ประชาไท - เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 05 ที่ห้องประชุมใหญ่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทางคณะรัฐศาสตร์และรัฐศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้จัดเสวนาในหัวข้อ "ก้าวต่อไปการเมืองไทยจะเดินหนาหรือถอยหลัง" โดยในเวทีดังกล่าว พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีต ส.ว.เชียงใหม่ได้ร่วมเสวนาโดยได้มีการวิพากษ์การเมืองวิพากษ์ คมช.ว่าทำให้ประเทศไทยเกิดภาวะชะงักงันในขณะนี้

พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีต ส.ว.เชียงใหม่ กล่าวในเวทีตอนหนึ่งว่า ที่ทหารเข้าทำรัฐประหาร มีการยึดอำนาจขึ้นมาก็เพราะทหารเข้ามาขับไล่ประชานิยม การต้มตุ๋นทางการเมือง แต่ถ้าถามว่าปีนี้การเมืองไทยเราจะไปทางไหน เราจะเห็นได้ว่า ทหารอาชีพจะถูกทำลาย ในการก้าวข้ามกระโดดออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีทหารที่อยากเข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติด้วย ทีนี้มันก็เกิดปัญหาขึ้น คือ พอยึดอำนาจได้แล้ว มันก็มีการขัดกัน ทั้งในตัวของ คมช.เอง ทหารกลุ่มหนึ่งก็อยากเป็น The visible man เป็นสุภาพบุรุษ ผมไม่เอาแล้ว พอยึดได้แล้ว ก็ถอยออกมา แต่ทหารอีกกลุ่มหนึ่ง ก็อยากสนองตอบการปฏิรูปไปให้ถึงที่สุดเลย อยากแก้ไข พอแก้ไขก็เกิดภาวะชะงักงันในขณะนี้

พล.ต.อินทรัตน์ ชี้ให้เห็นถึงภาวะชะงักงันจากการรัฐประหารในครั้งนี้ด้วยว่า 1. พอมีการยึดอำนาจเมื่อ 19 ก.ย.ทหารไม่ได้เตรียมการปกครองอะไรเลย ไม่รู้จะร่างคำประกาศคณะปฏิรูปยังไง จะร่างคำแถลงการณ์ยังไง และก็ไม่ได้มีการเตรียมการปกครองเป็นปีเลย ออกมายึดอำนาจได้แล้วแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ

2.ทหารเลือกวิธีผลักภาระให้คน 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ รัฐบาลขิงแก่ และอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ พวกกลไกตรวจสอบอีกกลุ่มหนึ่ง ก็ถือเป็นมืออาชีพ แต่เป็นมืออาชีพสมัยก่อน เอามือเข้าหีบไปแล้วก็ดึงมาใหม่ ซึ่งจะมืออาชีพเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่รู้

3.เกิดช่องโหว่ให้อำนาจเก่าตีกัน มีกลุ่มอำนาจเก่า คอยป่วนการเมือง ยั่วยุ หวังจะทำให้ทหารเอาไม่อยู่ ปกครองประเทศไม่ได้ เกิดคลื่นอยู่ตลอดเวลา

4.การขัดกันเองของทหาร โดยใช้อำนาจเก่าที่มีบารมีอยู่ ก็เอามาทำงานเพื่อต่อสู้กับ คมช. ต่อสู้กับรัฐบาลในขณะนี้

5.มีเสรีชนกลุ่มหนึ่ง ที่เห็นว่า การยึดอำนาจไม่ดี เป็นเผด็จการ ต้องเดินขบวน ปราศรัย โจมตีด่ารัฐบาล ว่าจะต้องเป็นประชาธิปไตย แต่อย่างไรก็ตาม หาก คมช.หรือรัฐบาล เร่งทำตามสัญญาโดยเร็ว เชื่อว่ากระแสนี้น่าจะเบาบางลง

7. กลุ่มพรรคการเมืองเก่าจะถูกบีบ เช่น การจะถูกยุบพรรค กลุ่มนี้ก็จะเริ่มเคลื่อนกำลังอัดกันเข้าไป ซึ่งยังคงมีพลังสั่นสะเทือนทั้งแผ่นน้ำ แผ่นฟ้า ในส่วนฝ่ายทหารที่ครองอำนาจในขณะนี้ ก็จะพยายามป้องกันอย่างเต็มที่ ซึ่งมีทั้งพลังและมีกองกำลัง

"แต่อย่างไรก็ตาม ทหารจะต้องเตรียมลงบันได กลับกรมกอง จะลงหลังเสืออย่างไร นี่คือปัญหาที่คิดหนัก กลับไปแล้วจะโดนเช็คบิลไหม นอนไม่หลับแน่ นี่คือสิ่งที่พวก คมช.คิดกัน ฉะนั้น ปีนี้จึงเป็นปีที่ทางทหารจะต้องมีการแช่แข็งอำนาจเก่าเอาไว้ให้ได้ อาจจะมีพระราชกำหนด หรือกฏหมายอะไรใหม่ๆ ออกมา อาจมีการเพิ่มอำนาจ ปปง. ประกอบกับการที่จะเข้าไปฟาดฟันนอมินี"

พล.ต.อินทรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า แต่มันจะกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของชาติ จนเป็นที่มาของกระแสข่าวว่าจะมีการปรับ ครม.แต่เมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว ถามว่าประชาชนมีความรักและผูกพัน หรือใส่ใจกับผลงานของ ครม.หรือไม่ ขอตอบว่า ไม่ แต่ชอบผู้นำ ฉะนั้นเชื่อว่าภายใน ม.ค.นี้ จะมีการปรับ ครม.ซึ่งจะปรับอย่างไรนั้น ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร