดมือตกจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้บาดเจ็บที่นิ้วเท้าและขาต้องเข้าโรงพยาบาล


 


สำหรับการสอบสวนครั้งแรกหลังจากเกิดเหตุนายนาซิสยังให้การไม่ชัดเจน โดยอ้างว่ามีคนโยนระเบิดเข้ามา แต่หลังจากให้การยอมรับครั้งล่าสุดทำให้ตำรวจทราบถึงที่มาของระเบิดซึ่งจะเป็นกุญแจที่จะนำไปสู่ประเด็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้



 


ส่วนนายนาซิสเบื้องต้นจะไม่ถูกแจ้งข้อหาแต่จะถูกกันเป็นพยาน ขณะที่ฝ่ายสืบสวนจะต้องสืบหาสาเหตุให้ปราศจากข้อสงสัย ไม่อย่างนั้นแล้วอาจมีคนโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนา เหตุไม่สงบในภาคใต้ รวมถึงคลื่นใต้น้ำได้ พล.ต.ต.บรรฑปกล่าว



 


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ยังกล่าวอีกว่า ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่สงบหลายอย่างได้เกิดขึ้นในภาคใต้ต่อเนื่องถึงกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่และถือเป็นเป้าหมายหนึ่ง จึงต้องรักษาสภาพไว้ให้ได้ พร้อมกันนี้ยังมีมาตรการป้องกันมือที่สามเพื่อระวังการเข้าใจผิดให้มากขึ้น



 


โดยในเช้าวันนี้ (2 ม.ค.) พ.ต.อ.มนตรี สัมปุนณานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และคณะนำตัวนาซิส อาฮัดหมัด ชาวพม่า ไปทำแผนที่มัสยิดช้างคลานท่ามกลางสื่อมวลชน


 


ทั้งนี้จากการตรวจสอบโดยละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญทั้งตำรวจและทหารพบว่า รัศมีระเบิดดังกล่าวพุ่งไปในรัศมีเท่ากัน จึงคาดว่าจะต้องตกในลักษณะแนวดิ่ง ซึ่งในพื้นที่เกิดเหตุนั้นมีคานประตูมัสยิดกั้นอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้ขว้างจากด้านนอก  


 


เมื่อตำรวจสอบปากคำอย่างหนักทำให้นายนาซิสยอมรับสารภาพว่าเก็บระเบิดดังกล่าวได้จากบริเวณใกล้ๆ กันแล้วทำหลุดมือจนเกิดระเบิด แต่เกรงกลัวความผิดจึงได้โกหกตำรวจว่ามีวัยรุ่นขว้างระเบิดดังกล่าวเข้ามาด้านในมัสยิด ซึ่งตรงกับข้อมูลของตำรวจที่ว่าวันเกิดเหตุได้มีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันสถานบันเทิงย่านหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ซึ่งอาจจะขับรถผ่านแล้วขว้างระเบิดดังกล่าวซึ่งประดิษฐ์เองใส่คู่กรณีแล้วระเบิดไม่ทำงาน จนกระทั่งนายนาซิสเก็บได้ดังกล่าว


 


รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนเพราะเชียงใหม่เป็นเมืองสงบสุขมาช้านาน ชาวพุทธ ชาวมุสลิมและพี่น้องต่างศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น


 


นอกจากนี้ ในวันนี้ (2 ม.ค.) ยังมีรายงานพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในเชียงใหม่หลายจุด โดยเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.คืนที่ผ่านมานายสมนึก ฟองรัตน์ พนักงานเก็บขยะที่ถนนบริเวณทางเข้าโรงภาพยนตร์มหานคร ใกล้ตลาดสิริวัฒนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบกล่องต้องสงสัยห่อเหมือนห่อของขวัญบรรจุในถุงสีดำภายในพบวัตถุเป็นแท่งยาว 2 แท่ง คล้ายระเบิดไดนาไมต์ต่อสายไฟกับนาฬิกาปลุก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรตำบลช้างเผือก พร้อมหน่วยเก็บกู้ซากระเบิดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33


 


หลังจากเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายวัตถุดังกล่าวออกมาจากที่เกิดเหตุเพราะเป็นแหล่งชุมชน และนำมายิงทำลายที่สนามยิงปืนหนองฮ่อและทำการยิงทำลาย จากการเข้าไปตรวจสอบไม่พบดินระเบิดอยู่ข้างใน เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นกลุ่มของผู้สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง


 


และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้พบวัตถุต้องสงสัยที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ จากการเข้าไปตรวจสอบกล่องดังกล่าวอยู่ในกระเป๋าสีดำ ข้างในบรรจุอาหารแห้ง และอาหารทะเล ซึ่งคาดว่าผู้โดยสารจะลืมทิ้งไว้ก่อนขึ้นรถและยังไม่มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ


 


นอกจากนี้สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ได้มีผู้โดยสารลืมกระเป๋าทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งตำรวจและทหารมาตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของผู้โดยสารที่ลืมทิ้งไว้ และสามารถตามตัวเจ้าของกระเป๋าดังกล่าวได้ในที่สุด


 


ข่าวประชาไทย้อนหลัง


ด่วน! มือดีปาประทัดยักษ์ใส่มัสยิดกลางเชียงใหม่ บึ้มเจ็บ1, 1 มกราคม 2550

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net