กลุ่มปัญหา

สถานการณ์ที่ถูกคุกคาม

กรณีปัญหาที่ดิน

จังหวัดนครสวรรค์

• 
  

  ทหารไม่ได้ไปหาชาวบ้านโดยตรง แต่ออกไปหาประธานสภา อบต.ไปถามหาชาวบ้านว่าใครเป็นผู้นำ ถามหาบ้านว่าอยู่ตรงไหน สั่งให้ชาวบ้านที่เคลื่อนไหวกับสมัชชาคนจนหยุดการเคลื่อนไหว ถ้าไม่เชื่อฟังพวกนี้จะไม่เหลืออะไรเลย ทหารที่ลงไปพื้นที่อ้างชื่อสพรั่ง ว่าสพรั่งกลับมาแล้วรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

  
  
• 
  

  ชาวบ้านกลัวทหารมากไม่กล้าออกมาร่วมกิจกรรม

  
  
• 
  

  เจ้าหน้าที่อำเภอตามถึงบ้าน ตรวจสอบว่าใครจะอยู่หรือไม่อยู่ไปไหน เมื่อมีประชุมก็จะเข้าไปร่วมตลอดเวลา

  
  
• 
  

  ชาวบ้านวิตกกังวล ไม่กล้าตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่

กรณีทีดิน ดอนฮังเกลือ

มีสายทหารเข้าไปสอดส่อง ทั้งชาวบ้านและแกนนำที่บ้านเกือบทุกวัน

กรณีที่ดินหนองเยาะ

มีข่าวลือเรื่องเผาโรงเรียน ต้องให้พ่อแม่ไปเฝ้าโรงเรียน

กรณีป่าดงมะไฟ

ปลัดโทรหาแกนนำ ขอร้องไม่ให้มีการเคลื่อนไหวในรัฐบาลนี้ เพราะรัฐบาลต้องการความสงบ

กรณีที่ดินอ.ตราพระยา

มีทหารเข้าไปตามถึงตัวถึงบ้าน

หนองน้ำขุ่น

มีคนแปลกหน้า สายนักการเมืองเข้าไปสอดแนมผู้นำ ข่มขู่ บอกว่าจะเอาที่ดินคืน ชาวบ้าน ทำให้กลัว

อบต.ประชุม แล้วเรียกให้ชาวบ้านกาฬสินธุ์ ประกาศจะเอาที่ดินคืน ถ้าชาวบ้านเดือดร้อนก็ขอให้ชาวบ้านไปลงทะเบียนคนจน

ปัญหาทีดินโนนหนองลาด

สันติบาลตามขอร้องไม่ให้มีการเคลื่อนไหว เป็นตัวแทนทหารได้รับคำสั่งจากเบื้องบน ไม่ข่มขู่ แต่ขอร้อง ไม่ให้เคลื่อนไหว ภายใน ห้าหกเดือน สัปดาห์ละ ๑ ครั้ง

เทือกเขาบรรทัด

ชาวบ้านโดนรุกจากเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่อุทยาน เช่น การทำลายทรัพย์สิน ตัดต้นยางของชาวบ้าน นอกจากนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังมีการข่มขู่ คุกคาม จับกุมและรีดไถชาวบ้านอีกด้วย

ตอนนี้มีการทำลายต้นยาง(ตัด)ของชาวบ้านโดยเจ้าหน้าที่อุทยาน

กรณีปัญหาเขื่อนปากมูน

ในเขตอำเภอพิบูลย์ มีเจ้าหน้าที่จากรัฐ สันติบาล เข้ามาเช็คข้อมูลและความเคลื่อนไหวต่างๆของแกนนำชาวบ้านตลอดเวลาทั้งมาที่บ้านและใช้วิธีการโทรศัพท์ตรวจสอบความเคลื่อนไหว ถ้าแกนนำจะมีการเดินทางออกนอกพื้นที่ เจ้าหน้าที่รัฐก็จะเข้ามาถามว่าจะเตรียมกระเป๋าไปไหน เป็นต้น

มีคนอ้างว่าเป็นทหารในพระราชสำนักขับจักรยานยนต์ตระเวนหาแกนนำและชาวบ้านที่บ้าน พูดจาก้าวร้าวด่าว่าแกนนำคนอื่นๆ ให้ชาวบ้านฟัง และเสนอให้หยุดการเคลื่อนไหวเรื่องเขื่อนปากมูนมีการติดตาม และคุกคามแกนนำ ข่มขู่ คนในครอบครัวว่าคนที่ไปกับสมัชชาคนจนมีชื่ออยู่ในบัญชีดำแล้ว ระวังตัวให้ดี ชาวบ้านได้ยินว่าจะมีคนที่ออกปฏิบัติการลักษณะนี้หมู่บ้านละสามคน บางครั้งใช้คนแปลกหน้าเข้าไปคุยกับชาวบ้าน สมัชชาคนจน บางครั้งมีการด่าชาวบ้าน

กรณีเขื่อนราษีไศล

มีตำรวจเข้าคุกคามชาวบ้าน ติดตามทั้งทหารและตำรวจ แกนนำแบบติดแน่น ตามตลอด แต่ สมัชชาคนจนยังคงทำงานอยู่

เข้าไปเจรจากับกรมชลประทาน เมื่อเช้า ผลคือ กรมชลไม่ได้มีการทำงานต่อเลยหลังจากการยึดอำนาจ ระดับพื้นที่ ไม่มีการเรียกประชุม

มีคนเข้ามาถามหา ติดตามเรื่องการเคลื่อนไหว กับแกนนำ เขาบอกว่าตามมาโดยตลอดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว จากคำสั่งของเจ้านาย (ไม่ได้ข่มขู่)

จากนั้นมีทหารสังกัดสุรินทร์(ไพลิน อังคะบุตร) มาติดตามการเคลื่อนไหว เกี่ยวกับการไล่นายกฯ และการตรวจสอบเรื่องคลื่นใต้น้ำ ต่อจากนั้นก็เจอกันเรื่อย เมื่อมีการสัมมนาก็ติดตามอยู่เสมอ ชาวบ้านยืนยันว่าให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน

ตำรวจออกไปสอบถาม สร้างภาพให้ชาวบ้านตื่นกลัว ไปตอนกลางคืน ถามเหมือนจะออกไปจับ ทำให้ชาวบ้านขวัญเสีย เพราะไปในสถานการณ์ไม่ปกติ

ทหาร ติดตามตลอด ไม่ว่าจะอยู่บ้าน หรือออกจากบ้านไปสัมมนา ในความรู้สึกเราคือ การถูกลิดรอน ไม่มีอิสระต่อการดำรงชีวิต

ปลัดอำเภอ เข้าถามเรื่องการเคลื่อนไหว แต่เมื่อรายงานจังหวัด ทหารลงมาตอนกลางคืนในวันสัมมนา และสั่งการผ่านกำนันไม่ให้จัดสัมมนาอีกต่อไป

ปัจจุบัน ใช้วิธีการสอบถามกับชาวบ้านแวดล้อม และบอกให้ชาวบ้านหยุดการเคลื่อนไหว โดยข่มขู่ไว้

ทางอำเภอสั่งให้ไปรายงานตัวตลอดเรื่องการเดินทาง

ส่งคนติดตามแกนนำตลอด คอยถามข่าว ส่งข่าวความเคลื่อนไหว

ชาวบ้านไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่กล้าคุยแลกเปลี่ยนกัน