Skip to main content
sharethis

ประชาไท -3  ม.ค. 50 เมื่อวันที่27 ธ.ค.49 เวลาประมาณ 13.00 น. แหล่งข่าวแจ้งว่า กลุ่มทุนบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ขอสัมปทานแหล่งแร่โปแตช จ.อุดรธานีต่อจากรายเดิม คือบริษัทเอเซีย แปซิกฟิก โปแตชคอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอพีพีซี) และปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตรเพื่อประกอบการทำเหมือง ได้เข้าพบกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ พล.ท.สุเจตน์  วัฒนสุข  แม่ทัพภาคที่ 2 ที่อาคารสภาผู้แทนราษฎร 2 รัฐสภา กทม.


 


ทั้งนี้ บริษัทอิตาเลี่ยนไทยได้ชี้แจงถึงข้อมูลการทำเหมืองแร่โปแตชและผลประโยชน์ที่จะได้รับ รวมทั้งสภาพปัญหาในพื้นที่โครงการฯ ที่มีกลุ่มสนับสนุนและมีกลุ่มคัดค้านอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ดีในการพูดคุยได้มีการเสนอเพื่อขอให้ "ล็อค"การเคลื่อนไหวของชาวบ้านโดยเฉพาะนางมณี บุญรอด ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญของกลุ่มคัดค้าน เพื่อให้การทำงานมวลชนสัมพันธ์ในพื้นที่โครงการฯ ของบริษัทฯ เดินหน้าและสะดวก ราบรื่นมากยิ่งขึ้น


                          


ในขณะเดียวกันนางมณี  บุญรอด  รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เมื่อทราบข่าวก็ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ไม่ได้มีความหวาดหวั่นต่อการเข้าไปพบแม่ทัพภาคที่ 2 ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย แต่อย่างใด เนื่องจากว่าที่ผ่านมาชาวบ้านต่อสู้บนพื้นฐานของเหตุผล และข้อมูลมาโดยตลอด จนบริษัทเดิมต้องขายหุ้นทิ้งหนีไปให้บริษัทฯ ใหม่นี้ และในช่วงเวลานั้นก็มีข่าวการ "สั่งเก็บ" พร้อมกับการข่มขู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่สิ่งที่เสียใจก็คือทหารกลับไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้เลย


 


"เมื่อเวลาผ่านมายังไม่ถึง 1 เดือนรองแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ลงพื้นที่มาเพื่อรับฟังสภาพปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ กิ่งอ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี รวมทั้งกรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช ด้วย ดิฉันก็ได้เป็นตัวแทนชาวบ้านชี้แจงให้กับรองแม่ทัพภาคฟังในทุกประเด็นปัญหา และก็มีความตั้งใจจริงว่าทหารคงจะต้องการทำความเข้าใจสภาพมวลชนในพื้นที่โครงการฯ เพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสมานฉันท์ แต่เมื่อทราบข่าวดังนี้ดิฉันก็รู้สึกเสียใจที่ทหารเข้าข้างกลุ่มทุนไม่สามารถเป็นที่พึ่งสำหรับประชาชนได้" 


 


นางมณียังกล่าวต่ออีกว่า "ขอเรียกร้องให้แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกับสาธารณชนให้เข้าใจอย่างกระจ่างชัดว่า คำว่าล็อค ชาวบ้านนั้น คืออะไร ในสถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ก็ขอความชัดเจนด้วย และขอเรียกร้องไปยังบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ขอให้ออกมาสู่ที่แจ้งนำข้อมูลข้อเท็จจริงมาต่อสู้กัน ให้คนทั่วไปได้ตัดสินถึงความชอบธรรมกับการจะเกิดเหมืองในชุมชนเป็นเวลา 50-100 ปี คนอุดรรับได้หรือยัง" นางมณีกล่าว


 


ด้านนายสุวิทย์  กุหลาบวงศ์  ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี  เปิดเผยว่า  "อยากจะทวงถามถึงความชอบธรรมของทหารในการปฏิวัติว่ามีความมุ่งมั่นที่จะเข้ามาเพื่อจัดระเบียบสังคมใหม่ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ หรือว่าเข้ามาเพื่อจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มทุนให้ลงตัวกัน แต่อย่างไรก็ดีสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันที่กำลังเปราะบางอยู่นี้จึงอยากขอเตือนไปยัง คมช. และรัฐบาลว่า ระวังกรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานีหากมีเหตุการณ์ย่างหนึ่งอย่างใดเกิดขึ้น จะเป็นปัญหาบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้ภาคประชาชนลุกฮือขึ้นมาขับไล่ทหารได้"  


 


ส่วนนายสมภพ  บุญนาค  พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภาคอีสาน  กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับ คมช.และรัฐบาลที่ต้องรีบทำก็คือ 4 ประเด็นที่ได้ประกาศเอาไว้ในตอนปฏิวัติ ยึดอำนาจ จากอดีตนายกฯ ทักษิณ ขณะเดียวกันเห็นว่าสิ่งที่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คมช.และรัฐบาลก็ต้องเอาใจใส่ด้วยเช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่ามีการตั้งคณะทำงานต่างๆ ขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น ปปช.หรือ คตส. เพื่อจะล้างระบอบทักษิณ แต่ยังพบว่าคนในระบอบทักษิณ หรือกลุ่มอำนาจเก่าก็ยังวนเวียนอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญๆ ทั้งนี้ นั่นหมายถึงเนื้อร้ายที่ คมช.และรัฐบาลต้องรีบกำจัดอย่างเด็ดขาด อย่ามัวแต่สร้างภาพไปวันๆ ซึ่งคนทั่วไปจะมองได้ว่า คมช.และรัฐบาลกำลังสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มทุน


 


"ในส่วนของการเข้าไปพบแม่ทัพภาคที่ 2 ของกลุ่มทุนอิตาเลี่ยนไทย ผู้ขอสัมปทานทำเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานีนั้น ทหารต้องตอบประชาชนเพื่อให้มีความชัดเจน เพราะประเด็นปัญหากรณีโครงการเหมืองแร่โปแตชได้เกี่ยวพันมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณแล้ว และทั้งนี้ผมเห็นว่าใครก็ตามที่คิดจะทำ ถือได้ว่าเป็นการทำบาปต่อแผ่นดินโดยแท้" นายสมภพกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net